หมออนามัย เรื่องเล่าดีๆ ของแม่กับลูก


 เรื่องเล่าดีๆ ของแม่กับลูก

หมออนามัย นายอานนท์ ภาคมาลี

 

          แม่ แม่ข้าพเจ้าชื่อคุณแม่อรุณ ภาคมาลี (บุญสร่าง) เกิดเมื่อวันที่ 27 เดือนมีนาคม พ.ศ.2470 ณ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพี่น้อง 3 คน    แม่เป็นลูกคนโต แม่เรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 แม่สมรสกับคุณพ่อทอง ภาคมาลี เมื่อปี พ.ศ.2494 ปัจจุบันพ่อทอง ภาคมาลี เสียชีวิตแล้วเมื่อปีพ.ศ.2547 ด้วยโรคติดเชื้อในกระแสโลหิต อายุ 82 ปี แม่และพ่อทอง ภาคมาลี อพยพครอบครัวมาอยู่ที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เมื่อปี พ.ศ.2500 โดยทำงานที่ศูนย์กำจัดไข้มาลาเรียเขต 1 อำเภอพระพุทธบาท ในตำแหน่งลูกจ้างประจำ (คนงาน) ในช่วงที่เดินทางมานั้นแม่มีบุตร 3 คน คือเด็กชายโอภาศ ภาคมาลี เด็กชายอานนท์ ภาคมาลี เด็กชายสถาพร ภาคมาลี และแม่ มีลูกผู้หญิงอีก 3 คน ปัจจุบันคือ นางตรีศิลป็ ภาคมาลี นางอรทัย แสงทอง นางพรทิพย์ ใจซื่อ แม่ประกอบอาชีพเสริมรายได้ในครอบครัว โดยพับถุงกระดาษขาย (ในสมัยเมื่อ 40 ปีที่แล้ว) ปลูกผัก พวกต้นโหรพา ใบกระเพรา นางลัก สะระแหน่ ตระไคร้ ขายที่ตลาด ด้วยความอดทนและได้ส่งเสียให้พวกข้าพเจ้าและพี่น้องทุกๆคนได้เรียนหนังสือจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (ม.ศ.3)ทุกคน และมีงานทำ บางคนก็ไปหาศึกษาต่อเองจนจบปริญญาสาธารณสุขศาสตร บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล (นายอานนท์ ภาคมาลี) แม่รับจ้างซักผ้ารีดผ้า รับจ้างเลี้ยงเด็กมากกว่า 10 คนขึ้นๆไป เพราะแม่รักเด็กที่นำมาเลี้ยงทุกๆคน และแม่เป็นบุคคลที่ใจดี ไม่เคยทะเลาะกับพ่อให้ลูกๆเห็นเลย น้องสาวมีครอบครัวมีบุตรสองคน แม่ผมเป็นคนเลี้ยงให้ทั้งสองคน และเมื่อข้าพเจ้าแต่งงาน(เคยแต่งงานครั้งเดียวจริงๆ) เมื่อปี พ.ศ.2523 และมีบุตรชายชื่อเด็กชายศุภชัย ภาคมาลี (อั้ม) และในปี พ.ศ.2525 มีบุตรสาวเพิ่มอีกหนึ่งคนชื่อเด็กหญิงกนกอร ภาคมาลี (หมวย) แม่ข้าพเจ้าเป็นคนเลี้ยงหลานทั้งสองจนโตพอที่จะเข้าโรงเรียนได้ที่โรงเรียนวัดพระพุทธบาท ไปรับไปส่งทั้งเช้าทั้งเย็น โดยมีหมาตัวผู้ชื่อเจ้าดอกตามไปรับไปส่งถึงที่ห้องเรียน โดยขึ้นสะพานลอยหน้าตลาดทั้งคนทั้งหมา เมื่อลูกผมเติบโตขึ้นทั้งสองคน แม่ข้าพเจ้าก็ยังเป็นห่วงหลานทั้งสอง เมื่อนายศุภชัย ภาคมาลี รับประกาศนียบัตรทันตาภิบาลที่สวนอัมพร แม่ผมรู้ข่าวขอติดตามไปด้วย และไปนอนพักรอที่สวนสัตว์ดุสิตและไปถ่ายรูปกับลูกกับหลาน และเมื่อนายศุภชัย ภาคมาลี รับปริญญาบัตรสาธารณสุขศาสตร บัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศึกษาต่อและรับปริญญาบัตรอาชีวะอนามัย ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และนางสาวกนกอร ภาคมาลี รับปริญญาบัตร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดลพบุรี และเมื่อนางสาวกนกอร ภาคมาลี แต่งงานและมีบุตรชายชื่อเด็กชายศุภกฤต น้อยแก้ว (เวพ) เกิดเมื่อวันที่ 4 เดือนพฤศจิกายน 2548 แม่ผมช่วยเลี้ยงดูเหลนคนนี้ให้ เป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่ร้องไห้ง้อแง และชอบเล่นสนุกสนาน ชอบอยู่กับย่าทวด เมื่อเด็กชายศุภกฤต น้อยแก้ว (เวพ) อายุ 3 ปี แม่ข้าพเจ้ากับเหลน (เวพ)หยอกล้อกัน เหลน(เวพ)กระโดนใส่ แม่ผมหงายท้องตกลงจากเตียงนอน ข้าพเจ้าต้องพาแม่ไปหาหมอเย็บแผลถึง 48 เข็ม เพราะแม่แก่แล้วหนังที่เหี่ยวย่นฉีกขาด แม่ข้าพเจ้าบอกอย่าไปตีเวพ แม่บอกว่าไม่ได้ระวังตัว เพราะความรักเหลน ข้าพเจ้ารู้ดีว่าแม่ข้าพเจ้าเจ็บปวดแต่มีความอดทนสูง รักษาแผลประมาณสองอาทิตย์  จึงดีขึ้นและหาย

      เมื่อประมาณปี พ.ศ.2530 ข้าพเจ้าซื้อบ้านจัดสรรและที่ดิน โดยพาแม่มาอาศัยอยู่ด้วยปลูกบ้านให้และอยู่ติดกัน ส่วนภรรยาข้าพเจ้าชื่อนางนุชนาถ ภาคมาลี (น้อย) เคยดูแลเอาใจใส่แม่ผมมาตลอด ภรรยาผมลาออกจากการรับราชการเมื่อปี 2550 โดยเป็นพยาบาล อยู่ที่โรงพยาบาลพระพุทธบาท เป็นข้าราชการบำนาญ (ข้าพเจ้าอยู่กับเมียน้อย มาหลายปี พอบอกว่าจะหาเมีย จะได้ยกฐานะเป็นเมียหลวง) ข้าพเจ้าบอกว่าจะพาคนอื่นมาอยู่ด้วย แม่ข้าพเจ้าจะคอยดูว่าจริงหรือไม่ (ชีวิตข้าพเจ้าอยู่กับเมียน้อยมาตลอด) แม่ข้าพเจ้าเป็นคนแข็งแรงสามารถเดินไป – กลับ ตลาดได้ คนรุ่นเดียวกับแม่ ตายไปหมด เมื่อต้นปี พ.ศ. 2555 แม่ข้าพเจ้าเริ่มเจ็บป่วย และอ่อนแรง ความทรงจำ เริ่มหลงลืม เดินทางไปไหนไม่ไหว ต้องฉีดยาเพิ่มเลือดให้ทุกวันจันทร์ วันพุทธ วันศุกร์ และให้หลานและเหลนคอยดูแลเอาใจใส่ ทั้งหาอาหารการกินต่างๆให้ แม่ข้าพเจ้าจะเจ็บป่วยขนาดไหนไม่เคยบ่นหรือพูดให้ใครฟัง ในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ถ้าหลาน นายศุภชัย ภาคมาลี กลับมาบ้าน ข้าพเจ้าจะพาแม่ไปนั่งทานอาหารในห้างบิ๊กซี ที่สาขาจังหวัดลพบุรี และแม่ข้าพเจ้าจะป้อนอาหารให้เหลน เวพ และในวันเสาร์ที่ 18 เดือนสิงหาคม 2555 (ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9) นายศุภชัย ภาคมาลี (อั้ม) จะเข้าพิธีมงคลสมรสกับนางสาวบุษยมาศ ธรรมจารย์ (แนน) บ้านเลขที่ 52 หมู่ 5 ตำบลดอนพุด อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี แม่ข้าพเจ้าพอรู้ข่าว รีบบอกว่าไปไหวและจะไปด้วย ข้าพเจ้ารู้ว่าแม่อยากไปงานแต่ง เมื่อวันที่ 21 เดือนเมษายน 2554 นายศุภชัย ภาคมาลี ได้ลาอุปสมบท แม่ข้าพเจ้ามีอาการแข็งแรง ไปร่วมงานได้ ข้าพเจ้ารู้ว่าปีนี้แม่ข้าพเจ้ามีอาการและร่างกายทรุดโทรม มากเนื่องจากอายุมาก อายุ 85 ปี 4 เดือนกว่า แพ้สังขารตนเอง ข้าพเจ้ารู้ว่าแม่ คงอยู่กับข้าพเจ้าอีกไม่นาน คงจะตายจากข้าพเจ้าไป ข้าพเจ้าถือว่าเป็นคนโชคดีที่ได้รับการดูแลจากแม่มาตลอด จนถึงรุ่นเหลน และข้าพเจ้าจะดูแลแม่ให้ดีที่สุดก่อนที่แม่จะถึงวาระสุดท้าย และข้าพเจ้ายังได้มีโอกาสดูแลแม่ บางคนมีแม่แต่ไม่ได้มีโอกาสดูแลเนื่องด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม บางคนแม่ตายหนีจากตั้งแต่เด็กหรือยังเล็กอยู่ บางคนหนีเอาตัวรอดและทิ้งแม่ไป บางคนไปอยู่บ้านสามีหรือภรรยาเกิดการรังเกียจแม่ ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ บางคนแม่เอาลูกไปทิ้งเป็นภาระของสังคม ข้าพเจ้าเป็นบุคคลที่โชคดีถึงไม่ร่ำรวยแต่ได้อยู่กับแม่ แม่เป็นทั้งผู้ให้ตลอดการเป็นชีวิตของแม่ แม่เป็นบุคคลที่ปกป้องภัยอันตรายต่างๆให้ลูกๆทุกคน แม่มีลูกหลายคนแม่สามารถเลี้ยงลูกๆได้ตามอัตภาพของฐานะทางครอบครัว เมื่อยามเจ็บป่วย แม่คอยดูแลลูกๆเป็นอย่างดี

      บางคนทอดทิ้งแม่ โดยอ้างว่าแม่เป็นภาระในการเลี้ยงดู แม่เป็นปัญหาอุปสรรคในเรื่องต่างๆ ทั้งๆที่มีโอกาสได้เลี้ยงดูแม่ ท่านปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป บางคนไม่รู้ว่าแม่ตนเองคือใคร ท่านเคยไปงานศพหรือไม่ ถ้าไปจะเห็นที่พวงหรีดเขียนด้วยข้อความว่า ด้วยรักและอาลัยจากลูกๆ ตอนอยู่ตัวเป็นๆคงไม่มีความรักความอาลัยจากลูกๆ บางคนแย่งสมบัติกันฆ่ากันตายระหว่างพี่น้องกันเอง ข้าพเจ้าเติบโตมา แม่ให้ความรักข้าพเจ้ามาตลอดแม่เป็นครูคนแรกของข้าพเจ้าที่สอนให้กินข้าวกินน้ำเป็น และอีกจิปาถะต่างๆให้การเรียนรู้ในการใช้ชีวิตประจำวัน แม่บางคนมีลูกหลายคนหากยังมีสมบัติที่ยังไม่ได้แบ่งก็จะประคบประหงมอยู่ บางคนโยนแม่ให้ไปอยู่บ้านพี่คนนั้นน้องคนนี้เกี่ยงกันไปกันมาที่จะเลี้ยงดูหรือ เมื่อแม่เจ็บป่วยกลัวหมดเปลืองและเสียค่าใช้จ่าย เมื่อแม่ข้าพเจ้ายังอยู่ ถือว่าเป็นหลักชัยให้พี่น้องๆได้มาพบกัน หากสิ้นแม่แล้วลูกๆทุกๆคนอาจต่างคนต่างอยู่ และห่างกันไปในระหว่างครอบครัว ยังมีอีกมากมายที่จะเขียนเรื่องราวถึงแม่ในเชิงลึกกว่านี้ แต่การเขียนครั้งนี้ข้าพเจ้าน้ำตาไหลทุกครั้งที่เขียนและอดกลั้นน้ำไม่อยู่ เมื่อนึกถึงบุญคุณหรือพระคุณของแม่ แม่ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติตามที่เขาคัดเลือก แต่แม่เป็นแม่ดีเด่นในใจข้าพเจ้าเสมอตลอดมา และตลอดไป และนำความรู้กับความดีของแม่ ไปใช้ในชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพ เป็น ศิริมงคล สุดชีวิต สุดหัวใจ และตลอดชีวิตของข้าพเจ้าและลูกๆทุกคนที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่ไม่ว่าชาติไหนๆทุกภพทุกชาติขอเป็นลูกของแม่อรุณ ภาคมาลีตลอดไป

         แม่ข้าพเจ้าทุกวันนี้เรียกหาแต่เหลนชื่อเด็กชายเวพ เพราะเหลนจะเข้าไปเล่นกับย่าทวดทุกๆวันและแอบเอาขนมหรือนมและบะหมี่สำเร็จรูปไปให้ย่าทวดกินด้วยกัน มีอยู่วันหนึ่งข้าพเจ้ากลับมาบ้านเร็วจากที่ทำงานเด็กชายเวพ โรงเรียนปิดเทอม แม่ผมไปรับเงินผู้สูงอายุที่เทศบาลเดือนละ 800 บาทมา พอดีมีรถขายไอศรีมผ่านหน้าบ้าน แม่ผมเรียกเด็กชายเวพไปซื้อไอศรีม ข้าพเจ้าบอกว่าเดี๋ยวจะจ่ายเงินให้ แม่ข้าพเจ้าบอกว่าไม่ต้อง ข้าพเจ้าบอกหลานว่าอย่ารบกวนย่าทวด แม่ข้าพเจ้าหยิบไอศรีมอันละ 5 บาทไว้กินเอง และหยิบไอศรีมให้เหลนอันละ 30 บาท เพราะความรักความเอ็นดูที่ย่าทวดมีให้กับเหลน ข้าพเจ้ามาคิดดูว่าแม่ให้ความรักแก่ลูกๆทุกคนแล้วยังให้ความรักไปถึงรุ่นหลานและเหลนอีก

หมายเลขบันทึก: 497165เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2012 15:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2012 19:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ความรักของ "แม่" รักที่ ยิ่งใหญ่ รักที่ไม่มีเงือนไข รักมี่ไม้มีข้อแม้ ใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ

ขอบคุณบทความดีดีนี้ค่ะ

คุณแม่พี่แดงท่านใจดี...และเลี้ยงลูก...หลาน...เหลน..ได้อย่างดี..น่ายกย่อง...ขอบพระคุณบทความที่แสนประทับใจครับ

ร่วมรักแม่ แม่ของทุกท่าน ที่ได้อ่านล้วนน่ารัก

รักลูก มีหลานก็รักหลาน ยิ่งมีเหลนก็ยิ่งรักเหลนมากกว่าอีก อิจฉาเหลนไหมคะ

แม่หนึ่งคนเลี้ยงลูกสิบคนได้.. แต่ลูกๆหลายๆคนเลี้ยงแม่คนเดียวไม่ได้.. เวลาดูสกูปชีวิต ช่อง ๗ รู้สึกไม่ดีเลยค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท