เรียนคุณหมอรุ่ง นักสร้างสุข
อ่านประโยคนี้แล้วความคิดแจ่มชัดถึงความอัตคัดของชนบท
( สมัยนั้นไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงทุกครัวเรือน ผู้เขียนยังต้องทำคลอดให้ตามบ้าน โดยอาศัยแสงสว่างจากตะเกียงน้ำมัน ที่ให้แสงสว่างด้วยการเผาไส้ ที่เต็มไปด้วยเขม่าควัน ที่เป็นเช่นนี้ เพราะคนไข้เดินมาสถานีอนามัยไม่ไหว พาหนะไม่มี แต่ผู้เขียนถูกฝึกให้ทำงานคลอด ได้สะอาดปลอดภัยได้ทั้งที่บ้านและสถานีอนามัย)
สวัสดีค่ะคุณวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยมคนอาชีพเดียวกัน สาธารณสุขนะคะ เป็นความทรงจำที่ไม่ลืมเลยค่ะกับข้อความนั้น แม้ว่าทุกวันนี้เราจะนั่งทำงานกันแต่ห้องแอร์ก็ตาม เป็นกำลังใจให้คุณวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- ด้วยนะคะ
สวัสดีค่ะคุณSila Phu-Chaya หมออนามัยคู่กับความอัตคัดของชนบท ปัจจุบันก็ยังมีหลายแห่งที่เป็นเช่นนี้อยู่ ติดตามตอนต่อไปนะคะ
นึกถึงหมออนามัยเอาวัคซีนแช่ในต้นกล้วย เจาะรูต้นกล้วยเอาวัคซีนใส่ นี้ก็เคยเห็นน่ะ
แล้วตอนที่ออกไปหยดโปลิโอให้เด็กในรรก็สนุกมาก วิ่งจับกันสนุก
คุณวอญ่าคะ แล้วต้องต้มเข็มฮีดวัคซีนกันอีก ซึ่งสมัยนี้คงยอมรับกันไม่ได้ แล้วก็ใช้ซึ้งนึ่งสำลี ก๊อสอีก ก็ต้องทำกันไปตามมี ตามเกิด เครื่องนึ่งอัดแรงดันไม่มีหรอกค่ะ ขอบคุณที่มาร่วมแบ่งปันกัน จะได้เห็นความเป็นไป และเป็นมาของงานสาธารณสุขค่ะ
สวัสดีค่ะคุณSomsri จริงนะคะ เวลาได้เล่าเรื่องราวของเราแล้วมีความสุข และได้อ่านเรื่องของคนอื่นก็มีความสุขเช่นกัน เหมือนเปิดโลกให้กว้างไกลในโกทูโนว์แห่งนี้ ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณชลัญธร ขอขอบคุณดอกไม้กำลังใจ ชาวสาธารณสุขรู้สึกชื่นใจจังเลยค่ะ
ไม่ทันช่วงที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ค่ะ.. แต่อยากบอกว่าสมัยก่อน งานเยอะ คนน้อย อุปกรณ์ไม่เพียงพอ.. แต่สามารถทำงานกันได้อย่างมีความสุข และสนุกกับการทำงาน
ระยะหลังมานี่ คนไข้มีความรู้มากขึ้น ใส่ใจตัวเองมากขึ้น การฟ้องร้องก็มากขึ้นตามตัว.. ส่งผลให้การทำงานต้องระมัดระวังมากขึ้นเยอะค่ะ
ขอบคุณนะคะสำหรับประสบการณ์ดีๆ
มหา แวะมาสนับสนุนแนวคิดครับ
สวัสดีค่ะคุณปริม ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจ ทำให้รู้สึกอยากถ่ายทอดประสบการณ์ยิ่งขึ้นค่ะ
ต้องขอขอบคุณคุณณัฐรดาเป็นอย่างยิ่ง ที่กรุณามาอ่านและมอบดอกไม้ให้ รวมถึงทุกท่านที่แวะเข้ามาอ่านด้วยนะคะ
คุณwasawat Deemarn คะ เรื่องเล่าที่กลายเป็นอดีตไปแล้วบางส่วน แต่เชื่อว่ายังมีบางสถานที่ที่เป็นแบบนี้ ตราบใดที่เรายังมีชนบทเป็นพื้นที่อาศัยของคนในบ้านเมืองเราค่ะ ขอบคุณดอกไม้กำลังใจค่ะ
สวัสดีค่ะคุณkunrapee ค่ะสมัยนั้นลำบากอยู่เหมือนกัน ใฟฟ้าจะมีเฉพาะตลาดที่มีคนอาศัยอยู่รวมกันมากๆ ส่วนบ้านโดดที่ห่างออกไปต้องจุดตะเกียง ส่วนบ้านที่มีฐานะแต่ห่างไกลก็มีเครื่องปั่นไฟของตัวเอง สมัยก่อนเราใช้คำว่าพึ่งพาอาศัยเป็นตัวเชื่อมใจกัน การร้องเรียนเกลียดชังจึงไม่มีให้เห็น ปัจจุบันสิ่งสำคัญที่ว่านี้หายไป การสร้างกฎเกณฑ์ขั้นตอนมากไป จึงทำให้ความรู้สึกดีต่อกันหายไปทุกที บริการ24ชั่วโมงยังมีอยู่หรือเปล่า...?ไม่แน่ใจค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันความคิดต่อกันค่ะ
สวัสดีค่ะท่านมหาเหรียญชัยที่คิดถึง แอบนึกว่าท่านคงมาเยี่ยมเพราะชอบงานสาธารณสุขเหมือนกัน ความสุขที่ส่งผ่านไปโดยไม่มีประมาณและเจาะจง งานชนบทเป็นงานที่ต้องใช้ความอดทนและมีวิธีการที่ปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ที่สำคัญต้องปรับปรุงทัศนคติตนเองเสียก่อน สมัยนั้นคนที่คิดหลักสูตรให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจึงเป็นผู้ที่ผ่านงานนี้มาด้วยตนเองทั้งนั้น จึงเกิดเป็นหมออนามัยพิมเดียวกันมากมายแม้จะต่างสถาทนที่กันก็ตาม
ชื่นชมและดีใจแทนผู้ป่วยด้วยค่ะ..
สวัสดีค่ะคุณ นาง นงนาท สนธิสุวรรณ ขอบพระคุณค่ะพี่ ดอกไม้ลีลาวดีสีสันสวยงามมาก ทำให้ได้กลิ่นอ่อนๆด้วยนะคะ การได้ทำในสิ่งที่รู้สึกดี ก็มีความชื่นบานเหมือนดอกไม้ของพี่เลยค่ะ
สวัสดีค่ะพี่รุ่ง เป็นกำลังใจให้นะค่ะ จบจากวิทยาลัยฯเดียวกันค่ะ แต่รุ่นหลังมาก รุ่น 64 ดีใจที่ได้มาเจอรุ่นพี่ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณนงรัตน์ พี่รุ่น 46 เลขกลับกันพอดีแต่คงห่างไปหลายปี ยินดีที่รู้จักนะคะ มาเขียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ตามไปที่blogแล้ว ยังไม่มีบันทึกเลย ถือว่าเป็นพี่เสี่ยงก็แล้วกันนะคะ (เป็นประเพณีของเรา มีพี่เสี่ยง น้องเสี่ยงที่เอาใจใส่กันนะคะ )