ปีหนึ่ง ลูกสาวคนหนึ่งเขียนเรียงความส่งอาจารย์เนื่องในวันแม่
แม้จะทราบว่าลูกบรรยายถึงแม่ซึ่งก็คือผู้เขียนแต่ในด้านดี แต่ก็ยังเป็นเรื่องดีที่ได้ทราบความในใจของลูก
ดังประโยคที่ว่า
"แต่ก่อนฉันแทบไม่ได้ให้ความสำคัญ ในยามสุขฉันจะมีความสุขกับเพื่อนฝูง แต่ในยามทุกข์ ยามที่ฉันเสียใจ กลับนึกถึงแม่เป็นคนแรก ฉันจะกลับไปหาเขาคนนั้น ซึ่งเปรียบเหมือนแหล่งพักพิงใจให้ฉันเสมอ"
และเพราะการนำเรียงความของลูกมาอ่านใหม่ จึงทำให้ทราบว่าผู้เขียนยังสอนลูกได้ไม่ดีนัก ดังที่ลูกเล่าว่า เมื่อลูกโกรธให้หลับตานับหนึ่งถึงสิบนั้น เป็นการสอนตั้งแต่ลูกยังอยู่ประมาณชั้นอนุบาลหรือประถมต้น ซึ่งในขณะนั้นผู้เขียนยังไม่ได้ศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ซึ่งหากได้ศึกษาพุทธศาสนามาก่อนหน้า ก็คงสอนให้ลูกทำมากกว่าการระงับความโกรธที่ปลายเหตุ แล้วหาเหตุผลตามที่พอมองเห็น คงสอนว่าหลังจากที่สงบลงแล้ว ให้ลูกพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้ลูกโกรธในหลายๆแง่มุม โดยการมองเหตุปัจจัยที่อิงอาศัยกัน หรือ สืบเนื่องกัน ด้วยโยนิโสมนสิการ
ครั้นเวลาผ่านเลย ก็ลืมไปว่าคำสอนที่เคยสอนไปคำสอนใดควรแก้ไขบ้าง จนได้นำเรียงความของลูกขึ้นมาอ่านใหม่
จึงได้แก้ไขความผิดของตนต่อลูกๆ กับทั้งได้ตั้งใจว่าจะพยายามมองหาสิ่งที่ควรแก้ไขเพื่อคุยกับลูกๆใหม่
ซึ่งหวังว่าจะยังไม่สายเกินไป
................................................................
http://ahph9thi.gotoknow.org/assets/media/files/000/608/596/original_IMG_4588-wl.JPG
ในทุกๆปีวันสำคัญต่างๆก็หมุนเวียนมาบรรจบ ประชาชนคนไทยทุกคนต่างร่วมทำพิธีการต่างๆตามเนื้อหาสาระในวันสำคัญนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทยหรือต่างประเทศ เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ วันลอยกระทง เป็นต้น แต่มีหนึ่งวันสำคัญที่วันนี้ลูกทุกคนต่างรำลึกถึงพระคุณมารดาคือ วันแม่ ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๒ สิงหาคม ของทุกปี เป็นโอกาสให้ลูกทุกคนได้แสดงความกตัญญุตาเคารพระลึกในพระคุณของแม่ ผู้ซึ่งเลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็กจนโต อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่กับลูกด้วย
ลูกทุกคนนั้นล้วนภูมิใจที่เกิดมามีแม่ รวมทั้งฉันก็ภูมิใจที่มีแม่ที่ดีเช่นกัน แม่ของฉันเป็นคนร่าเริง มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ มีความเมตตาชอบช่วยเหลือผู้อื่น อีกทั้งเป็นคนขยันทำงาน สร้างเนื้อสร้างตัวด้วย ๒ มือของตนเอง รักและเคารพสิทธิผู้อื่น แม่ยังเป็นคนที่ฉันปรับทุกข์ได้ทุกเมื่อยามฉันเสียใจและเป็นคนที่เข้าใจจิตใจของฉันมากที่สุด ในยามคับขันฉันจะนึกถึงแม่เป็นบุคคลแรกเสมอ อีกทั้งยังสอนให้ฉันเป็นคนดี สอนให้รัก หวังดีและเคารพสิทธิของผู้อื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา สอนให้ฉันอยู่ร่วมกับคนในสังคมที่มีความคิดและทัศนคติที่แตกต่างกันได้ แม่จะบอกเสมอว่า ถ้าเราโกรธหรือทำร้ายใคร ให้ลองคิดในทางกลับกัน ลองเปรียบว่าเราเป็นคนนั้น ถ้าเราถูกปองร้าย ถูกคนไม่หวังดีมาทำให้เราเสียใจ จะรู้สึกอย่างไร และยังสอนให้ฉันเป็นคนที่มีความอดทน ใจเย็น ยอมรับตนเองและผู้อื่นได้ เช่น ถ้ายามฉันโกรธและควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้ แม่จะสอนให้ฉันหลับตาและนับ ๑ ถึง ๑๐ ในใจ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความโกรธและทำให้ฉันใจเย็นขึ้น สามารถกลับมาคิดแก้ปัญหาตามหลักของเหตุและผลได้
นอกจากนี้แม่ยังเป็นผู้ชี้นำความรู้และปัญญาให้ฉัน เช่น ฉันอยากได้หนังสืออะไรแม่ก็จะซื้อให้เสมอ แต่ต้องเป็นหนังสือที่มีสาระสอดแทรกในเรื่อง แม่มีหลักการในการอ่านหนังสือและทำให้เข้าใจได้ง่าย โดยการฝึกให้ฉันนั่งสมาธิก่อนอ่านหนังสือเป็นเวลา ๕ นาที เพื่อให้จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน มีสมาธิจดจ่อกับเนื้อหาสาระที่อ่านทำให้ฉันไม่ต้องเสียเวลาไปกับการอ่านหนังสือสอบในแต่ละวิชามากนัก และเป็นผู้คอยรับ-ส่งฉันไปเรียนพิเศษยังที่ต่างๆ แม่จะคอยถามถึงเรื่องราวที่ฉันเรียน เรื่องเพื่อนที่โรงเรียนและความสุขสบายของฉันเสมอ ทำให้ฉันรู้สึกว่าแม่ให้ความเอาใจใส่ต่อฉันมากเพียงใด
ครั้งหนึ่งฉันไม่สบายเป็นไข้หวัดอาเจียนอย่างหนัก แม่ของฉันก็คอยดูแล คอยเช็ดตัวหาข้าวหาน้ำมาให้ฉันทั้งวัน จนกลางคืนฉันหลับไปแล้วแม่ก็ยังไม่ได้นอน เพราะคอยเช็ดตัวให้ไข้ลดให้ฉันทั้งคืน ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจมาก ที่รู้ว่าแม่ห่วงใยฉันมากเพียงใด อีกครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ฉันอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ในช่วงปิดเทอมฉันไปอยู่หอที่กรุงเทพฯกับเพื่อนเพื่อเรียนพิเศษเตรียมสอบเข้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในตอนแรกแม่ของฉันก็ไม่อนุญาตให้ไป แต่เมื่อฉันขอร้องแม่ก็โอนอ่อนตลอดในระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ฉันไปอยู่กรุงเทพฯ ทุกๆวันแม่จะโทรมาหาฉันเสมอ ถามถึงความเป็นอยู่ ถามถึงเรื่องสุขภาพ การเงิน ความเครียดจากการเรียนอย่างหนักและความกดดันในเรื่องต่างๆ แม่เอาใจใส่ฉันเป็นอย่างดีและขับรถมาเยี่ยมฉันทุกอาทิตย์ ทำให้ฉันมีกำลังใจและรู้สึกอบอุ่นเหมือนมีแม่อยู่ใกล้ๆฉันเสมอ แต่ฉันก็ยังกังวลอยู่ว่าถ้าหากฉันสอบไม่ติด แม่จะเสียใจ กลัวว่าจะทำให้แม่ผิดหวังในตัวฉัน ในวันประกาศผลสอบ สิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดก็มาถึงคือ ฉันสอบไม่ติด ฉันผิดหวังและเสียใจ ซึ่งคนแรกที่ฉันนึกถึงก็คือแม่ แต่กลับไม่กล้าโทรหาเนื่องจากกลัวแม่รู้และเสียใจ
คืนนั้นแม่กลับเป็นฝ่ายโทรมาหาฉันเองเสียงของแม่คอยปลอบโยนทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นและกำลังใจในการก้าวต่อไปคืนนั้นเองเป็นคืนที่ทำให้ฉันได้รู้ว่าบุคคลที่คอยอยู่เคียงข้าง เป็นกำลังใจ เป็นทั้งเพื่อนเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของฉันนั้น คนที่ฉันจะให้ความไว้วางใจ แท้จริงแล้ว เขาคนนั้นอยู่ไม่ไกลจากฉันเลย เขาคนนั้นอยู่เคียงข้างฉันเสมอมา ตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันนี้ ซึ่งแต่ก่อนฉันแทบไม่ได้ให้ความสำคัญ ในยามสุขฉันจะมีความสุขกับเพื่อนฝูง แต่ในยามทุกข์ ยามที่ฉันเสียใจ กลับนึกถึงแม่เป็นคนแรก ฉันจะกลับไปหาเขาคนนั้น ซึ่งเปรียบเหมือนแหล่งพักพิงใจให้ฉันเสมอ ณ บัดนี้ ฉันจึงเข้าใจแล้ว และฉันจะไม่เสียใจอีกที่สอบไม่ติดเพราะฉันยังมีแม่ แม่ที่ยังรักฉันเหมือนเดิมไม่ว่าฉันจะเป็นอย่างไร และอีกหลากหลายเหตุการณ์มากมายในชีวิตที่ทำให้ฉันเข้าใจแม่มากขึ้น
ครั้งหนึ่งแม่กลับมาจากกการทำงาน และฉันนำน้ำไปให้แม่ดื่ม ทั้งที่ฉันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่แม่กลับดีใจ ทำให้ฉันได้รู้ว่า แค่เราปฏิบัติตัวเป็นเด็กดี เช่น มีสัมมาคารวะ มีน้ำใจ ขยันหมั่นเพียร รับฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ เพียงเท่านี้แม่ก็สุขใจแล้ว
กาลเวลาผ่านไป ฉันจึงเข้าใจว่าแท้จริงนั้นแม่รู้จักและเข้าใจฉันมานานแล้ว แต่ฉันกลับเข้าใจแม่เมื่อไม่นานมานี้เอง เป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วที่แม่เลี้ยงดูฉันมา อีกทั้งอายุแม่ก็มากขึ้น ร่างกายเริ่มเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงสถิตอยู่กับแม่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงคือ ความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีให้ฉัน ซึ่งแม้นานเท่าไหร่ก็ยังคงเหมือนเดิมไม่มีวันลดลง ฉันจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรตอบแทนพระคุณอันมากมายที่แม่มีให้ โดยการประพฤติตนเป็นคนดีของสังคมและคอยเลี้ยงดูท่านในยามแก่เฒ่า รักและเข้าใจแม่เหมือนอย่างที่แม่รักและเข้าใจเรา ซึ่งฉันคิดว่าฉันเป็นผู้โชคดีที่เกิดมามีแม่รักและเข้าใจฉัน ในอนาคตข้างหน้าฉันจะทำทุกอย่างที่ทำให้แม่ภูมิใจ จะเป็นลูกที่ดีสมใจแม่และรักแม่ตลอดไป
ไม่เลยมีวัุนไหนที่ไม่คิดถึงแม่เลยค่ะ
^__^
รักแม่ที่สุดค่ะ
ขอชื่นชมในตัวลูกและแม่ครับ
ขอบคุณคุณแม่ที่นำบทเรียนดีๆ มาฝากพวกเรา
ขอบคุณคุณ ชาดา ~natadee ค่ะ
มาเจิมให้กัน
คุณ Kunrapee คะ
"เรารักแม่" กันเสมอนะคะ
อ่านแล้วชื่นใจค่ะ
ทำให้คิดถึง เรียงความเรื่องนี้ กลับไปอ่านอีกหลายรอบเช่นกัน
ขอบคุณที่แบ่งปันบันทึกดี ๆ ค่ะ
ไกลบ้าน ห่างแม่ แต่ไม่เคยไม่คิดถึง
ขอบคุณบันทึกดีดี และเทคโนโลยีที่ทำให้ได้คุย
กับแม่ทุกวัน ได้เห็นหน้าแม่ "รักแม่คะ"
ขอบคุฯคุณ พ.แจ่มจำรัสค่ะ
มาเยี่ยมกันเสมอ