สวัสดีค่ะ สำหรับวันนี้จากที่ได้ไปศึกษาเกี่ยวกับการจัดการนวัตกรรมขององค์กร ตั้งแต่ยุคแรกจนถึงยุคที่ 4 จึงขอสรุป ดังนี้
จะกล่าวถึง กระบวนทัศน์ของนวัตกรรมตั้งแต่ยุคแรก (Innovation 1.0) เป็นนวัตกรรมแบบปิด นวัตกรรมยุคที่ 2 (Innovation 2.0) เป็นนวัตกรรมแบบเปิด ยุคที่ 3 (Innovation 3.0) เป็นนวัตกรรมที่ร่วมเอายุคที่ 1 และยุคที่ 2 มารวมเข้าด้วยกัน และยุคที่ 4 (Innovation 4.0) เป็นยุคนวัตกรรมที่เริ่มสนใจเรื่องจิตใจ
กระบวนทัศน์การเปลี่ยนจากยุคนวัตกรรมแบบปิดผ่านมาเป็นยุคแบบเปิดสู่นวัตกรรมแบบฝังตัวอยู่ในกลุ่มคน
ยุคแรก (Innovation 1.0) เป็นยุคนวัตกรรมแบบปิด เป็นยุคนวัตกรรมที่เป็นขยะ เน้นในเรื่องของข้อมูลที่สามารถค้นหาได้จากระบบอินเตอร์เน็ตและเว็บไซต์ต่าง ๆ จะมีทั้งเรื่องที่สำคัญและเรื่องที่ไม่สำคัญ โดยกระบวนการที่เรียกว่าระบบดิจิตอลหรือระบบออนไลน์ที่ใช้ในการโต้ตอบติดต่อสื่อสารกัน เช่น การพัฒนาโทรศัพท์ เกมส์ และระบบการสื่อสารต่าง ๆ ระบบดิจิตอลจะอาศัยเทคโนโลยีความเร็วสูง เทคโนโลยีหลักที่ช่วยในการติดต่อสื่อสารขององค์กร คือ อินเตอร์เน็ต ตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา ได้มีการพัฒนาระบบอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยุคแรกนี้กระบวนทัศน์การแลกเปลี่ยนนวัตกรรมจะถูกปิดจากภายนอก จะมีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเป็นทางการ
ยุคที่ 2 (Innovation 2.0) เป็นยุคนวัตกรรมระบบเปิด เป็นยุคนวัตกรรมแห่งการเชื่อมต่อระหว่างบุคคล มีการใช้เครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัย เช่น ใช้บล็อกในการเขียนบทความวิชาการ ใช้ e-mail และ facebook ในการติดต่อสื่อสารกันอย่างแพร่หลาย เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจะเป็นเทคโนโลยีระบบเปิด สองหลักการที่จะเพิ่มการสร้างสรรค์นวัตกรรม คือ จากบนลงล่างและจากล่างขึ้นบนแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมแบบเปิดของระบบเทคโนโลยี ที่เปิดรับข้อมูลจากภายนอกองค์กรเข้ามาใช้ในการพัฒนาองค์กรโดยเครื่องมือสื่อสาร ที่ทันสมัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังขาดการจัดการที่เป็นระบบ
ยุคที่ 3 (Innovation 3.0) เป็นยุคนวัตกรรมแห่งการเชื่อโยง เป็นยุคที่พูดถึงองค์ความรู้ที่ฝังตัวอยู่ในตัวคน จะเน้นเรื่องการฝังองค์ความรู้ สนใจดึงศักยภาพของคนที่ฝังอยู่ในตัวออกมาสร้างเป็นนวัตกรรมต่าง ๆ ยุคที่ 3 นี้จะสนใจทั้งภายนอกและภายในองค์กรโดยกลุ่มคนที่สนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งเรื่องเดียวกัน จะมีนวัตกรเป็นผู้คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในองค์กรเอาสิ่งจากภายนอกมาบูรณาการโดยนำยุคที่ 1 และยุคที่ 2 มารวมเข้าด้วยกัน และสนใจสิ่งที่ฝังใจอยู่ในตัวบุคคล สนใจที่จะแก้ปัญหาในยุคที่ 2
ยุคที่ 4 (Innovation 4.0) เป็นยุคนวัตกรรมที่เริ่มสนใจเรื่องจิตใจ คือ เมื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีแล้วจะสนใจในด้านความรู้สึกนึกคิดของบุคคล เช่น สนใจว่าทำไมคนนี้ถึงประสบความสำเร็จในการทำงาน นวัตกรรมยุคที่ 4 นี้จะมีความสำคัญมากในการพัฒนาองค์กรเพราะนอกจากจะเน้นการติดต่อสื่อสารด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้วยังคำนึงถึงความรู้สึกของคนด้วย ในการพัฒนาทั้งสองอย่างนี้จะต้องควบคู่กัน
ปัจจุบันนวัตกรรมแบบเปิด (Open Innovation) จะมีความสำคัญและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีความคิดว่า องค์กรควรมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และพร้อมเปิดรับแนวคิดใหม่ๆ จากแหล่งภายนอก และเน้นในเรื่องจิตใจสนใจในด้านความรู้สึกนึกคิดของบุคคล เป็นการนำองค์ความรู้จากภายนอกองค์กรมาผสมผสานกับสิ่งที่มีอยู่แล้วภายในองค์กร เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม
ไม่มีความเห็น