เรียนรู้จากบรมครูทางธุรกิจ สวัสดิ์ หอรุ่งเรื่อง ตอนที่ 1


บรมครูทางธุรกิจ สวัสดิ์ หอรุ่งเรื่อง

จากการชม และอ่าน คำสัมภาษณ์ของ บรมครูทางธุรกิจ สวัสดิ์ หอรุ่งเรื่อง

พูดไว้ใน

http://www.matichon.co.th/play_clip.php?newsid=1332767630

ก็ให้สนใจ  เพราะ ผมไม่เคยใกล้ชิดกับนักธุรกิจใหญ่  และนักการเมืองใหญ่

จึงไม่ค่อยจะรู้ว่าเขาคิด เขาทำงานกันอย่างไร   พอได้ชมได้อ่าน ท่านสวัสดิ์พูด  แม้จะไม่ค่อยเข้าใจทั้งหมด ก็อดใจที่จะขอเรียนรู้ไม่ได้

 

เรียนรู้แล้วได้ไปคนเดียวก็คงไร้ผล  จึงชวนทุกคนให้สนใจด้วย

โดยผมจะเอามาตัดเป็นตอนสั้นๆ  และวิเคราะห์วิจารณ์กัน ให้เข้าใจ

ในสิ่งที่ผมคิดว่าดีมีประโยชน์

   

ผมจะ ก็อปคำสัมภาษณ์ของท่านสวัสดิ์มาวาง

ประเด็นใด หรือข้อความใดที่จะจับมาวิเคราะห์วิจารณ์ ก็จะใช้อักษรสีแดง

แล้วตามด้วย ความเห็นของผมต่อตัวแดงหนา  เป็นอักษรสีเขียว

 

ตอนที่ 1

วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555   เวลา  09:00:00
มติชนออนไลน์

หลังจากวันที่ศาลสั่งให้ "สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง" อดีต 1 ใน 500 มหาเศรษฐีของโลก ซึ่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ เจ้าของธุรกิจโรงงานเหล็กขนาดยักษ์ใหญ่ ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เหมราชพัฒนาที่ดิน ให้กลายเป็นบุคคลคนล้มละลายเพียงชั่วข้ามคืน หลังการประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ด้วยหนี้สินมูลค่า 2700 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินบาทในมูลค่าขณะนั้นก็เฉียดแสนล้าน

 

ความเห็นของผมต่อตัวสีแดง

เฮ้ย!! มันเป็นไปๆได้หรือนี่  เพียงข้ามคืนรวยล้นฟ้าตื่นขึ้นมากลับมาเป็นค้นล้มละลาย

พร้อมกับประโยคเด็ด (1)"ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" หากนับจากวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2551 ถึงวันนี้ (2) ครบ 3 ปีเต็มที่ "สวัสดิ์" พ้นจากคำว่าเป็นบุคคลล้มละลายแล้ว "มติชนออนไลน์" ได้ไปติดตามถามไถ่ชีวิตช่วงระหว่าง 3 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และจะเดินต่อไปอย่างไร

ความเห็นของผมต่อตัวสีแดง

(1) ท่านคิดได้อย่างไร ทำไมถึงคิดอย่างนี้ท่านมีวิธีคิดของท่าน ติดตามอ่านต่อไป  อยู่ข้างท้าย ๆ ครับ

(2) เอ้า!!  คนล้มละลายนี้ แค่ 3 ปี  เอง เมื่อก่อนนี้เคยรู้ว่า ยาวกว่านี้ แล้วทำไมถึงเหลือ 3 ปี  ข้างท้ายนี้มีคำเฉลย

@คุณสวัสดิ์เองหลังจากถูกปลดจากการล้มละลายได้เหมือนกับเกิดใหม่หรือไม่เมื่อปลายปีที่แล้ว

ผมไม่มีความรู้สึกอย่างนี้เพราะตอนที่ผมรวยที่สุดผมไม่รู้ว่าความแตกต่างระหว่างการมีเงินกับไม่มีเงินรวยกับจนมีข้อแตกต่างกันอย่างไรเพราะตอนที่ผมรวยที่สุด ผมนั่งทำงานที่ตึกตั้งแต่เช้ายันค่ำ โปรเจ็คท์บายโปรเจ็คท์  ผมมีบริษัทในเครือเกิดขึ้นมามากมาย NTS ศรีราชาฮาเบอร์ เหมราชพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีบริษัทอื่นตามมาอีกมากมาย ไม่ใช่รวยแล้วไปซื้อเรือยอร์ชไปเที่ยวรอบโลก ผมยังมาออฟฟิศแบบนี้ไม่ว่ารวยหรือจน ผมจึงไม่รู้ข้อแตกต่างว่า รวยกับจน มีเงินกับไม่มีเงินเป็นอย่างไร

ความเห็นของผมต่อตัวสีแดง

(1) ท่านสวัสดิ์พูดแล้วซึ้ง คนรวยหรือจนไม่แตกต่างกันที่ต่างก็ไปทำงานทุกวัน คนรวยส่วนหนึ่งทำงานไป ๆ โดยไม่รู้ว่ารวย สอดคล้องกับท่านพุทธทาสที่พูดว่าการปฏิบัติงานก็คือ การปฏิบัติธรรม  ธรรมในที่นี้อยากแปลว่า ช่วยให้คนมีงานทำ ช่วยให้คนไทยมีเหล็กใช้ ได้ทำตึกรามบ้านช่อง เป็นที่อยู่อาศัย ใช้ทำงาน และนี่คือการสร้างประเทศไทย ที่ท่านทำไว้ให้แผ่นดิน

 

จบตอนที่ 1 ครับ

แล้วจะว่าไปอย่างนี้เป็นตอน ๆ ค่อย ๆ ทำสมาธิคิดไปพิมพ์ไปช่วยให้เรียนรู้กันไปอีกแบบ

หมายเลขบันทึก: 496225เขียนเมื่อ 27 กรกฎาคม 2012 16:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 กรกฎาคม 2013 09:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ได้แนวคิด "คนรวยหรือจนไม่แตกต่างกันที่ต่างก็ไปทำงานทุกวัน " จะรออ่านตอนต่อไปนะปู่ชัด

รวยหรือจนต่างก็ต้องทำงานทุกวันเหมือนกัน .........เอ เข้าทีนะครับ คมคายเชียว

อรหันต์ที่นอนท่านแฟกซ์ มาให้โพสต์ ไว้รออรหันต์ที่นอนท่านปรับปรุงแก้ไขให้ 100 เปอร์เเซ็นต์แล้วโพสต์ยืนยันอีกทีนะครับ ขอบคุณทุกท่าน และอรหันต์ที่นอนที่มาช่วยกันแบ่งปันความคิดดี ที่จะเอามาช่วยกันปราบโกง ...........................................

เหลี่ยมธุรกิจ ทำธุรกิจ แบ่งเป็นสองช่วง

ก. ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ช่วงนี้ต้องทำให้รุ่ง ให้ดีด เพื่อดึงความสนใจ ให้คนเข้ามาซื้อหุ้น หวังเข้าตลาดหลักทรัพย์ แล้วราคาจะวิ่ง วิธีหนึ่งที่ใช้กันคือ แต่งบัญชีครับ มีคนรับทำ แต่งปั้นให้ดูดี ดูแต่กำไรเยอะ กำไรดี เพื่อล่อแมงเม่าครับ

ข. หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ ช่วงนี้เจ้าของระดมทุนได้หลายทางจนอ้วนพี จากการแตกหุ้นขาย ปั่นหุ้นให้สูง ทำได้หลายรูปแบบ พร้อมกับกู้เงินแบงค์มาทำธุรกิจ แต่ต้องกู้เกินลักทรัพย์ 300 เปอร์เซ็นต์ครับ แล้วยักยอเข้ากระเป๋า ถ้าบริหารแล้วกำไรเยอะต้องแบ่งให้ผู้ถือหุ้นอยู่ดี ก็ให้ตามแต่จะเห็นสมควรแหละครับ (หลังจากโกงให้ตัวเองแล้ว จึงแบ่งให้ผู้อื่น)

เดี๋ยวนี้โลกจะออนไลน์ ตลาดหุ้นก็เหมือนกัน นอกจากจะล่อกันภายในประเทศแล้ว ชาวต่างชาติก็ร่วมถล่มด้วย จะเห็นว่ามีกองทุนเฮดฟัน เข้ามาเก็งกำไร ร่วมกันถล่ม ล่อกันทั่วโลกทุนนิยมครับ อย่าว่าแต่ตลาดหลักทรัพย์เลย ค่าเงินก็ถล่มให้หายนะได้     

ในอดีตมีนายกเอาเงินคงคลังไปไปดันค่าเงินบาท กะถล่มพวกเฮดฟันให้อยู่หมัดที่ไหนได้ เราออกทะเลหายนะกันทั่วประเทศแหละครับ ลางร้ายไปแล้วอาจกลับมาใหม่ ได้ตลอดเวลา ถ้านายกมือไม่ถึง และไร้จิตสำนึกสาธารณะ ครับผม

ถ้าคิดว่าหลังเลือกตั้งแล้วช่างหัวมัน ก็เตรียมตัวพังแหละครับ เพราะคนทำพังมันมีโอกาสได้จำนวนมากครับ คนซวยคือประเทศและชาวบ้าน เพราะฉะนั้นเวลาเลือกตั้งต้องคัดกรองครับ ขืนเอายามมาเป็นนายก ก็หายนะกันทั้งประเทศครับผม ระบบทุนนิยมส่งเสริมให้คนทำงานหนัก เพื่อความมั่งคั่งของตัวเอง เท่ากับบีบคั้นให้คนเห็นแก่ตัว และเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง

เลยทำให้ผู้คนเครียดครับ การแก้แค้นสังคมในโลกทุนนิยมมักจะปรากฏให้เห็นบ่อย ๆ ประเภทฆ่าคราวละมาก ๆ พวกนั้นแหละครับ

                                                   ด้วยจิตคารวะมิตรทั่วยุทธภพ

                                                            อรหันต์ที่นอน

เด็ก ๆ สมัยนี้แสบ ท่านลองดูพวกเด็กเหล่านี้ซิครับ ว่าเขาคิดกันอย่างไร อดใจกับไตเติ้ลไปสัก สี่ห้านาทีก่อนที่จะเข้าเรื่องนะครับ จะพูดถึงเรื่องเฮดฟัน ที่ทำให้ไทยเกิดวิฤฤติเศรษฐกิจด้วยครับ http://jorkawteun.spokedark.tv/20120113/49/  

ตามมาอ่านทีละตอนค่ะ

เป็นวิธีคิดที่ลึกซึ้งมากค่ะ

จะรวยหรือจนก็ต้องทำหน้าที่ของตนเหมือนกัน ใครมีหน้าที่อะไรก็ทำให้สมควรแก่ธรรม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท