มาลีพันธุ์ ภูมา โรงเรียนวัดท่างาม อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
Mrs. Maleephan มาลีพันธุ์ ภูมา โรงเรียนวัดท่างาม อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช Pooma

กิจกรรมหลวงปู่สังวาลย์ ธัมมสาโร


หลวงปู้สังวาลย์ ธัมมสาโร เป็นพระภิกษุที่น่าเลื่อมใสศรัทธาเป็นที่สุด
 

   ธรรมะ เรื่อง จบไม่ลง

ของหลวงปู่สังวาลย์ ธมมสาโร วัดป่าเขามโนราห์

ทางโลกจบบ่เป็นหรอก มาทางธรรมนี้จบ จบลงคือ ทางธรรมไม่วุ่นวายก็คือ จบ จบอยู่กับใจของตน    จบอยู่กับตัวกิเลสของตน โลกจะเอาให้มันจบ ก็จบ จบคือ เราบ่วุ่นวายกับมัน มีหน้าที่อะไร จะทำไปอยู่อย่างเต็มแบบ ทำไปอย่างเต็มอิ่ม จะทิ่มเรื่องอะไรมา มันก็บ่มีแนวยืนยันกับเราหรอก เพราะเราทำไม่มีฉ้อ เราทำไม่มีโกง เราทำไปโดยสุจริตในหน้าที่ของเราอยู่บ่อยๆ มันก็เป็นสิ่งสุจริตอยู่เช่นนั้น เพราะจิตเราไม่โกรธใคร ใจเราไม่เครียดใคร เราเป็นสิ่งที่ปล่อยมันไปเรื่อย ทำงานของเราไปอยู่เรื่อย ขยันมันอยู่อย่างนั้น มันอยู่จังซั่น ความจบของโลกก็อยู่บ่อนนั้น 
           ความจบของธรรม ก็คือ อยู่จากละจากความโกรธ จากโทสะ จากโมหะ จากโลภะ อันนี้ความจบของธรรม 
ความจบของโลกก็คือ ละความโกรธ ไม่โกรธ ไม่เกลียดใคร ทำได้ทั้งวัน ทำได้ตลอดไป ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร พูดมากูก็ไม่ได้ยิน พูดมากูก็ไม่ปาก กูจะทำหน้าที่ของกู หน้าปาก กูมี ปากกาเขียนลงไปเรื่อย ทำหน้าที่ไปเรื่อย มันขึ้นมาเราก็จับอารมณ์ของเราได้ มันจะไปตอบเขาแล้วนี่ เราก็รู้ มันจะไปว่ากับเขาแล้วนี่ มันก็รู้

 ผู้ตื่นอยู่ที่ไหนเล่า ก็คือ ใจเป็นผู้รู้ เป็นผู้ตื่น 
         
ผู้เบิกบานอยู่ที่ไหน ก็คือปลาบปลื้มจิตและปลื้มใจ เป็นสิ่งที่เบิกบานอยู่เสมอ ตัว
         
ผู้รู้ก็อยู่ใกล้ๆเรา ผู้เบิกบานก็อยู่ใกล้ๆเรา ผู้ตื่นก็อยู่ใกล้ๆเรา

เรียบเรียง โดยนางมาลีพันธุ์ เกิดทองมี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสองพี่น้อง อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี

 

 
 

                     ประวัติย่อ  หลวงปู่สังวาลย์ ธมฺมสาโร 

 

หลวงปู่สังวาลย์ ธมฺมสาโร หลวงปู่จำวัดอยู่ที่ วัดป่าเขามโนราห์ ชายป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นวัดร้าง ลักษณะเหมือนบ้านของชาวบ้านธรรมดา เป็นเรือนไม้สองชั้น ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ช่วงนี้ท่านก็สลับออกธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เข้าธุดงค์ประมาณ1-2 เดือน เพื่อฝึกพระใหม่ที่ตามมาธุดงค์ เป็นการฝึก ซึ่งมีผู้กล่าวว่า ปู่สามารถฝึกพระบางองค์ได้ถึงขั้นอริสงฆ์ก็มีหลายรูปแล้ว ตอนนี้มีพระทั้งหมด 11 รูป 

หลวงปู่สังวาลย์ เกิดที่บ้านวังน้ำขาว อ.สามพราน จ. นครปฐม บิดา-มารดาชื่อนายทองหนัก (ปัจจุบันยังเป็นพระบวชอยู่ อายุ 100กว่าปีแล้ว)และนางคำดี วิชาทร พี่น้องทั้งหมด 11 คน ชาย 6 หญิง 5 คน หลวงปู่เกิดวันพุธที่ 15 ธ.ค. 2476 ปีระกา เป็นลูกชายคนที่ 5 ปัจจุบันอายุ 73 ปี

          - ตอนที่หลวงปู่สังวาลย์อายุ 12-20 ปี บวชเป็นเณรอยู่กับหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล   ( ปู่สังวาลย์เป็นหลานแท้ๆของหลวงปู่ขาว อนาลโย)  ท่านเคยธุดงค์กับพระอริยสงฆ์มากมาย อาทิ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ชา หลวงปู่เกษม(สุสานไตรลักษณ์) หลวงปู่บุดดา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่เทศ หลวงปู่มหาบัว   หลวงปู่คำดี ฯลฯ เป็นต้น  หลังจากสึกออกมาก็ทำธุรกิจด้านเกษตรกรรมกับครอบครัว(พ่อแม่)ที่ บ้านวังน้ำขาว มีที่นา 60 ไร่ จ.นครปฐม

             -ช่วงอายุ 21 ปี หลวงปู่เข้ามากรุงเทพฯคนเดียว มีเพียงค่ารถเท่านั้น โชคดีเจอแขกขายโรตีผู้ใจบุญ เห็นปู่เดินอยู่คนเดียวก็ชวนมาทำงานที่บ้าน และชวนมาช่วยขายโรตี สุดท้ายก็เก็บเงินเข็นรถขายโรตี ขายซาลาเปา ขายทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลา 2 ปี อดทน ขยันเก็บเงินเพื่อไปช่วยครอบครัวและพี่น้องอีก 10 คน สรุปเก็บเงินได้ 3,000.-บาท ต่อมาเพื่อนชวนไปเที่ยวที่จ.ชัยภูมิ ไปเจอลุงเปื่อนเสนอขายที่ 170ไร่ในราคา 1,600.-บาท หลวงปู่จึงได้ซื้อที่ดินนั้นและต่อมาซื้อเพิ่มอีก 30ไร่และปู่อยู่คนเดียวเพื่อถางหญ้าพัฒนาเป็นที่ดินที่นาอีก 1 ปี จนอายุ 24 ปี จึงกลับมาชวนพ่อแม่และพี่น้องอีก 10 คนมาตั้งรกราก ณ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

      - เมื่อพ่อแม่พี่น้องอยู่สบายแล้ว หลวงปู่ก็ขอลาบวชตอนอายุ 24 ปี ไปหาหลวงปู่คำดี กิจตธมฺโม ณ วัดถ้ำผาปู่ บ้านนาอ้อ ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย จำนองพรรษาอยู่ 4 พรรษาแล้วขอลาไปอยู่กับหลวงปู่ขาว ณ วัดถ้ำกลองเพล ซึ่งขณะนั้นมีพระอริยะสงฆ์อยู่หลายองค์ที่ไปมาหาสู่กันประจำอาทิ หลวงปู่เหรียญ ปู่แหวน ปู่จวน ปู่ชอบ ปู่เทศ ปู่สิงห์ ปู่วรรณ ปู่ขาน ปู่ฉิม ปู่เกษม ปู่หล้า และได้ชวนพระภิกษุสังวาลย์(อายุ 35 ปี)ออกธุดงค์เข้าดงไม่เพดและดงเสอเพอ จ.อุดร(21วัน) เดินทะลุออกบ้านแพง จ.นครพนม เรียบฝั่งแม่น้ำโขงไปถึงภูลังกา จ.หนองคาย

             - หลวงปู่ชอบธุดงค์อยู่ตามป่าตลอด เคยอยู่ป่าองค์เดียว 14 ปี (ฉันแต่ผัก และพืชสมุนไพรต่างๆ ไม่มีข้าวให้ฉัน) เดินธุดงค์ไปทั่ว อาทิ ประเทศลาว(6-7ปี)และอยู่ที่ภูเขาควายด้วย ไปเขมร(ไปติดคุกขี้ไก่ 5 วัน คุกธรรมดา 10 วัน ) ไปพม่า และป่าทึบในประเทศไทย โดยตลอด

             -หลวงปู่สังวาลย์ เล่าว่า ปู่เคยไปธุดงค์ที่ทุ้งแสลงหลวง(ตอนนั้นอายุ53ปี) และมีเณร(อายุ 15ปี) ตามไปด้วยหนึ่งองค์ ระหว่างทางปู่ได้ไปเหยียบกับระเบิดเข้า เณรได้เข้ามากอดขาหลวงปู่ แต่ปู่บอกให้เณรออกไป เดี๋ยวตายทั้งคู่ ถ้าปู่เป็นอะไร เณรจะได้ไปบอกคนมาช่วย ขณะจะถอนเท้าออกจากกับระเบิดท่านบอกให้เณรหนีไปไกลๆก่อน เมื่อท่านยกเท้าขึ้นก็เกิดระเบิดตูมสนั่น ตัวท่านลอยไปตกในหลุมหลาวที่ทำจากไม้ไผ่หลาวปลายแหลม(ไม้เสียบแหลมๆของพวกผู้ก่อการร้าย) แต่หลาวไม่สามารถแถงทะลุเข้าท่านได้ ท่านก็นอนค้างอยู่นั้น แต่ท่านก็ขาหักแขนหัก และมีบาดแผลใหญ่ถูกกระเบิดเป็นรูใหญ่ ตรงช่วงต้นขาซ้าย หลังจากนั้นเณรก็เขามาช่วยปู่เอาจีวรพันขาปู่ เพราะเลือดไหลไม่หยุด จึงเอายาฉุนยัดไว้ที่รูแผล รูขนาดลูกปิงปองเลย ปู่เปิดให้ดูรอยบาดแผลใหญ่มาก ท่านบอกให้เณรเดินไปตามลำธารน้ำแล้วจะไม่หลงป่า เมื่อพบชาวบ้านให้แจ้งคนมาช่วย ส่วนตัวท่านก็นอนอยู่ที่นั้นขยับกายไปไหนไม่ได้ นอนอยู่ 3วัน แมลงวันมาเกาะขณะที่ท่านสลบไป รู้สึกตัวขึ้นมาก็เห็นหนอนไชแผลเต็มไปหมด เลือดไหลจนซีดหมดทั้งตัว ปู่บอกจะตายก็ตาย ชีวิตนี้ไม่เอา ไม่ยึดติดอะไรแล้ว กว่าเณรจะเดินตามลำธาร ไปพบชาวบ้านใช้เวลา ถึง 3วัน 2คืน แล้วทหารเสนารักษ์ก็มาช่วยรักษาพาท่านไปโรงพยาบาลในที่สุด ธุดงค์ สมเด็จย่าก็เสด็จมาเยี่ยม ที่โรงพยาบาล     จ.เพชรบูรณ์ ผลจากการโดนระเบิด หลังจากนั้น หัวใจเลยหยุดเต้นคือมรณะภาพไป 3 ครั้ง มี 3 วัน 6 วัน และครั้งสุดท้าย 7 วัน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นจะนำศพเข้าโลง ท่านก็ฟื้นก่อนครึ่งชั่วโมง (ขณะที่เป็นศพนั้น หลวงปู่เทศ เทศรังสี บอกหมออย่าไปฉีดยาเพราะร่างท่านไม่เน่า (หลวงปู่มีเรื่องเล่าตอนไปทั้งนรก-สวรรค์ เป็นคติสอนใจ ดีมาก)

             - ปี พ.ศ.2531 ณ ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ในหลวงและสมเด็จย่าทรงประทับเฮริคอร์ปเตอร์มาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ 2วัน1คืน อีกประมาณหนึ่งเดือน ในหลวงกับพระราชินีเสด็จมาปฏิบัติธรรมกับท่าน 4 วัน3 คืนในหลวงทรงเรียกหลวงปู่สังวาลย์ว่า “ช้างเผือก” หลวงตามหาบัว(สหายธรรม)เรียก“เสือป่า” เพราะหลวงปู่ชอบอยู่ถ้ำเสือ เทพ-เทวดาหลายชาติ/ศาสนามาฟังธรรมหลวงปู่ทุกคืน

             ปกติ หลวงปู่จะธุดงค์อยู่ในป่าลึกเสมออาทิ ทุ่งขุนแสน สวนผึ้ง  ทุ่งใหญ่นเรศวร ห้วยขาแข้ง พาคณะสงฆ์และญาติธรรมธุดงค์(10ก.พ.-2 มีค.51)ที่ภูเขียว จ.ชัยภูมิ(25มีค.-3เมษ.51)ปีนเขาเข้าป่าห้วยขาแข้ง หลวงปู่มาพบวัดร้างอยู่ชายป่าห้วยขาแข้งคือ วัดป่าเขามโนราห์ เป็นสำนักสงฆ์ลักษณะเรือนไม้สักสองชั้น ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า สัตว์ป่าชุกชุมมาก ชาวบ้านเล่าว่าสถานที่นี้ศักดิ์สิทธิ์์ มีพระมาจำพรรษาอยู่หลายคณะแต่ก็อยู่ไม่ได้ หลวงปู่อยู่วัดนี้ สองปีเศษ ก็สุขสบายดี ชาวบ้าน ญาติธรรมทราบข่าวก็ทยอยมาสักการะ  สอบถามปัญหาต่างๆนานา (หลวงปู่ตอบเหมือนตาเห็นเลย และมียาสมุนไพรแก้โรคต่างๆด้วย หลวงปู่ชำนาญมากเพราะอยู่ป่ามาตลอด) ตอนที่ท่านเข้าธุดงค์ในป่าลึกห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แอบถ่ายสถานที่ในวัดหลายรูป หัวหน้าเขตป่าไม้ชื่อคุณ.ทวีเล่าให้คณะเราฟังในภายหลังว่าเคยแอบถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาต ปรากฎว่ากล้องระเบิดเสียหายไป 3 ตัวเลย 

ท่านเป็นลูกศิษย์ ที่ร่วมคณะเดินธุดงค์กับท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพระสุปฎิปันโนที่เอ่ยนามแล้วทุกคนรู้จักเป็นที่เคารพของคนไทยและท่านเป็นสหายธรรมกับหลวงตามหาบัว สมัยอยู่กับหลวงปู่เทส เทสรังสี  

 

เรียบเรียง โดยนางมาลีพันธุ์ เกิดทองมี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสองพี่น้อง อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี

 

 

หมายเลขบันทึก: 495035เขียนเมื่อ 17 กรกฎาคม 2012 00:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 กรกฎาคม 2012 01:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท