|
เรียบเรียง โดยนางมาลีพันธุ์ เกิดทองมี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสองพี่น้อง อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี
|
ประวัติย่อ หลวงปู่สังวาลย์ ธมฺมสาโร
หลวงปู่สังวาลย์ ธมฺมสาโร หลวงปู่จำวัดอยู่ที่ วัดป่าเขามโนราห์ ชายป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นวัดร้าง ลักษณะเหมือนบ้านของชาวบ้านธรรมดา เป็นเรือนไม้สองชั้น ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ช่วงนี้ท่านก็สลับออกธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เข้าธุดงค์ประมาณ1-2 เดือน เพื่อฝึกพระใหม่ที่ตามมาธุดงค์ เป็นการฝึก ซึ่งมีผู้กล่าวว่า ปู่สามารถฝึกพระบางองค์ได้ถึงขั้นอริสงฆ์ก็มีหลายรูปแล้ว ตอนนี้มีพระทั้งหมด 11 รูป
หลวงปู่สังวาลย์ เกิดที่บ้านวังน้ำขาว อ.สามพราน จ. นครปฐม บิดา-มารดาชื่อนายทองหนัก (ปัจจุบันยังเป็นพระบวชอยู่ อายุ 100กว่าปีแล้ว)และนางคำดี วิชาทร พี่น้องทั้งหมด 11 คน ชาย 6 หญิง 5 คน หลวงปู่เกิดวันพุธที่ 15 ธ.ค. 2476 ปีระกา เป็นลูกชายคนที่ 5 ปัจจุบันอายุ 73 ปี
- ตอนที่หลวงปู่สังวาลย์อายุ 12-20 ปี บวชเป็นเณรอยู่กับหลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล ( ปู่สังวาลย์เป็นหลานแท้ๆของหลวงปู่ขาว อนาลโย) ท่านเคยธุดงค์กับพระอริยสงฆ์มากมาย อาทิ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ชา หลวงปู่เกษม(สุสานไตรลักษณ์) หลวงปู่บุดดา หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่เทศ หลวงปู่มหาบัว หลวงปู่คำดี ฯลฯ เป็นต้น หลังจากสึกออกมาก็ทำธุรกิจด้านเกษตรกรรมกับครอบครัว(พ่อแม่)ที่ บ้านวังน้ำขาว มีที่นา 60 ไร่ จ.นครปฐม
-ช่วงอายุ 21 ปี หลวงปู่เข้ามากรุงเทพฯคนเดียว มีเพียงค่ารถเท่านั้น โชคดีเจอแขกขายโรตีผู้ใจบุญ เห็นปู่เดินอยู่คนเดียวก็ชวนมาทำงานที่บ้าน และชวนมาช่วยขายโรตี สุดท้ายก็เก็บเงินเข็นรถขายโรตี ขายซาลาเปา ขายทั้งวันทั้งคืนเป็นเวลา 2 ปี อดทน ขยันเก็บเงินเพื่อไปช่วยครอบครัวและพี่น้องอีก 10 คน สรุปเก็บเงินได้ 3,000.-บาท ต่อมาเพื่อนชวนไปเที่ยวที่จ.ชัยภูมิ ไปเจอลุงเปื่อนเสนอขายที่ 170ไร่ในราคา 1,600.-บาท หลวงปู่จึงได้ซื้อที่ดินนั้นและต่อมาซื้อเพิ่มอีก 30ไร่และปู่อยู่คนเดียวเพื่อถางหญ้าพัฒนาเป็นที่ดินที่นาอีก 1 ปี จนอายุ 24 ปี จึงกลับมาชวนพ่อแม่และพี่น้องอีก 10 คนมาตั้งรกราก ณ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
- เมื่อพ่อแม่พี่น้องอยู่สบายแล้ว หลวงปู่ก็ขอลาบวชตอนอายุ 24 ปี ไปหาหลวงปู่คำดี กิจตธมฺโม ณ วัดถ้ำผาปู่ บ้านนาอ้อ ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย จำนองพรรษาอยู่ 4 พรรษาแล้วขอลาไปอยู่กับหลวงปู่ขาว ณ วัดถ้ำกลองเพล ซึ่งขณะนั้นมีพระอริยะสงฆ์อยู่หลายองค์ที่ไปมาหาสู่กันประจำอาทิ หลวงปู่เหรียญ ปู่แหวน ปู่จวน ปู่ชอบ ปู่เทศ ปู่สิงห์ ปู่วรรณ ปู่ขาน ปู่ฉิม ปู่เกษม ปู่หล้า และได้ชวนพระภิกษุสังวาลย์(อายุ 35 ปี)ออกธุดงค์เข้าดงไม่เพดและดงเสอเพอ จ.อุดร(21วัน) เดินทะลุออกบ้านแพง จ.นครพนม เรียบฝั่งแม่น้ำโขงไปถึงภูลังกา จ.หนองคาย
- หลวงปู่ชอบธุดงค์อยู่ตามป่าตลอด เคยอยู่ป่าองค์เดียว 14 ปี (ฉันแต่ผัก และพืชสมุนไพรต่างๆ ไม่มีข้าวให้ฉัน) เดินธุดงค์ไปทั่ว อาทิ ประเทศลาว(6-7ปี)และอยู่ที่ภูเขาควายด้วย ไปเขมร(ไปติดคุกขี้ไก่ 5 วัน คุกธรรมดา 10 วัน ) ไปพม่า และป่าทึบในประเทศไทย โดยตลอด
-หลวงปู่สังวาลย์ เล่าว่า ปู่เคยไปธุดงค์ที่ทุ้งแสลงหลวง(ตอนนั้นอายุ53ปี) และมีเณร(อายุ 15ปี) ตามไปด้วยหนึ่งองค์ ระหว่างทางปู่ได้ไปเหยียบกับระเบิดเข้า เณรได้เข้ามากอดขาหลวงปู่ แต่ปู่บอกให้เณรออกไป เดี๋ยวตายทั้งคู่ ถ้าปู่เป็นอะไร เณรจะได้ไปบอกคนมาช่วย ขณะจะถอนเท้าออกจากกับระเบิดท่านบอกให้เณรหนีไปไกลๆก่อน เมื่อท่านยกเท้าขึ้นก็เกิดระเบิดตูมสนั่น ตัวท่านลอยไปตกในหลุมหลาวที่ทำจากไม้ไผ่หลาวปลายแหลม(ไม้เสียบแหลมๆของพวกผู้ก่อการร้าย) แต่หลาวไม่สามารถแถงทะลุเข้าท่านได้ ท่านก็นอนค้างอยู่นั้น แต่ท่านก็ขาหักแขนหัก และมีบาดแผลใหญ่ถูกกระเบิดเป็นรูใหญ่ ตรงช่วงต้นขาซ้าย หลังจากนั้นเณรก็เขามาช่วยปู่เอาจีวรพันขาปู่ เพราะเลือดไหลไม่หยุด จึงเอายาฉุนยัดไว้ที่รูแผล รูขนาดลูกปิงปองเลย ปู่เปิดให้ดูรอยบาดแผลใหญ่มาก ท่านบอกให้เณรเดินไปตามลำธารน้ำแล้วจะไม่หลงป่า เมื่อพบชาวบ้านให้แจ้งคนมาช่วย ส่วนตัวท่านก็นอนอยู่ที่นั้นขยับกายไปไหนไม่ได้ นอนอยู่ 3วัน แมลงวันมาเกาะขณะที่ท่านสลบไป รู้สึกตัวขึ้นมาก็เห็นหนอนไชแผลเต็มไปหมด เลือดไหลจนซีดหมดทั้งตัว ปู่บอกจะตายก็ตาย ชีวิตนี้ไม่เอา ไม่ยึดติดอะไรแล้ว กว่าเณรจะเดินตามลำธาร ไปพบชาวบ้านใช้เวลา ถึง 3วัน 2คืน แล้วทหารเสนารักษ์ก็มาช่วยรักษาพาท่านไปโรงพยาบาลในที่สุด ธุดงค์ สมเด็จย่าก็เสด็จมาเยี่ยม ที่โรงพยาบาล จ.เพชรบูรณ์ ผลจากการโดนระเบิด หลังจากนั้น หัวใจเลยหยุดเต้นคือมรณะภาพไป 3 ครั้ง มี 3 วัน 6 วัน และครั้งสุดท้าย 7 วัน ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้นจะนำศพเข้าโลง ท่านก็ฟื้นก่อนครึ่งชั่วโมง (ขณะที่เป็นศพนั้น หลวงปู่เทศ เทศรังสี บอกหมออย่าไปฉีดยาเพราะร่างท่านไม่เน่า (หลวงปู่มีเรื่องเล่าตอนไปทั้งนรก-สวรรค์ เป็นคติสอนใจ ดีมาก)
- ปี พ.ศ.2531 ณ ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ในหลวงและสมเด็จย่าทรงประทับเฮริคอร์ปเตอร์มาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ 2วัน1คืน อีกประมาณหนึ่งเดือน ในหลวงกับพระราชินีเสด็จมาปฏิบัติธรรมกับท่าน 4 วัน3 คืนในหลวงทรงเรียกหลวงปู่สังวาลย์ว่า “ช้างเผือก” หลวงตามหาบัว(สหายธรรม)เรียก“เสือป่า” เพราะหลวงปู่ชอบอยู่ถ้ำเสือ เทพ-เทวดาหลายชาติ/ศาสนามาฟังธรรมหลวงปู่ทุกคืน
ปกติ หลวงปู่จะธุดงค์อยู่ในป่าลึกเสมออาทิ ทุ่งขุนแสน สวนผึ้ง ทุ่งใหญ่นเรศวร ห้วยขาแข้ง พาคณะสงฆ์และญาติธรรมธุดงค์(10ก.พ.-2 มีค.51)ที่ภูเขียว จ.ชัยภูมิ(25มีค.-3เมษ.51)ปีนเขาเข้าป่าห้วยขาแข้ง หลวงปู่มาพบวัดร้างอยู่ชายป่าห้วยขาแข้งคือ วัดป่าเขามโนราห์ เป็นสำนักสงฆ์ลักษณะเรือนไม้สักสองชั้น ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า สัตว์ป่าชุกชุมมาก ชาวบ้านเล่าว่าสถานที่นี้ศักดิ์สิทธิ์์ มีพระมาจำพรรษาอยู่หลายคณะแต่ก็อยู่ไม่ได้ หลวงปู่อยู่วัดนี้ สองปีเศษ ก็สุขสบายดี ชาวบ้าน ญาติธรรมทราบข่าวก็ทยอยมาสักการะ สอบถามปัญหาต่างๆนานา (หลวงปู่ตอบเหมือนตาเห็นเลย และมียาสมุนไพรแก้โรคต่างๆด้วย หลวงปู่ชำนาญมากเพราะอยู่ป่ามาตลอด) ตอนที่ท่านเข้าธุดงค์ในป่าลึกห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แอบถ่ายสถานที่ในวัดหลายรูป หัวหน้าเขตป่าไม้ชื่อคุณ.ทวีเล่าให้คณะเราฟังในภายหลังว่าเคยแอบถ่ายรูปโดยไม่ขออนุญาต ปรากฎว่ากล้องระเบิดเสียหายไป 3 ตัวเลย
ท่านเป็นลูกศิษย์ ที่ร่วมคณะเดินธุดงค์กับท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และพระสุปฎิปันโนที่เอ่ยนามแล้วทุกคนรู้จักเป็นที่เคารพของคนไทยและท่านเป็นสหายธรรมกับหลวงตามหาบัว สมัยอยู่กับหลวงปู่เทส เทสรังสี
เรียบเรียง โดยนางมาลีพันธุ์ เกิดทองมี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสองพี่น้อง อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี
ไม่มีความเห็น