การศึกษาไทยในปี2020

ปรับเพิ่มไม่ต้องเปลี่ยนแปลง

   ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปเทคโนโลยีกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน สำหรับมุมมองของการศึกษารูปแบบการสอนที่เหมาะสมควรใช้การปรับเพิ่มเติมมากกว่าจะเปลี่ยนแปลงไปทั้งหมด เช่น การสอนแบบเดิมครูเน้นทักษะด้านการอ่าน การเขียนเป็นหลัก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แเล้วและไม่ควรเปลี่ยนแปลงเพียงแต่อาจเพิ่มเติมในส่วนของการร่วมใช้นวัตกรรมสื่อ การใช้E-Book การใช้โปรแกรมช่วยสอนCAI หรือการใช้แท๊บเล็ต มาเป็นตัวช่วยสำหรับครู เป็นการสร้างสีสันในรายวิชานั้นๆ  กระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจอยากจะเรียนรู้มากขึ้น  แต่ถ้ามุ่งใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมโดยไม่มีครูเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดประสบการณ์กระบวนความคิด ความมีปฏิสัมพันธ์ การสื่อสารที่เข้าใจตรงกัน ความมีสัมมาคารวะ ความศรัทธาระหว่างครูและนักเรียนจะหายไปสิ่งที่ครูควรปลูกฝังทักษะแห่งทศวรรษที่20ให้นักเรียนด้วยเครื่องมือต่างๆเช่นการใช้แบบทดสอบที่เรียกว่าข้อสอบ เพื่อเป็นการประเมินความรู้ก่อนและหลังเรียนใช้ในการวัดความสามารถด้านสติปัญญาเป็นการค้นหาศักยภาพที่มีในตัวผู้เรียน นอกเหนือจากนั้นอาจใช้แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกข้อมูลร่วมด้วย การจัดชั้นเรียนที่เหมาะสม1.การกำหนดอัตราส่วนระหว่างครู:นักเรียนประมาณ1:25(ไม่ควรเพิ่มมากกว่านี้เพราะความเอาใจใส่และความใส่ใจจะทำได้ทั่วถึงจริง)2.ขนาดของห้องเรียนกับจำนวนนักเรียน3.บรรยากาศภายในภายนอกห้องเรียน ที่มีแต่ประโยชน์ใส่สมองเพิ่มความสุขใจให้กับนักเรียนจริงๆ4.ครูต้องทำวิจัยในชั้นเรียนควบคู่กับเทคนิคการสอนที่เหมาะสมกับระดับชั้นเพื่อผลลัพธ์ที่ดีของการศึกษาดังนั้นครูต้องสร้างแรงจูงใจให้แก่นักเรียนด้วยการให้รางวัลด้วยคำชมบ้างแต่อย่ามากเกิน  เปิดโอกาสให้นักเรียนกล้าแสดงออกทางความคิด เสมือนการท้าทายกับปัญหาอย่างไม่ต้องกลัวผิด สิ่งสำคัญสุดท้ายคือการพัฒนาจริยธรรม  คุณธรรมให้กับนักเรียนโดยสอดแทรกในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมตามวัยและระดับชั้นของนักเรียนเพื่อสร้างให้นักเรียนเป็นคนดี เก่งและมีคุณธรรม  นำพาชีวิตไปสู่ความสุขอย่างเรียบง่ายและยั่งยืน    คำถามที่อยากฝากให้ร่วมคิดคือการเป็นครูที่ดีไม่ใช่แค่การเรียนสูงเท่านั้นเพราะครูทุกคนสอนได้แต่จะสอนเป็นหรือเปล่าดังนั้นควรมีการนิเทศอย่างกัลยาณมิตรเพื่อเป็นการพัฒนาครูในฐานะผู้ถ่ายทอดการศึกษาอย่างแท้จริง.