เชิญให้ความเห็นแนวทางการดำเนินโครงการ_คูปองสร้างเสริมอัจฉริยะ เพื่อจะปรับให้เหมาะสมยิ่งขึ้นก่อนประกาศใช้


       

คณะทำงานได้ร่วมกันพิจารณา โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี : คูปองสร้างเสริมอัจฉริยะ  เพื่อให้มีความเหมาะสมในการนำสู่การปฏิบัติให้มากที่สุดขอเชิญชวนร่วมกันแสดงความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ซึ่งสาระโครงการมีดังนี้

        การอ่าน เป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ ควบคู่กับการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการแสวงหาความรู้ ส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ได้ประสบการณ์ ข้อคิดในการดำเนินชีวิต ซึ่งนำไปสู่การพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิต และการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน          กระทรวงศึกษาธิการ มีแนวคิดในการส่งเสริมและสร้างนิสัยรักการอ่านให้แก่เด็ก และเยาวชนหรือ    ประชาชนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษา ทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน ได้อ่านหนังสือที่ต้องการอ่านจึงมอบหมายให้สำนักงาน กศน. ดำเนินงานโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี : คูปองสร้างเสริมอัจฉริยะ      

  วัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบในปี พ.ศ. 2558

2. เพื่อเป็นการสนองพระราชปณิธานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้เด็กและเยาวชนได้อ่านหนังสือตามความต้องการของตนเอง  

เป้าหมาย

           เด็กและเยาวชน หรือประชาชนผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน เป็นผู้ด้อยโอกาสที่มีความประพฤติดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน จากทุกจังหวัด จำนวน 1,666,666 คน/ปี เป็นเวลา 3 ปี (ปีงบประมาณ 2556 – 2558)  

หน่วยงานที่ร่วมโครงการ

      1. สำนักงาน กศน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

       2. สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร (กทม.)

        3. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  (สพฐ.)

        4. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)

        5. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.)

         6. กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)    

  งบประมาณ

           งบประมาณดำเนินงานโครงการฯ ต่อเนื่อง 3 ปี (ปีงบประมาณ 2556 – 2558 ) ปีละ 500,000,000 บาท  รวมทั้งสิ้น 1,500,000,000 บาท  

แนวทางการดำเนินงานคูปองสร้างเสริมอัจฉริยะ

        ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้นักเรียน/นักศึกษาระดับประถมศึกษาทั่วประเทศ ได้มีหนังสือ     ที่ตนเองต้องการอ่าน โดยจัดให้ในรูปของคูปองแจกให้เด็กคนละ 300 บาท เพื่อนำไปแลกซื้อหนังสือจาก     ร้านหนังสือ กระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบให้สำนักงาน กศน. เป็นหน่วยงานดำเนินงาน ซึ่งจากการสำรวจข้อมูล มีหน่วยงานที่จัดการศึกษาระดับประถมศึกษา และมีนักเรียน/นักศึกษาที่มีคุณสมบัติได้รับคูปอง จำนวน 6 หน่วยงาน ได้แก่ กศน. กทม. สพฐ. สช. สถ. และ ตชด. สำนักงาน กศน. ได้ประสานขอทราบจำนวนนักเรียน/นักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาจากหน่วยงานทั้ง 6 แห่ง และนำข้อมูลมากำหนดสัดส่วน พร้อมทั้งแจ้งสัดส่วนที่กำหนดให้สำนักงาน กศน.จังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานในระดับพื้นที่ ดำเนินการประสาน            การปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ เพื่อให้ทันในปีงบประมาณ 2556 โดยมีขั้นตอนดังนี้

      1. สำนักงาน กศน. จังหวัด ได้รับแจ้งจำนวนนักเรียน/นักศึกษาที่มีสิทธิรับคูปอง ในอัตราร้อยละของจำนวนนักเรียน/นักศึกษาของสถานศึกษานั้นจากหน่วยงาน 6 สังกัด ได้แก่ กศน. กทม. สพฐ. สช. สถ. และ ตชด. เพื่อนำมาหาค่าจำนวนนักเรียน/นักศึกษาที่มีสิทธิรับคูปองของสถานศึกษา ภายใต้เป้าหมายจำนวนนักเรียน/นักศึกษาที่มีสิทธิรับคูปอง จำนวน 1.666,666 คน

         2. สถานศึกษาจากหน่วยงาน 6 สังกัด ได้รับแจ้งจำนวนคูปองที่ได้รับจัดสรรตามจำนวนนักเรียน/นักศึกษาที่มีสิทธิรับคูปองจากสำนักงาน กศน. จังหวัด

         3. สำนักงาน กศน.จังหวัด จัดส่งคูปองให้แก่ กศน.อำเภอ/เขต ตามจำนวนนักเรียน/นักศึกษาที่มีสิทธิได้รับคูปองของสถานศึกษาจากทุกสังกัดในอำเภอ/เขตนั้น

        4. หน่วยงานจาก 6 สังกัด แจ้งสถานศึกษาในสังกัดแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกนักเรียน/นักศึกษา   ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดตามจำนวนที่ได้รับ

          5. กศน. อำเภอ/เขต แจกจ่ายคูปองให้แก่สถานศึกษาทุกแห่งและทุกสังกัดในอำเภอ/เขตนั้น

          6. สถานศึกษาแจกจ่ายคูปองให้แก่นักเรียน/นักศึกษาที่มีสิทธิรับคูปอง

          7.นักเรียน/นักศึกษา นำคูปองที่ได้รับไปแลกซื้อหนังสือจากร้านหนังสือที่เข้าร่วมโครงการภายในระยะเวลาที่กำหนด

         8. ร้านหนังสือรับแลกคูปอง และจัดทำใบส่งของมอบให้แก่นักเรียน/นักศึกษาเก็บไว้เป็นหลักฐาน

         9. ร้านหนังสือ รวบรวมคูปองและใบส่งของ (แยกรายสถานศึกษา) ส่งให้สถานศึกษาตามชื่อสถานศึกษาที่ปรากฎในคูปอง เพื่อเบิกจ่าย

         10. สถานศึกษา รวบรวม / ตรวจสอบคูปองและใบส่งของ ส่ง กศน.อำเภอ เพื่อเบิกจ่ายเงินให้ร้านค้าต่อไป  

บทบาทหน่วยงานส่วนกลาง (กศน. กทม. สพฐ. สช. สถ. และ ตชต.)

        ● ประชาสัมพันธ์โครงการ

       ● แจ้งหน่วยงานภายในสังกัดตามลำดับให้รับทราบนโยบาย แนวปฏิบัติ

        ● ประสานหน่วยงาน/สถานศึกษา/โรงเรียนภายในสังกัด ให้ความร่วมมือ อำนวยความสะดวกในการดำเนินงานโครงการร่วมกับ สำนักงาน กศน.จังหวัด / กศน.อำเภอ/เขต แล้วแต่กรณี

        ● กำกับดูแล และติดตามตรวจสอบการดำเนินงานโครงการฯ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์   

 บทบาทหน่วยงานระดับจังหวัดและอำเภอ

       ● ประชาสัมพันธ์กิจกรรม และประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง

      ● สำนักงาน กศน.จังหวัด เป็นหน่วยบริหารงบประมาณ และจัดทำทะเบียนคุมงบประมาณ              ● สำนักงาน กศน.จังหวัด แจ้งจำนวนคูปองให้แก่หน่วยงานทุกสังกัดตามสัดส่วนที่ได้รับการจัดสรร

    ● หน่วยงานแต่ละสังกัดแจ้งจำนวนนักเรียน/นักศึกษาที่มีสิทธิรับคูปองจำแนกตามสถานศึกษา

     ● สำนักงาน กศน. จังหวัด จัดสรรคูปองให้ กศน.อำเภอ/เขต ตามจำนวนที่ได้รับจัดสรรสำหรับมอบให้สถานศึกษาตามจำนวนที่แต่ละสังกัดแจ้ง

    ● สำนักงาน กศน.จังหวัด แจ้งสถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้มีสิทธิได้รับคูปอง     ● สำนักงาน กศน.จังหวัด เบิกจ่ายเงินงบประมาณให้แก่ร้านหนังสือตามที่ กศน.อำเภอ/เขตอนุมัติ

บทบาทสถานศึกษา

    ● ประชาสัมพันธ์กิจกรรมตามโครงการ

     ● แต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้มีสิทธิรับคูปอง จำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน

     ● คณะกรรมการคัดเลือกนักเรียน/นักศึกษาระดับประถมศึกษา ตามคุณสมบัติที่กำหนด

     ● สถานศึกษาเบิกคูปองจาก กศน.อำเภอ/เขต ตามสัดส่วนที่กำหนด

     ● จัดทำทะเบียนคุมคูปอง

     ● แจกคูปองให้นักเรียน/นักศึกษาที่ได้รับสิทธิ

     ● กระตุ้นเตือนให้นักเรียน/นักศึกษาแลกซื้อหนังสือดี มีสาระ ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคูปอง

     ● ตรวจสอบหนังสือที่นักเรียน/นักศึกษา ใช้คูปองแลกซื้อ

     ● จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน เพื่อใช้หนังสือให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น  กิจกรรมแลกกันอ่าน / อ่านให้เพื่อนฟัง / อ่านแล้วเล่า / กระเป๋าการอ่าน / หนังสือเต้นได้ / ละครจากหนังสือ

ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ

หมายเลขบันทึก: 493796เขียนเมื่อ 6 กรกฎาคม 2012 21:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม 2012 11:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

รับทราบค่ะเริ่มภาคเรียนหน้าใช่ไหมคะ

1. ดูจากขั้นตอนที่ให้สถานศึกษานำคูปองกับใบส่งของมาส่ง กศน.อำเภอเพื่อขอเบิกเงินไปจ่ายให้ร้านค้า นั้น อาจจะมีบางสถานศึกษาใช้วิธีให้ร้านค้าเพียง 1-2 ร้าน นำหนังสือมาขายที่โรงเรียนเลย ( ขอเปอร์เซ็นต์จากร้านค้า ) จะทำให้เกิดข้อครหาที่เสื่อมเสีย

2. มีการกำหนดว่านักเรียนต้องไปซื้อจากร้านภายในจังหวัดหรือไม่ ถ้ามีนักเรียนจากจังหวัดไกลๆหลายอำเภอหลายจังหวัดมาซื้อที่ร้านหนึ่ง ร้านนั้นเขาไม่สะดวกที่จะตระเวนไปยื่นเบิกเงินจากหลายสถานศึกษาหลายอำเภอหลายจังหวัด เขาจะไม่ขายให้ก็ได้ใช่หรือไม่ครับ


ร้านค้าในจังหวัดเช่นร้านซีเอ็ดในห้าง ถ้าต้องตระเวณไปยื่นเบิกเงินตามโรงเรียนในตำบลอำเภอต่างๆ แม้จะภายในจังหวัด ก็ไม่สะดวกแล้ว ( ถ้ามีนักเรียน 100 สถานศึกษาไปซื้อ )

3. ถ้านักเรียน/นักศึกษา ทำใบส่งของชำรุดสูญหาย หรือเอาหนังสือเขามาแล้วไม่สนใจนำหนังสือและใบส่งของมาให้สถานศึกษา ( ไม่ใช่ความผิดของร้านค้า ) แล้วร้านค้าเขาจะได้เงินหรือไม่ครับ

 

รับทราบค่ะ ต้องเป็นผู้ด้อยโอกาสด้วยใช่ไหมค่ะ

รับทราบครับ เป็นนโยบายที่ดีและส่งเสริมให้ผู้ด้อยโอกาสได้เข้าถึงแหล่งเรียนรู้มากขึ้น

ขอบคุณ อ.เอกชัยและทุกๆท่านครับ โครงการนี้ย้ำมากในเรื่องห้ามทุจริตเด็ดขาด จึงทำให้ขั้นตอนการควบคุมทำให้ดูไม่สะดวกนัก ตามที่ อ.เอกชัยได้ตั้งข้อสงสัยนั้นดีมากครับจะต้องให้คณะกรรมการไปพิจารณาก่อนเผยแพร่แนวปฏิบัติไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ..การจะให้ร้านหนังสือไปขายที่สถานศึกษานั้นเป็นข้อห้ามครับ และการซื้อหนังสือนั้นจะต้องมีจุดที่ให้ซื้อหนังสือให้มากที่สุดใช้คูปองได้ภายในจังหวัดแต่ร้านน่าจะต้องมีทุกอำเภอที่เข้าร่วมโครงการครับ ยังน่าเป็นห่วงสำหรับพื้นที่ห่างไกลครับ กรณีการสูญหายของหลักฐานถ้านักเรียนทำหายคงไม่เป็นไรแต่หากทางร้านทำหายจะเบิกเงินไม่ได้เพราะร้านต้องนำรวบรวมส่งเบิกครับ

ขอบคุณ ผอ.ครับ
( ผมหมายถึงนักเรียนทำใบส่งของหาย แต่อ่านดูอีกทีในข้อ 9 ใบส่งของไม่ได้มีใบเดียว และไม่ได้ใช้ใบส่งของที่อยู่กับนักเรียนเพื่อการเบิกเงิน  เข้าใจแล้วครับ )

แต่ผมก็ยังคิดว่า สถานศึกษามีมาก เช่น อ.ผักไห่ มีสถานศึกษา 20 แห่ง ถ้าซื้อหนังสือจากร้าน ก. 15 แห่ง ๆ ละ 3-4 คน ร้าน ก.ต้องไปตระเวนยืนขอเบิกเงินจาก 15 ตำบล แห่งละพันกว่าบาท ไม่สะดวก  ตอนขอเบิกเงินจะให้ร้านเขานำคูปองและใบส่งของไปยื่นที่ กศน.อำเภอแห่งเดียวเลยไม่ได้หรือครับ ( ถ้าเป็นร้านระดับจังหวัด ไปหลาย ๆ อำเภอก็ยังยาก )

ข่อเสนอ อ.เอกชัยจะให้กรรมการไปพิจารณาอีกที ขอบคุณครับ

ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ หาซื้อเองได้ตามร้านหนังสือชั้นนำต่างๆ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างคะ

รับทราบ รับ กศน.ตำบลไทรน้อยเข้าแพลนเน็ตด้วยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท