หิวก็เข้าป่า ป่วยก็เข้าป่า (ต่อ)


“ต่อไปความรู้ที่มีในชุมชนคงสูญหายไปพร้อมกับคนรุ่นหลัง”

     บันทึกต่อจากบันทึกตอนที่แล้วที่กล่าวถึงความเชื่อเกี่ยวกับการนำสมุนไพรมาใช้ของชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง ในพื้นที่อำเภออมก๋อย ส่วนของพืชสมุนไพรที่นำมาใช้ได้นั้นบอกได้เลยว่าสามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมดจริง ๆ คือ ใบ ดอก ผล กิ่ง ก้าน เปลือก ลำต้น ราก ยาง แม้กระทั่งกากฝากบางชนิดก็สามารถนำมาใช้ได้ค่ะ เห็นไหมละค่ะว่าพืชสมุนไพรที่หาได้ง่ายตามป่านั้น สามารถนำส่วนต่างๆมาช่วยรักษาหรือบรรเทาอาการเจ็บป่วยของคนในชุมชนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว จัดได้ว่าเป็นตู้ยาสารพัดประโยชน์เลยทีเดียว และไม่จำเป็นเสมอไปว่าตู้ยาสามัญต้องประจำอยู่ในบ้านเรือนเท่านั้น แต่ยังมีป่าอันร่มรื่นและอุดมสมบูรณ์ที่เปรียบเสมือนตู้ยาใบใหญ่ที่เปิดรอให้คนในชุมชนเข้าไปใช้บริการได้ตลอดเวลา ไม่เว้นวันหยุดราชการ คุณว่าจริงไหม?

      ความเชื่อเกี่ยวกับการนำพืชสมุนไพรมาใช้ไม่ได้หมดแค่บันทึกที่แล้วค่ะ ยังมีเล่าเพิ่มเติมอีก บางทีอาจจะหาคำตอบทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ก็ตาม ฝากถามผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญด้วยนะค่ะว่าสามารถวิเคราะห์ความหมายของความเชื่อนี้อย่างไร
     1. พืชสมุนไพรบางชนิด คนที่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้นที่จะสามารถไปเก็บพืชตัวนั้นมาใช้ได้ ถ้าคนที่มีสภาพร่างกายปกติไปเก็บยาตัวนี้มา ก็จะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีขึ้นกับคน ๆ นั้นทันที เช่น ได้รับอุบัติเหตุจนตนเองแขน/ขาหัก ฯลฯ อยากพิสูจน์นะ แต่ก็ไม่กล้าค่ะ  ลองคิดเล่น ๆ ดูนะค่ะ ถ้าให้คนบาดเจ็บเองไปเก็บตัวยาแล้วเขาจะสามารถเก็บได้มั้ยนะ  ถามปราชญ์ เขาก็บอกว่าต้องไหว! อาจเป็นกุศโลบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ผู้ได้รับบาดเจ็บได้ออกกำลังกาย เหมือนตอนที่คุณพ่อผ่าตัด คุณหมอบอกว่าให้พ่อลุกมาเดินเล่นบ้างนะ แผลจะได้หายไว ๆ..
     2. พืชบางชนิดถ้าไปเอาจะต้องใช้ร่วมกับคาถาอาคม ชาวบ้านเชื่อว่าจะทำให้ตัวยามีมีฤทธิ์ในการรักษาได้ดี  อาจเป็นเพราะตัวยาสมุนไพรเป็นยารักษาหรือบรรเทาอาการต่าง ๆ ส่วนคาถาเป็นยารักษาทางใจที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกดี มีกำลังใจต่อสู้กับโรคภัย เมื่อสุขใขกายจะดีมั้งค่ะ.. 
     3. พืชบางชนิดเมื่อไปขุดเอาเหง้าจะต้องเตรียมสิ่งต่าง ๆ คือ บุหรี่ 1 มวน และหมาก 1 คำ ไปขอขมาและขอใช้สมุนไพรนี้ก่อน หลังจากนำมาแล้ว ขณะต้มจะต้องสานฝาปิดหม้อ 1 แผ่น พร้อมกับนำบุหรี่ 1 มวนและหมาก 1 คำ วางไว้บนฝานั้น เชื่อว่ายาจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  อาจเป็นเพราะให้รู้จัก เคารพศรัทธาในพืชสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์กับชาวบ้านตลอดมา
     4. พืชบางชนิดจะต้องเก็บในคืนพระจันทร์ข้างแรมเท่านั้น ยาจึงจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ข้อนี้ไม่อาจรู้ได้ว่าเพราะเหตุใดค่ะ ผู้รู้ท่านใดทราบช่วยมาแลกเปลี่ยนกันนะค่ะ

     ปราชญ์ชาวบ้าน เล่าให้ฟังว่า พืชสมุนไพรในป่าธรรมชาติเป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนในชุมชน แต่ในปัจจุบันภูมิปัญญาในด้านการใช้พืชสมุนไพรรักษาโรคกำลังจะลดน้อยถอยลงไปทุกขณะ สาเหตุเพราะ
       1. คนรุ่นหลังยังมองไม่เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของพืชสมุนไพร 
       2. วิถีชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
       3. คนในชุมชนต้องดิ้นรนหางานทำนอกพื้นที่มากขึ้น
       4. ความสะดวกสบายไม่เหมือนกับยาแผนปัจจุบันที่หยิบมาแล้วกินได้ทันที  เมื่อพูดจบพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ และกล่าวต่อว่า “ต่อไปความรู้ที่มีในชุมชนคงสูญหายไปพร้อมกับคนรุ่นหลัง”

     โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่า ในความมืดมิดก็ยังคงมีแสงสว่างอยู่บ้าง หลังจากที่ดิ้นรนออกไปทำงานนอกพื้นที่ไม่นานเยาวชนบางคนก็กลับสู่บ้านเกิดและที่น่าแปลกใจที่สุด พวกเขาเหล่านั้นยังสนใจและอยากที่จะเรียนรู้ภูมิปัญญาด้านนี้ให้มากยิ่งขึ้นหลังจากไปผจญภัยในโลกกว้างมาแล้ว อะไร คือ สาเหตุที่ทำให้พวกเขาหันกลับมาสนใจภูมิปัญญาเหล่านี้” ?

 

 

หมายเลขบันทึก: 493777เขียนเมื่อ 6 กรกฎาคม 2012 19:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2017 23:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

ขอสนับสนุนภูมิัปัญญาชาวบ้านร้านถิ่นอย่างเป็นทางการครับ ;)...

ขอบคุณค่ะอาจารย์ ว่าแต่ ภูมิปัญญาชาวบ้านร้านถิ่น คืออะไรเหรอค่ะ

ความรู้เหล่านี้น่าจะสามารถถ่ายทอดผ่านการเรียนรู้โดยการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยได้นะคะ ยาแผนโบราณของจีนถ่ายทอดมาจนทุกวันนี้ส่วนหนึ่งเพราะคิดว่าเขามีวัฒนธรรมมีภาษาเขียนที่ยาวนาน ถ่ายทอดไว้ ตอนนี้สื่อเราทันสมัยมากควรจะได้รับการอนุรักษ์ก่อนมันจะสูญไปค่ะ

;)

อะไร คือสาเหตุที่ทำให้พวกเขาหันกลับมาสนใจภูมิปัญญาเหล่านี้?

คุณสมบัติของมัน.. พืช ผัก สมุนไพร

 

  • ชอบการวิเคราะห์ เพื่ออธิบายภูมิปัญญาชุมชน แบบนี้ค่ะ :) 
  • พืชบางชนิดจะต้องเก็บในคืนพระจันทร์ข้างแรมเท่านั้น ยาจึงจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น :
  • เลยกระตุ้นให้ไปหาเรื่องอิทธิพลของดวงจันทร์ ต่อ สรีระมนุษย์ http://www.doctor.or.th/article/detail/2723 
  • สรุปใจความเอง ว่าช่วงข้างขึ้น พระจันทร์เต็มดวง น้ำในร่างกายเคลื่อนไปส่วนบนร่างกาย ทำให้กำเริบโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง (น่าจะตรงกับภาวะความดันสูงทางแพทย์ปัจจุบันค่ะ) และสังเกตว่าใกล้ข้างขึ้น ผู้หญิงมักมีประจำเดือน (อาจเป็นผลต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน)
  • น่าสนใจมากค่ะ

ขอบคุณมาก ๆ นะค่ะคุณหมอ ป. ที่เข้ามาเยี่ยมชม และแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติมให้ เป็นความรู้ใหม่สำหรับหนูมาก ๆ ค่ะ เพราะตอนแรกก็ตั้งคำถามกันว่า ดวงจันทร์มีอิทธิพลอะไรกับร่างกายของคนเรา..มีประโยชน์มาก ๆ ค่ะ

ใช่ ๆ ๆ ๆ ต้องทำให้สะดวกต่อการใช้

ยกตัวอย่าง พี่สาวแนะนำให้ปลูกฟ้าทลายโจรใส่กระถางไว้ แม้นาน ๆ เจ็บคอที แต่ได้ผลมากนะคะ เด็ด ๓ - ๔ ใบใส่น้ำอุ่นจัด ๆ ดื่มแล้วหายง่ายมาก

อาจเพราะทั้งน้ำอุ่นและฤทธิ์จากใบฟ้าทลายโจร

เด็ก ๆ ที่อมก๋อยน่าจะเป็นกำลังสำคัญในการสืบทอดนะคะ

...ร้านถิ่น คือ สำนวนไทยอ่ะ ดอกหญ้าน้ำ ;)...

ขอบคุณค่ะคุณหมอทพญ.ธิรัมภา น้อง ๆ ที่ไปทำกิจกรรมด้วยก็ร่วมมือดีค่ะ

ขอบคุณค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn หุหุ หนูไม่รู้จริง ๆ ค่ะ

  • รออ่านอีก
  • อย่าหายไปนานนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท