ในฐานะที่ท่านเป็นหัวหน้างาน
ท่านจะทำอย่างไร ถ้าลูกน้องของตนเองทำผลงานไม่ได้ตามมาตรฐาน
หรือตามเป้าหมายที่เรากำหนดไว้
หัวหน้าแต่ละคนก็จะมีคำตอบที่แตกต่างกันออกไป
ตามสไตล์ในการบริหารผลงานของคนที่เป็นหัวหน้า
ลองมาดูความคิดเห็นของคนที่เป็นหัวหน้าตามลำดับเลยว่า
ถ้าเจอว่าลูกน้องของตนเองมีผลงานที่ไม่เข้าตาเราเลย
เขาจะทำอย่างไรกันบ้าง
-
ให้คำแนะนำและสอนงาน
หัวหน้าที่ตอบคำตอบนี้ เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน
ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูกน้องของเราสามารถทำผลงานได้ตามที่เราคาดหวัง
เพราะถ้าเราไม่สอน ไม่ให้คำแนะนำแล้ว
จะมีลูกน้องคนไหนบ้างที่จะสามารถแก้ไขปรับปรุงผลงานของตนเองให้ดีขึ้นได้ตามที่หัวหน้าต้องการ
ดังนั้นหัวหน้าประเภทนี้จึงไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ถ้าลูกน้องทำผลงานได้ไม่ดี
เพราะเขาจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง
และสอนงานจนกระทั่งลูกน้องสามารถทำงานได้ดีขึ้นนั่นเองครับ
-
ดุด่าว่ากล่าว
นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่หัวหน้าหลายๆ
คนชอบใช้เวลาที่ลูกน้องของตนเองไม่สามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่หัวหน้ากำหนดไว้ได้
สิ่งที่หัวหน้าจะทำก็ เรียกลูกน้องคนนั้นเข้ามา แล้วก็เริ่มเทศน์
บางคนก็ใช้วาจาดูถูกเหยียดหยาม
ราวกับว่าคนที่คุยด้วยนั้นไม่ใช่ลูกน้องของตนเองเลย
เรียกได้ว่าพอฟังจบ ลูกน้องก็ถูกฝังไปเรียบร้อย
หมดสิทธิที่จะลุกขึ้นมาทำงานต่อได้อีก
-
เอางานนั้นมาทำเอง
หัวหน้าประเภทนี้เวลาที่ลูกน้องทำงานไม่ได้ดั่งใจเรา
วิธีแก้ไขปัญหาของเขาก็คือ เอางานที่ลูกน้องทำไม่ได้นั้นมาทำเองซะเลย
เพราะตนเองมีฝีมือในการทำงานที่ดีกว่า และมั่นใจได้เลยว่า
ผลงานที่ออกมาจะต้องดีแน่นอน เพราะตัวเราเองเป็นคนทำ เชื่อหรือไม่ว่า
การที่ลูกน้องเราทำผลงานออกมาไม่ดี แล้วหัวหน้าไม่บอกเขา
กลับเอางานของเขามาแก้ไข และทำเองให้ดีขึ้น
โดยที่ลูกน้องไม่ได้รับการสอนอะไรเลยนั้น
เป็นการสื่อความกับลูกน้องว่า “คราวหน้าทำผิดมาแบบนี้อีกก็ไม่เป็นไร
เพราะหัวหน้าแก้ไขให้ได้ทุกครั้ง” ผลก็คือ
ลูกน้องจะไม่ทำผลงานที่ดีเลยครับ
เพราะรับรู้ว่าถึงทำผิดหัวหน้าก็ไม่เคยว่าอะไร
แถมยังแก้ไขงานให้อีกด้วย แบบนี้คนที่เหนื่อยไม่มีวันจบสิ้นก็คือ
คนที่เป็นหัวหน้านี่แหละครับ และคนที่สบายแบบสุดๆ ไปเลยก็คือ
ลูกน้องครับ
-
เอางานนั้นไปให้พนักงานอีกคนที่เก่งกว่าทำ
วิธีนี้จะคล้ายๆ กับการบอกพนักงานว่า คุณยังไม่มีฝึมือในการทำงานนี้
คุณทำงานสู้อีกคนไม่ได้เลย ซึ่งจริงๆ
แล้วก็ไม่ผิดที่หัวหน้าจะเลือกใช้วิธีนี้
เพราะแน่นอนว่าคนที่ทำงานเก่งกว่าย่อมจะได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้าให้ทำงานที่ยากๆ
คำถามก็คือ แล้วพนักงานที่ไม่เก่งจะเก่งขึ้นได้อย่างไร
ถ้าหัวหน้าไม่เคยคิดที่จะสอนให้เขาเก่งขึ้น
แต่กลับโยกงานที่เขาทำไม่ได้ไปให้คนอื่นทำแทน
พนักงานบางคนรู้สึกเสียหน้ามากถ้าหัวหน้าทำในลักษณะนี้
จนอาจจะทนไม่ได้ถึงขั้นลาออกไปก็มี
-
โอนย้ายงาน
วิธีนี้เป็นการเปลี่ยนงานให้กับลูกน้องของเรา
เพราะถ้าเรามั่นใจว่าลูกน้องของเราทำงานนี้ไม่ได้แน่นอน
สิ่งที่หัวหน้าจะทำก็คือ ไม่ดันทุรังให้เขาทำต่อ
แต่จะขอโอนย้ายลูกน้องคนนี้ไปทำงานอย่างอื่นแทน
หรือไม่ก็มอบหมายงานอื่น ที่ลูกน้องมีความถนัดมากกว่า
เพื่อให้ผลงานเขาดีขึ้น แต่การโอนย้ายก็ต้องมีการบอกกล่าวกันก่อน
บางครั้งก็ต้องมีการหารือร่วมกับคนที่เป็นลูกน้องด้วยว่าเขาถนัดอะไร
และอยากโอนไปไหน ไม่ใช่ออกมาเป็นคำสั่งให้ย้ายไปที่อื่น
โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แบบนี้เหมือนเป็นการลงโทษมากกว่าการพัฒนาพนักงาน
-
ไล่ออก
วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีสุดท้ายที่หัวหน้าเลือกทำ แต่เชื่อหรือไม่ว่า
มีหัวหน้าหลายคนที่ใช้วิธีนี้เป็นวิธีแรกเลยเวลาที่ลูกน้องทำผลงานไม่เข้าตา
ก็คือ
เมื่อหัวหน้ามั่นใจว่าลูกน้องคนนี้ไม่สามารถทำงานตามที่เราต้องการได้แล้ว
เขาจะไม่เสียเวลาสอนหรือให้คำแนะนำเลยครับ เพราะเขาคิดว่า
จ้างพนักงานเข้ามาเพื่อทำงานนี้ ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ควรจะทำงานนี้ต่อไป
ก็ต้องออกจากบริษัทสถานเดียว
จาก 5 วิธีการในการจัดการกับลูกน้องที่ทำงานไม่ได้ตามที่ต้องการ
วิธีการที่น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในความคิดของผมก็คือ
การให้คำแนะนำและสอนงานเวลาที่ลูกน้องทำงานไม่ได้ เข้าข่ายการ
Coaching นั่นเองครับ เพราะผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า
ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วสามารถที่จะทำงานได้เลยทันที
และคนทุกคนย่อมต้องทำงานผิดพลาดกันได้บ้าง
ดังนั้นถ้าจะให้ลูกน้องมีผลงานที่ดีขึ้น ความผิดพลาดต่างๆ น้อยลง
หัวหน้าก็ต้องสอนงาน ให้คำแนะนำงาน
โดยอาจจะต้องเข้าคลุกวงในกับลูกน้องคนนั้นบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อที่จะพัฒนาให้เขาทำงานให้ได้ตามที่เราต้องการนั่นเองครับ
ท่านผู้อ่านล่ะครับใช้วิธีไหนกันบ้างครับ