เมื่อวานนี้
กิจกรรมบำบัด ขั้นตอนที่ 1: วันนี้น้าป๊อปมีกระดาษและสีเทียนให้วาดรูป น้อง ป. (นามสมมติ) อยากวาดอะไร จากนั้นน้องวาดรูปต้นไม้สีเขียนสดใส น้าป๊อปให้บอกความรู้สึกถึงภาพต้นไม้ โดยใช้สีเทา (น้องเลือกเอง) เขียนระบุว่า "สบายใจ" และน้าป๊อปถามคะแนนที่จะให้เป็นรูปดาว 3 เต็ม 3 ดวง จากนั้นให้เลือกวาดระหว่างคนกับบ้าน น้องเลือกวาดบ้านก่อน ระบุว่า "ไม่ชอบ" ให้คะแนนดาว 2 เต็ม 3 ดวง และน้องเลือกวาดคน ระบุว่า "เฉยๆ" ให้คะแนนดาว 1 ดาวครึ่ง
กิจกรรมบำบัด ขั้นตอนที่ 2: น้าป๊อปแปลผลความคิดเชิงจิตวิทยาจากภาพทั้ง 3 พบว่า น้องชอบอิสระและธรรมชาติที่สดใส เพราะวาดต้นไม้ได้สดชื่น น้องชอบแยกตัว เพราะประตูบ้านไม่มีกลอนและหน้าต่างปิดสนิท หลังคาเป็นสีเขียวที่แสดงถึงความต้องการเป็นอิสระในบ้าน น้องไม่ชอบการเผชิญหน้ากับคนเพราะวาดรูปหัวคนโตไม่มีผม และสัดส่วนแขนขาไม่พอดีกัน ร่างกายแต่งตัวสีดำ แต่ก็สื่อสารความคิดได้ เพราะหน้าคนสีเนื้อ จากการสนทนาขณะที่น้องวาดรูป ก็ตั้งสมมติฐานกับครอบครัวของน้องว่า "ไม่น่าจะมีสัญญาณของโรคซึมเศร้า แต่จิตใจได้รับความกระทบกระเทือน (Distress) และปรับตัวไปมาถึงความเครียดระดับหนึ่ง" จากนั้นน้าป๊อปให้คุณพ่อคุณแม่เขียนลงกระดาษเป็นข้อๆ ว่า อยากพัฒนาลูกอย่างไร ภายหลังจากสนทนาถึงข้อดีข้อเสียในตัวลูก ซึ่งหัวข้อต่างๆ มีความคิดเชิงลบและอยากถามว่าลูกไม่ขยัน ไม่อาบน้ำ ไม่พูดกับพ่อแม่เพราะอะไร
กิจกรรมบำบัด ขั้นตอนที่ 3: น้าป๊อปให้น้อง ป. สำรวจสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย (แสง เสียง สัมผัส) และให้ลองปล่อยใจว่างพร้อมทบทวนความรู้สึกที่ผ่อนคลายในแต่ละฐานการรับความรู้สึก จากนั้นให้น้อง ป. แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ให้สำรวจตามน้อง ป. พร้อมให้นอนกอดกันพ่อแม่ลูก หลับตาและฟังทำนองดนตรีสัก 10 นาที จากนั้นน้าป๊อปให้ครอบครัวนั่งเป็นวงกลม พร้อมเปิดใจว่า "แต่ละคนถือต้นไม้ไฟกระพริบ มีความคิดที่จะบอกอะไรกับน้องป." บรรยากาศเริ่มมีน้ำตา เมื่อทุกคนรู้สึกผิดที่อยากให้น้อง ป. มีความสุขแต่น้อง ป. ไม่พูดหรือตอบ เมื่อคุณพ่อคุณแม่อยากคุยด้วย ลงท้ายว่า น้อง ป. ไม่ชอบที่พ่อแม่บังคับและตำหนิ ไม่ได้คิดอะไร ไม่รู้สึกอะไร ก็เลยไม่รู้จะพูดกับพ่อแม่อย่างไร
กิจกรรมบำบัด ขั้นตอนที่ 4: น้าป๊อปให้ทุกคนจับมือกัน ปล่อยมือ และให้กอดน้อง ป. ก่อนพูดว่า "อยากให้น้อง ป. พัฒนาตนเองหรือคุณพ่อคุณแม่จะทำอย่างไรให้ครอบครัวมีความสุข" หากน้อง ป. รับทราบและเข้าใจข้อเสนอแนะ ก็ให้จับมือกับคุณพ่อและคุณแม่ น้าป๊อป พบว่า ครอบครัวนี้ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจและเปิดใจรับความคิดสุขทุกข์ที่น้อง ป. สบตาและพยักหน้าอย่างรับรู้ด้วยความคิดความเข้าใจ
กิจกรรมบำบัด ขั้นตอนที่ 5: น้าป๊อปให้กระดาษน้อง ป. แล้วให้น้อง ป. ระบายความในใจที่เรียนรู้ในวันนี้เป็นภาพอะไรก็ได้ แล้วมอบให้คุณพ่อคุณแม่ น้อง ป. ตั้งใจวาดรูปดอกไม้ที่สวยงามมากๆ และบอกความในใจก่อนมอบให้คุณพ่อคุณแม่ ขณะเดียวกันน้าป๊อป ก็กระตุ้นให้ครอบครัวร่วมวางแผนทำกิจกรรมที่น้อง ป. อยากทำให้ครอบครัวมีความสุข เช่น การไปดูหนัง การท่องเที่ยวธรรมชาติ เป็นต้น น้าป๊อปจึงสรุปว่า "น้อง ป. ไม่มีอาการที่น่ากังวลใดๆ ค่อยๆ คิดบวกและวางแผนทำกิจกรรมพร้อมการสื่อสารภาษากายและใจให้มากขึ้น
"เมื่อสอบถามปมในวัยเด็ก ก็พบว่า น้อง ป. ไม่ได้รับการเลี้ยงดูจากคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่เล็กจน 4 ขวบ (อยู่กับยาย) จากนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงรับเลี้ยงต่อ ช่วงแรกก็กอดลูกดีมาก แต่พอลูกโตขึ้นก็ไม่ได้กอดชื่นชมใดๆ สังเกตว่า ทักษะทางสังคมจึงปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพให้พูดน้อยและไม่สมบูรณ์นัก เพราะการพัฒนาทักษะทางสังคมสมวัยในช่วง 2-3 ปี อย่างไรก็ตาม น้อง ป. คงไม่เปลี่ยนบุคลิกภาพ หากแต่วัยเรียนรู้ในสถานการณ์ในโรงเรียนและบริบทอื่นๆ อาจส่งเสริมความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจได้บ้าง หากน้องป.มีแรงบันดาลใจ เปิดใจ และอิ่มใจ เช่นในวันนี้ด้วยการทำกิจกรรมบำบัดเบื้องต้น"
เมื่อเช้านี้
กิจกรรมบำบัด ขั้นตอนสุดท้าย: ดร.ป็อป ได้โทรถามความเป็นไปจากครอบครัวข้างต้น พบว่า ทางคุณแม่ได้เตรียมเปิดหนัง ดูกันที่บ้านกับน้อง ป. ด้วย จึงได้แนะนำว่า ถ้ามีปัญหาใดๆ ในช่วง 1 เดือนนี้ ก็ให้โทรปรึษาดร.ป๊อป ด้วยความยินดีครับผม
ขอบคุณมากครับอ.ณัฐพัชร์ พี่เหมียวคนเก่งครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ ดร.ป๊อบ
ขอบคุณมากครับพี่เหมียว เป็นประสบการณ์ที่น่าชื่นชมคุณแม่ที่มีมานะเพื่อลูกนะครับ
ขอบคุณค่ะ เข้ามาอ่านหาความรู้เนื่องจากมีลูกศิษย์คนหนึ่งมีอาการไม่พูด แทบจะนำคำได้ อยู่ระดับม.ปลายค่ะ
มีลูกพูดมาก ก็เตรียดค่ะอาจารย์ มันถามจนเราจนมุม สุดท้ายต้องถามว่า "เมือยปากยังลูก" อิ อิ ขอบคุณอาจารย์ สำหรับคามรู้ที่แบ่งปัน
ยินดีมากครับสำหรับความคิดเห็นจากคุณ Noktalay และคุณชลัญธร
เป็นเรื่องจริงของธรรมชาติ ที่เด็กวัยเรียนจะมีความคิดส่วนตัว แต่คงต้องวืเคราะห์ว่า พูดนับคำได้ เป็นเพราะอะไร ส่วนพูดหลายคำ ถามเก่ง อันนี้ถ้าเป็นเรื่องที่เหมาะสม ก็นับว่า ลูกมีความคิดถามเก่งครับ ไม่มีปัญหาใดๆ
ลูกที่บ้านก็ไม่ชอบพูด..
ขอบคุณมากครับคุณครู ป. 1 แม้ลูกจะไม่พูด แต่ถ้ามีการกอด การยิ้ม และสื่อสารภาษาท่าทางผ่านกิจกรรมครอบครัว ก็จะช่วยได้ครับ
ขอบคุณมากครับคุณหมอธิรัมภา ยินดีที่คุณหมอจะนำไปปรับใช้ครับ