คำฮิต ติดปากหมอพยาบาล ที่ต้องแปล


         คำฮิต ติดปากหมอพยาบาล ที่ต้องแปล

คำติดปากหมอและพยาบาลที่ฟังแล้ว คุณต้อง ขอคำแปลเพื่อให้ความกระจ่าง อย่าฟังแล้วผ่านไปมันมันจะทำให้คุณงงไปกันใหญ่ จนอาจปฏิบัติผิดไปจากความหมายก็ได้ มาดูกันอย่าเชื่อหมอหรือพยาบาลอย่างงมงาย ต้องเชื้อในเหตุผลที่เหมาะสมที่ควรทำ จำไว้ว่า ไม่มีใครชี้นิ้วกำหนดชีวิตเราได้ เราเท่านั้นจะเป็นผู้กำหนดชีวิตเราเอง

1. คุณต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ นั้นต้องคุณมีความจำเป็นอย่างยิ่งด้วยว่า 5 หมู่ที่ว่า นั้นหมายถึงอะไร หมู่บ้าน หรือหมู่อาหาร แล้วไอ้ที่ว่า 5 หมู่ น่ะ ในแต่ละมื้อ หรือในแต่ละวัน ซึ่งความหมาย ในนัย ของการกินนั้น ไม่ใช่ให้คุณตั้งหน้าตั้งตา กินให้ครบหมู่อาหารทุกมื้อหรอก จน...ตาย เครียดด้วย เพียงแต่ว่าควรกินอาหารให้หลากหลาย นั่นเอง เช่น อาจจะเป็นใน 1 สัปดาห์ หรือ วัน ซึ่งในแต่ละบุคคลนั้นจะไม่เหมือนกัน ในแต่ละโรค ต้องถามให้กระจ่าง

 2. ทานยาให้ครบ แต่ยาที่ให้ไปมันหลายชนิดมาก เช่น ไปตรวจด้วยไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ แพทย์สั่งแต่ละอย่างไม่เหมือนกันเลย แล้วจำเป็นต้องกินให้หมดทุกตัวหรือเปล่านี่สำคัญและอีกอย่าง เช่นยาหลังอาหาร หรือก่อนอาหารนี่ ถ้ามือนั้นฉันไม่ได้กินอาหาร แล้วฉันต้องกินยามั๊ย คำว่าครบนี่คือหมดทุกตัวหรือบางตัว เท่านั้น

3. ยานี้อาจทำให้แพ้ได้ คุณต้องรู้นะว่า อาการแพ้ยามันเป็นแบบไหน เพราะบางอย่างนั้นมันไม่ได้แพ้ แต่เป็นอาการข้างเคียงของยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แสบร้อนท้อง เป็นต้นและถ้ามีอาการอย่างนี้จะแก้ไขอย่างไร นี่แหล่ะควรรู้

4. ผลการตรวจเนื้อเยื่อของคุณพบความผิดปกติเล็กน้อย อันนี้แหล่ะต้องถามเลยว่า ไอ้ที่เล็กน้อยแค่ไหนเพราะในความหมายของหมออาจหมายถึง มะเร็งระยะเริ่มแรกก็ได้ หรือต้องไปตรวจอะไรเพื่อยืนยันผงบ้าง ไอ้ที่ผิดปกติน่ะแนวโน้มไปทางไหน ต้องตรวจอะไรเพิ่มเติมบ้าง

5. รอสักครู่ นี่ต้องถามกลับทันทีว่า สักครู่นี่ กี่ชั่วโมงเช่นการผ่าตัดนี่ ครู่หนึ่งนี่ คือ 3 ชม. อย่างน้อยเชียว แต่เรานั่งรอข้างนอกนี่ไปเที่ยวห้างได้สบายๆ

6. ไม่เจ็บหรอก หรือ เจ็บนิดเดียวเอง ให้คุณรู้ไว้เลยว่า หมอหรือพยาบาลไม่เคยถูกกระทำในสิ่งที่คุณกำลังจะถูกกระทำ เพราะถ้าเคยเขาจะไม่พูดคำนี้เด็ดขาด

7. ร้องทำไม ไม่มีใครตายเพราะคลอดลูกหรอก คำนี้ให้คุณรู้เลยว่าคนที่พูดยังไม่เคยคลอดลูกหรือกระทั่งสามีด้วยซ้ำ หรือไม่ก็ไม่แน่จริง คือไม่กล้าคลอดแบบธรรมชาติ เหมือนเราก็เลยไม่รู้ว่าการคลอดลูกมันเจ็บปวดแค่ไหน

 8. ต้องผ่าตัด คุณต้องรู้เลยว่า สิ่งที่คุณเป็น มีการรักษาอย่างอื่นมั๊ย ที่ดีกว่า แล้วการผ่าตัดสามารถรักษาได้กี่เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ผ่าอยู่ได้มั๊ย โดยเฉพาะ ได้ยินคำนี้ จาก รพ.เอกชนอย่ารีบร้อนตัดสินใจ ต้องมา confirm จาก รพ.รัฐก่อน มันแพงอ่ะ

9. งดอาหาร หวาน เค็ม และมัน อย่างงี้ต้องถามเลยว่า ไอ้ที่เรียกว่า หวาน เค็ม และมัน หมายถึงอะไรบ้าง คำว่างดนี่หมายถึงงดเลย หรือกินได้บ้าง

10. งดน้ำงดอาหารก่อนมาตรวจ ต้องถามให้แน่ใจว่า สิ่งที่เราจะไปตรวจนั้นมีความจำเป็นต้องงดกี่ชั่วโมง เช่น ตรวจเฉพาะเบาหวาน งดแค่ 6 ชม.ก็พอ แต่ตรวจไขมันในเลือดต้องงดถึง 12 ชั่วโมงทีเดียว

11. ดื่มน้ำให้มากๆ อันนี้แหล่ะต้องถามเลยว่า นั่นหมายถึงเท่าไร ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างจะสนับสนุนแนวคิดอาจารย์ถางพอควรคือคำว่าน้ำมากนี่เอาแค่สมดุล ของร่างกาย ซึ่งอาจไม่เท่ากันในแต่ละบุคคลต้องดูสมกุลของน้ำที่ออกแล้วเข้าให้เกิดความสมดุลกัน เพราะการดื่มน้ำมากนั้นเท่ากับไปเพิ่ม blood volume ให้สูงขึ้น ผลจะเกิด การ และเปลี่ยนสารเคมีในเลือด และ cell ส่งผลให้ เกิดโทษได้

12. ยังหาสาเหตุของโรคไม่ได้ อันนี้แหล่ะสำคัญเลย ว่า แพทย์ ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะไปหาสาเหตุมาจากไหนก็เลยอ้างตำราฝรั่ง อย่างที่ตำราฝรั่งเขียนถ้าไม่ใช่อย่างนี้ อย่างนี้ แล้วให้ระบุว่า “ไม่ทราบสาเหตุไป” แต่หลักพุธศาสนา นั้นบอกไว้ว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลายนั้นมาจากเหตุและปัจจัย” หรือ “เกิด แก่ เจ็บตาย” นั่นเอง แต่ตำราฝรั่งก็เขียนไว้อีกแหล่ะว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคนั้น ต้องประกอบด้วย host agent environment แต่ไหง๋ บางโรคกลับบอกไทราบสาเหตุซะงั้น

13. เป็นโรคที่รักษาไม่หาย คุณจำเป็นต้องรู้ว่า ไอ้ที่รักษาไม่หายน่ะ ทำอะไรอีกได้มั๊ย ควบคุมได้มั๊ย อะไรส่งเสริมให้โรคสงบ อะไรส่งเสริมให้โรคกำเริบ อย่างชลัญธรนี่หมอวินิจฉัยว่าเป็นพาร์กินสันชลัญจะถามตอบทันทีว่าตอนนี้โรคของชลัญอยู่ระยะไหน ทำอะไรได้บ้างในตอนนี้ แค่หมอบอกว่า กินยา ทำใจ แค่นั้นแหล่ะกระจ่างเลย

14. ผลตรวจเลือดพบความผิดปกติ นี่ต้องถามเลยว่า ไอ้ที่ผิดปกติน่ะ เป็นโรค หรือผิดปกติอย่างไร แก้ไขได้มั๊ย ด้วยวิธีการใด

 15. การรักษาต้องใช้เวลา ท่านต้องรู้ว่าเวลาเท่าไรเหมาะสมถ้าถ้ามีอาการเช่นไรต้องมาก่อน นัด หรือรักษานานเท่าไรถึงหาย ด้วยการกินยาต่อเนื่อง หรือต้องทำอะไรอีกบ้าง อะไรที่ทำให้การรักษาไม่ได้ผล 16. ไปเข้าห้องน้ำเปลี่ยนผ้าถุงทำความความสะอาดก่อน ต้องถามว่า ให้เข้าไปทำความสะอาดอะไร ห้องน้ำหรืออวัยวะส่วนไหน ใช้อะไรทำความสะอาด น้ำธรรมดา หรือสบู่ เช่นการตรวจมะเร็งปากมดลูกนั้น ใช้ใช้น้ำเปล่าล้างอวัยวะเพศได้เท่านั้น

 เอาแค่นี้ก่อนล่ะกัน เดี๋ยวจะไปรวบรวมมาให้อีก ว่า คำพูดแบบนี้มันทำให้เราไม่กระจ่างอย่างไร การฟังคำพูดที่ไม่กระจ่างของแพทย์ และพยาบาลไปสู่การปฏิบัติ แล้วเกิดผลเสียพบมามากแล้ว ด้วยความเป็นห่วงจากชลัญ ท่านจะได้ รู้เท่าทันแพทย์ พยาบาล อย่าหวังว่าจะมาสั่งฉันได้ง่ายๆ นะ อิ อิ อิ ที่สำคัญต้องกล้าถาม อย่านั่ง พยักหน้า อย่างเดียว ออกาจากห้องตรวจแลัวลืมหมด 

ชลัญธร  ตรียมณีรัตน์

 

 

หมายเลขบันทึก: 492098เขียนเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 05:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มีนาคม 2014 11:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

คุณชลัญช่างคิดช่างสังเกต "script" อ่านไปก็ขำไป เป็นอย่างนั้นจริงๆ :)

โห! เร็วมากยังชงกาแฟไม่เสร็จเลยเพิ่งจับแก้วเอง ขอบคุณ หมอ ป. อ.นุ

ขอบคุณค่ะ

อ่านบันทึกนี้แล้วทำให่้ได้ทบทวนตัวเองค่ะ ที่คนไข้ไม่เข้าใจ เพราะเราให้ความกระจ่างไม่ชัดนี่เอง

อยากทำเป็นโปสเตอร์ติดไว้ที่ OPD จัง (คงไม่ผ่านตั้งแต่แรกคิดแล้วค่ะ)

ขอบคุุณBlank ที่มาให้กำลังใจ จริงๆน่าจะมีมากกว่านี้นะ ถ้านึกดีๆเราอาจละเลยเรื่องง่ายๆไปน่ะ ถ้าใส่ใจอีกนิดจะไม่ผิดพลาด

ขอบคุณ ทุกท่านที่มาให้กำลังใจ   หวังว่าคงได้ใช้ประโยชน์จากบันทึกนี้

  ป.
Blank    dansuang
Blank    นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
Blank    อ.นุ
Blank    ครูอ้อย แซ่เฮ
Blank    ทิมดาบ

ขอบคุณ ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์  ที่มาให้กำลังใจ อย่าลืมนะค่ะไปหาหมอต้องกระจ่าง       

แล้วให้จะให้เอาเมียหาหมอด้วยมั้ยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท