จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลของหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่พวกเราเขาไปทำงานเมื่อปี 2554 พบว่ามีการนำไก่มาใช้ประกอบพิธีกรรมครัวเรือนละ 35ตัวต่อปี ชุมชนนี้มีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด 62 ครัวเรือน เท่ากับว่าหมู่บ้านนี้มีการนำไก่มาใช้ประกอบพิธีกรรมปีละ 2,170 ตัว โห...เยอะไหมค่ะ แต่ข้อมูลของสถาบันวิจัยชาวเขา เมื่อปี 2526บอกไว้ว่า กะเหรี่ยงบริโภคไก่ครัวเรือนล่ะ 121 ตัวต่อปีโห..เยอะกว่าที่เก็บข้อมูลปัจจุบันอีกอ่ะ...
แต่อย่างไรก็ตามกะเหรี่ยงยังคงมีวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกับไก่เสมอสืบทอดกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า อาจเป็นเพราะว่าการดำรงชีวิตในแต่ละวันมีการพึ่งพาธรรมชาติอยู่กันอย่างเกื้อกูลกัน จะมีการกราบไหว้บูชาเจ้าป่าเจ้าเขา ผีต้นน้ำผีไร่ ผีนา ผีบ้านผีเรือน เรียกขวัญ ฯลฯ ทุกปีอย่างน้อยปีละครั้ง
และจะมีการประกอบพิธีเพิ่มขึ้นหากมีเหตุการณ์อะไรที่ไม่คาดคิดหรือผิดปกติจากทั่วไป มักจะสันนิษฐานเสมอว่า "ต้องมีใครไปทำผิดกฏกติกา จารีตประเพณีของหมู่บ้านไว้แน่นอนไม่งั้นไม่เกิดเหตุการณ์ฟ้าดินลงโทษแน่" เช่นหญิงสาวท้องก่อนแต่ง มีชู้ มีภรรยาน้อย มีสามีน้อย มีกิ๊กมีแก๊ก ตามสมัยปัจจุบัน ฯลฯเป็นเหตุให้ต้องเดือนร้อนไก่อีกเช่นเคยเพื่อนำมาเป็นเครื่องบรรณาการสำหรับการขอขมาอภัยเจ้าที่เจ้าทางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษา
จริง ๆ แล้ว ประเพณี ความเชื่อต่าง ๆถูกสืบทอดมาเพื่อสอนให้ลูกให้หลานได้ประพฤติตนในทางที่ถูกที่ควรแต่เมื่อไหร่ผิดกติกาสังคม มักจะเดือดร้อนไก่เสมอ ทั้ง ๆที่ไก่ไม่ได้ทำผิดสักหน่อย...
ภาพช้าง วาดโดย นายพะลาโป๊ะประยูนยืนยง ลูกหลานของชุมชนบ้านนาเกียน
น้องเขาเป็นศิลปินค่ะ เพิ่งเรียนจบศิลปะมาหมาด ๆ เลยล่ะค่ะ
สงสัยไก่ตามวิถีคนเมืองใหญ่ขึ้นมาทันที ;)...
สงสัยว่ายังไงค่ะอาจารย์
สงสัยว่า ครูพิมพ์ผิดครับ 555
ต้องเขียนใหม่ว่า "สงสารไก่ตามวิถีคนเมืองใหญ่ขึ้นมาทันที"
ขออภัย ...
หุหุ ไม่เป้นไรค่ะอาจารย์ ว่าแต่สงสารทำไมค่ะ
เราฆ่าเขาเพื่อเป็นอาหารเป็นวิถีคนเมือง
เราฆ่าเขาเพื่อทำเป็นกุศโลบายบางอย่างตามความเชื่อจึงน่าสงสาร
;)...
ขอบคุณค่ะอาจารย์