ในระยะหลังๆนี้ ผมได้เริ่มวิเคราะห์เนื้อหา มวลสาร และความเชื่อเกี่ยวกับมวลสารต่างๆของสังคมไทย ผ่านระบบพระเครื่อง และลงรายละเอียดที่ "มวลสาร" ในเนื้อพระ ที่ได้รับความนิยมสูง ในระดับ เบญจภาคี เลยทีเดียว
ที่ผมพบว่า ในพระเนื้อดินเผานั้นจะมีสองรุ่นหลักๆ
คือ
ที่เกี่ยวข้องกับแร่เหล็ก ที่เห็นชัดเจน ก็คือ พระกำแพงซุ้มกอ และพระรอด
กล่าวคือ พระกำแพงซุ้มกอ จะมีแร่เม็ดมะขาม ที่น่าจะเป็น เฮมาไทท์ (Hematite) ที่กำลังอยู่ในขั้นผุกร่อน (weathering) ที่มีสีแดง ที่มีบันทึกลานทองว่า "มีกูไว้ไม่จน" ที่นำมาขยายความจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในวงการว่า พระกำแพงซุ้มกอจะนำโชคลาภมาให้
จนถึงระดับที่นำมวลสารดังกล่าวมาใช้ผสมในมวลสารพระสมเด็จทั้งสามวัด ของท่านสมเด็จพุฒาจารย์โต
สำหรับในกรณีของพระรอดกรุวัดมหาวันนั้น ผมเคยวิพากษ์ไว้แล้วว่า เป็นการนำแร่เหล็ก ทั้งเฮมาไทท์ (แดง) และ ลิโมไนท์ (เหลือง) มาผสม และเผาจนละลายไหลไปเป็นตัวเชื่อม (Concretion) ในมวลสารดินกรอง แบบเดียวกับน้ำว่านในกรณีของผงสุพรรณ
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ดินเผาก็ผุกร่อน (weathered) ออกเป็น เนื้อผุ และเนื้อยุ่ย (weathering surface) มีลักษณะคล้ายๆ ขุยสนิมของทั้ง ลิโมไนท์ (ขุยเหลืองๆ) และ เฮมาไทท์ (สนิมขุยแดงๆ) บนผิวกร่อนๆ ที่วงการพระเรียกว่า ผิวเหี่ยว
แสดงว่า ความแกร่งของเนื้อพระได้ชักนำให้คนที่นับถือเชื่อว่าจะทำให้เกิดความคงกระพัน แบบเดียวกับเนื้อพระ
โดยรวมก็คือเนื้อเหล็ก ที่มีผลทำให้คนเชื่อว่า มั่นคง คงกระพัน และมั่งคั่ง นั่นเอง
ยินดีรับฟังทั้งมุมเดียวกันและมองต่างมุมครับ
ไม่มีความเห็น