วันนี้จะมาต่อในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ 100
อันดับบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุด ที่จัดอันดับโดยนิตยสาร Fortune
สหรัฐอเมริกา สิ่งที่น่าสนใจมากเรื่องหนึ่ง
ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พนักงานรู้สึกถึงความน่าทำงานของบริษัทก็คือ
เรื่องของสวัสดิการที่บริษัทจัดให้กับพนักงานนั่นเองครับ
ลองมาดูกันว่า 100 บริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดนั้น
เขามีจัดสวัสดิการอะไรให้กับพนักงานกันบ้างครับ
-
Health
care คือการจัดสวัสดิการทางด้านสุขภาพ การรักษาพยาบาล
ที่บริษัทจัดให้กับพนักงานต่างหากจากเรื่องของการประกันสังคม
ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะช่วยพนักงานส่วนหนึ่ง
และพนักงานออกค่าใช้จ่ายเองส่วนหนึ่ง แต่มีถึง 14 บริษัทจาก 100
บริษัทที่จ่ายทุกบาททุกสตางค์ให้กับพนักงานในเรื่องของสุขภาพ
ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก การตรวจสุขภาพ ฯลฯ พูดง่ายๆ ก็คือ
อะไรที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของพนักงานบริษัทจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
-
Child
care คือการจัดสวัสดิการด้านการดูแลบุตรให้กับพนักงาน
โดยมีบริษัทถึง 31 บริษัทจาก 100
บริษัทที่จัดให้มีศูนย์ดูแลเด็กอยู่ภายในบริษัทเองเลย
พนักงานสามารถนำลูกตนเองเข้ามาฝากไว้ในศูนย์นี้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
และก็มีบางส่วนที่พนักงานอาจจะมีการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
แต่เสียในอัตราที่ถูกมาก
เมื่อเทียบกับศูนย์รับเลี้ยงเด็กทั่วไปภายนอก
-
Work-Life Balance:
Tele-Commuting
เป็นสวัสดิการในเรื่องของการสร้างความสมดุลในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของพนักงานโดยการให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้าน
หรือที่อื่นๆ โดยไม่ต้องเข้ามาทำงานที่บริษัทได้ โดยมีบริษัทจำนวนถึง
85 บริษัทจาก 100 บริษัทที่น่าทำงานด้วย จัดให้มีสวัสดิการเรื่องนี้
เพื่อให้พนักงานสามารถบริหารเวลาการทำงานของตนเองได้
โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานในบริษัทเพียงอย่างเดียว
-
Work-Life Balance: Job
Sharing
เป็นสวัสดิการในการสร้างความสมดุลในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของพนักงานอีกตัวหนึ่ง
ก็คือ ให้มีพนักงาน 2 คนในการทำงาน 1 ตำแหน่ง
เพื่อที่จะสามารถสลับสับเปลี่ยนเรื่องของการทำงานซึ่งกันและกันได้
ซึ่งจะทำให้การทำงานของพนักงานมีความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลาการทำงานมากขึ้น
มีจำนวนบริษัทถึง 53 บริษัทจาก 100
บริษัทที่จัดให้มีสวัสดิการนี้แก่พนักงาน
-
Compressed
Workweek เป็นสวัสดิการทางด้านการบริหารเวลาการทำงาน
โดยให้พนักงานมีสิทธิจัดเวลาการทำงานของตนเองโดยในแต่ละวันสามารถกำหนดจำนวนชั่วโมงการทำงานเองได้
โดยที่ให้รวมกันแล้วได้ตามจำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ เช่น
พนักงานบางคนอาจจะทำงานวันละ 10 ชั่วโมง แต่ทำแค่ 4 วัน เพราะได้ครบ
40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แล้ว ก็จะหยุดได้ 3 วันติดกัน เป็นต้น
จากการสำรวจพบว่า มีบริษัทจำนวนถึง 80 บริษัทจาก 100
บริษัทที่จัดให้มีสวัสดิการนี้แก่พนักงาน
-
Fully paid
sabbaticals
เป็นสวัสดิการที่ให้พนักงานมีสิทธิที่จะลายาวๆ
(นอกเหนือจากการลาพักร้อน) เช่น สามารถลาหยุด 1 เดือน
เพื่อที่จะนอนอยู่บ้านเฉยๆ โดยได้รับค่าจ้างเต็ม มีบริษัทจำนวน 23
บริษัทที่จัดให้มีสวัสดิการนี้แก่พนักงาน
-
Onsite
gym มีการจัดให้มีฟิตเนสภายในบริษัทอย่างดี
โดยที่พนักงานไม่ต้องเสียค่าสมาชิก และสามารถใช้บริหารได้อย่างเต็มที่
มีจำนวนถึง 69 บริษัทที่จัดให้มีฟิตเนสภายในบริษัทแก่พนักงาน
-
Gym
Discount
เป็นสวัสดิการช่วยเหลือค่าสมาชิกฟิตเนสแก่พนักงาน
ในกรณีที่พนักงานไม่สะดวกใช้บริการฟิตเนสของบริษัท
หรือบางบริษัทที่ไม่สามารถจัดให้มีฟิตเนสภายในบริษัทได้
ก็จะจัดให้มีส่วนลดให้กับพนักงานในการไปสมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสภายนอกบริษัทได้
ที่กล่าวมาข้างต้นก็คือสวัสดิการหลักๆ ที่บริษัทใน 100
อันดับจัดให้กับพนักงานของตนเอง
แต่ไม่มีบริษัทไหนที่ให้ครบทุกอย่างที่กล่าวมานะครับ
ก็คงต้องแล้วแต่นโยบายของแต่ละบริษัทด้วยครับ
แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ
สวัสดิการส่วนใหญ่จะเน้นไปในเรื่องของการสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัว
กับการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมคิดว่านี่คือแนวโน้มของการจัดสวัสดิการในอนาคตของบ้านเราด้วย
จะมีสวัสดิการแปลกๆ ที่ขัดแย้งกับเรื่องของการทำงานในบริษัทอยู่บ้าง
แต่ก็ทำให้พนักงานเกิดความรู้สึกที่ดีในการทำงาน
สวัสดิการที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า Nap Pods
ซึ่งเป็นสวัสดิการของบริษัท Google ที่อเมริกาครับ สิ่งที่เรียกว่า
Nap Pods ก็คือ การจัดให้มีพื้นที่เล็กๆ
ให้กับพนักงานที่ทำงานเหนื่อยได้หลับพักผ่อน โดยมีเพลงฟัง
มีการสร้างความมืด
และสร้างบรรยากาศเพื่อให้เกิดการพักผ่อนอย่างเต็มที่
เพื่อที่จะสามารถเรียกพลังกลับคืนมาเพื่อทำงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ
ซึ่งก็จะขัดแย้งกับความเชื่อเรื่องของการทำงานว่า 8
ชั่วโมงที่มาทำงานให้กับบริษัทนั้น จะต้องทำงานอย่างเต็มที่ ห้ามเล่น
ห้ามนอนหลับ ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาทำเวลางาน ฯลฯ
แต่ปัจจุบันหลายๆ
บริษัทก็เริ่มให้พนักงานมีโอกาสได้เล่นไปด้วยทำงานไปด้วย
ให้นอนได้ในเวลางาน และให้แบ่งเวลาเพื่อไปทำเรื่องส่วนตัวได้
แต่ก็อยู่ในเงื่อนไขที่ว่างานจะต้องไม่เสียนะครับ หน้าตาของ Nap Pods
ก็เป็นแบบในรูปข้างล่างนี้ครับ
ถ้าเป็นบ้านเราจัดให้มี Nap
Pods แบบนี้บ้างสงสัยพนักงานคงต้องรอคิวยาวเหยียด
เพราะมีพนักงานมาขอนอนทุกวัน และนอนทีก็นานๆ ด้วย