สุขภาพจะดีได้อย่างไร ในเมื่อคนไทยโง่จนเจ็บอยู่ ๒(คน เงิน งาน )


       มาว่ากันต่อ ในตอนที่ ๒ นี่รู้สึกอนาถใจกับ การดำเนินงานเชิงรุกของเรา ใน Primary care  การพัฒนาที่อยากก้าวกระโดดเป็นผู้นำทางดานสุขภาพในอาเชียน นั้น มีเป็นฝันหวานของคนคิด แต่เป็นฝันร้ายของคนปฏิบัติ  ก็อย่างที่เกริ่นใน ตอนแรก  ตำแหน่ง ขรก.ไม่มา แล้วแมวที่ไหนจะมาทนลำบาก ใน Primary care  เงินก็น้อยงานก็หนัก  จักจะทำอะไรหนักหนา  รับผิดชอบหมู่บ้าน  11 หมู่ บ้าน งานทุกฝ่าย ในกระทรวง สธ. primary care ต้องรับหมด

 

     แถมบางปี ทำไม่ดี โดนแป๊กขั้นเงินเดือนซะงั้น มีปัญญาทำก็เทพล่ะคร้าบ สุดท้าย ก็ต้องนั่งมองเมฆหมอกบ้างเพื่อความอยู่รอดของข้าพเข้าเอง

 

   กลายเป็นว่าอยากมีฐาน ทางด้านสุขภาพที่แน่น แต่ให้แต่นโยบาย  เงินให้แต่ต้องทำงานแลก  ด้วยหยาดเหงื่อ และเงินในกระเป๋าตัวเอง เพื่อแลกกับเงินที่ จะเข้าสถานบริการ ตกลงข้าฉลาดหรือข้าโง่นี่  คนก็ให้ แต่ได้คนที่ใกล้เกษียณ จาก secondary care เพราะป้าแกอยู่ไม่ได้ใน secodary care แล้ว โดนระบบเล่นงาน เหมือนกัน ต้องหนีหัวซุกหัวซุนลง primary care แทน  แล้วใครจะกล้าใช้ ซี๗ ทำงานล่ะคร้าบ  ก็ป้าแกตั้งใจมาพักผ่อนน่ะก่อนเกษียณ

 

     เอ๊ามาดู ประสิทธิภาพ ของ primary care เช่น มีงบให้ทำงานเชิงรุก เงินมากซะด้วย ถ้าที่ไหน คนพร้อม มีคนมากที่จะทำได้  กลายเป็นว่าพื้นที่นั้น ประชาชนไม่พร้อมเพราะเป็นเขตเมือง แต่มาตรฐานงานสาธารณสุข มาตรฐานเดียวกัน เหมือนคุณครูเด่ะ มาตรฐานการศึกษาเดียวกัน  เมื่อชุมชนไม่พร้อม จนท.พร้อม ก็ทำได้เท่าที่ทำล่ะว้า เพราะ ประชาชน เขา ไม่เอาด้วย เขามีตัวเลือกทางการรักษาพยาบาลมากมาย ใครจะมานั่งฟังความรู้จาก จนท. เขายุ่งเรื่องทำมาหากิน  จนท.สธ.ก็สบาย ว่างงานคร้าบเพราะคนมาก สามารถส่งลูกเข้า รร.ดังๆ  กลับเข้าที่ทำงาน 9.00 น.ได้ ออกมารับลูกไปทำธุระต่อ 15.00 น.ได้  เวลานิเทศอ้างอย่างเดียว ชุมชนเขตเมืองทำยาก ผู้นิเทศก็เข้าใจ ว๊ายใครจะกล้า ภรรยาท่านสสอ. , หมอ ,นายตำรวจระดับผู้กำกับทั้งนั้น ฯลฯ

 

      เอ้า! พอชุมชนพร้อม need มาเลย การเข้าถึงของ ระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ  แต่คนทำงานไม่พร้อม ก็มีกันอยู่ ไม่กี่คนทำงานตั้งแต่ภารโรงยันหมอใหญ่  ใครไม่เคยมาเห็นยังงงเลยหมอหรือภารโรง  ถูกเรียกตื่นมาตั้งแต่ตี 5 หมอรีบๆมาตรวจให้หน่อย ฉัน(คนไข้) จะไปธุระจ้า   ไม่ลงมาฉัน(คนไข้) เขียนร้องเรียน แก(หมอ) หนาวแน่  สรุปทำตั้งแต่ตี 5 ยัน 2 ทุ่ม ลูก สามี(ผัว) ข่วยเหลือตัวเองเอาล่ะกัน ช่วยๆกันไม่งั้นแม่โดนร้องเรียน

 

เอ๊ะ ข้าราชการเหมือนกันไหง เวลาทำงานไม่เท่ากันหว่า

 

          โห!  มีบางที่ จนท.ขยันมาก อยากให้งานสำเร็จตามนโยบาย คิดโน่น  นี่  นั่นไปไกล  มาก อยากทำ อยากทำ  เขียนโครงการเสนอเพราะรู้ว่ามีงบให้  แต่นาย(สสอ.) ขอปันผล เพราะข้า(สสอ.) ไม่มีงบโครงการลง แล้วข้า(สสอ.) จะกินอะไรล่ะคร้าบท่าน  มันก็ได้เงินมาไม่เต็มหน่วย  จะให้ทำงานยังไงล่ะ แต่ ท่านหัวหน้า(สสอ.) ก็เข้าใจนะช่วยเหมือนกัน  ช่วยพาไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ เป็นการปลอบใจ พาไป ลาว เกาหลี  สิงคโปร์บ้าง ไปดูมาแล้ว ตูจะเอามาใช้ทำอะไรที่บ้านตูว่ะนี่ งั้นไปเป็นไร ไปก็ไปเถอะถือว่าพักผ่อน เรื่องเที่ยวเรื่องใหญ่ ไปดูงานเรื่องรองและข้ออ้างใช้งบฯ  

 

       นี่เป็นส่วนหนึ่งของระบบที่พบ ที่ชลัญเขียนนี่เพราะเคยอยู่ primary care มาก่อน ผิดถูกอย่างไรขออภัยผู้ที่ได้รับผลกระทบ(พาดพิง)จากการเขียน แต่ชลัญว่าทุกวันนี้ก็ไม่เกินนี่ล่ะว้าเท่าที่เห็นอยู่น่ะ

       ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ปฏิบัติงานอยู่ primary care ที่ตั้งใจปฏิบัติเพื่อผู้ป่วย และประชาชนอย่างจริงจังมีผลงานเชิงประจักษ์มากมาย ขอยกตัวอย่างบุคคลที่่น่าชื่ม ใน วงการ สสธ.ใน GTK เช่น "ทิมดาบ" เป็นต้น  (ขอโทษท่านอื่น เพราะรู้จักทิมดาบคนเดียว) เราทำดี ไม่มีใครเห็น อย่างน้อยประชาชนเห็น  ผี(มีจริงหรือเปล่าไม่รู้)เห็น คนใน GTK เห็น  อีกอย่างคือความภาคภูมิใจที่มาเติมเต็ม ความแช่มชื่น ในใจ และอุดมการณ์  จากความสุขของประชาชนในชุมชนที่รับผิดชอบอยู่  อย่างน้อยๆบทความนี้ ที่ข้าราชการ สธ.ตำแหน่งเล็กๆ จบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ป.ตรี ได้ระบายความรู้สึกในใจออกมาก็อาจทำให้เก้าอี้ใครบางคนร้อนขึ้นมาบ้างล่ะว้า ............

     

ด้วยความปรารถนาดี

ชลัญธร

 

ปล.ยังมีตอนต่อไป เก้าอี้ใครจะร้อนก็โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

 

 

คำสำคัญ (Tags): #โง่ จน เจ็บ
หมายเลขบันทึก: 490794เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 04:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 11:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สุดท้าย ก็ต้องนั่งมองเมฆหมอกบ้างเพื่อความอยู่รอดของข้าพเข้าเอง

สุขสันต์กับการมองฟ้า เมฆ หมอก มีแต่บอกรัก เรา นะคะ :)

ต้องหาวิธีการอย่างไรก็ได้ ให้คนไทยรักสุขภาพและหันมาดูแลสุขภาพตัวเองให้มากขึ้น โดยหลักธรรมชาติลดการใช้ยาลง

  • ได้ข้อมูลภายในมากมาย..ที่ผ่านมาเห็นแต่ภาพรวมๆที่เสริมหนุนกลไกไปจากส่วนกลาง

  • การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกมิติ..น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาอย่างตรงจุดค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท