Betong English Speaking Club


BESC ยังเพิ่งเริ่มต้น เป็นกิจกรรมเล็กๆ ที่ขอมีส่วนร่วม ในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ตามความคิดที่ว่า เมื่ออยากเรียน ต้องได้เรียน หรือ Slogan ที่เลือกมาใช้คือ No One Too Old To Learn ไม่มีใครแก่เกินเรียน ถ้าจะบอกว่า เราอยากสร้างสังคมอุดมปัญญา เดี๋ยวจะถูกตำหนิว่า ใช้คำใหญ่เกินไป (ที่จริง เราคิดอย่างนั้นจริงๆ ) แต่เราจะทำ เล็กๆ เพราะ ใหญ่ ๆ เราไม่ เคยชอบคำหนึ่งที่ว่า Small is beautiful ของ ชูมาร์กเกอร์ ก็เลยหวังว่า ถ้ามีผู้สนใจ อยากแลกเปลี่ยน ก็เขียนมาคุยได้

 

Betong English Speaking Club

 กิจกรรมนี้ เกิดจากแนวคิด การศึกษาตามอัธยาศรัย และ การศึกษาผู้ใหญ่ ที่ไม่ได้กำหนดหลักสูตร ตายตัว

และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนรู้ สามารถสร้างพัฒนาการขึ้นเอง ตามศักยภาพของตน

 

ผู้เขียนถนัดที่จะเขียนป็นเรื่องเล่า เพราะเป็นเรื่องที่เริ่มทำมาตั้งแต่ เดือน มกราคม 2555 มาถงวันนี้ ก็ร่วม 6 เดือน

ได้ปรับเปลี่ยน แก้ไขวิธีการไปบางส่วนสัก 10 %  คิดว่าหากติดตามอ่านไป ตั้งข้อสงสัยไปพลาง ก็จะนึกได้เองว่า

เหตุที่ผู้เขียนต้องทำอย่างนั้นเพราะอะไร   เข้าเรื่องดีกว่า

 

ผม และ เพื่อนๆ หลายคน อายุก็ 48 – 54  ปี สามารถพูด ใช้ ภาษาอังกฤษ ในการสื่อสารได้ เพราะเคยทำงานกับบริษัทของชาวต่างชาติบ้าง บางท่านเคยอยู่ ต่างประเทศ ตอนนี้ กลับมาอยู่บ้านที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ก็ยังได้ใช้ภาษาอังกฤษบ้าง เพราะเป็นเมืองชายแดนติดมาเลเซีย รัฐเปรัค

 

ความคิดผุดขึ้นมาว่า น่าจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการพูด ภาษาอังกฤษ จะได้เสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้ขึ้นมาในชุมชน และเป็นกิจกรรม จิตอาสา ที่เราจะแบ่งปันให้กับสังคม และทำให้เราเองได้พูดสนทนาอย่างต่อเนื่องไม่ทำให้เกิดอาการลิ้นแข็ง(ซึ่งเป็นคนละอาการกับ ลิ้นแข็ง ประเภทลมบ้าหมู ) และบอกผู้คนไปในตัวว่า ข้าพูดได้นะ

 

เริ่มจากโจทย์ ที่คิดว่า คนหลายคนมีระดับภาษาอังกฤษไม่เท่ากัน จะทำยังไง เมื่อต้องมานั่งสนทนากัน

เอาเป็นว่า  ผมจัดทำ การ์ดสี มาติดหน้าอก ตามลำดับดังนี้

  1. Yellow Card  สำหรับ Beginner  สามารถใช้ภาษาไทยพูดคุยได้ ฝึกการฟัง และ Understanding
  2. Green Card สำหรับ Mediumใช้ภาษาอังกฤษ แต่หากติดคำใด ช้ภาษาไทยแทนต้องศึกษาศัพท์เพิ่ม
  3. Red Cardสำหรับ Advanceให้พูดภาษาอังกฤษตลอดช่วยเหลือคนที่มีปัญหาและแบ่งปันประสบการณ์
  4. Pink Card สำหรับ Advisor  จัดกระบวนการเรียนรู้ และติดต่อหาผู้ที่มีทักษะภาษา มาร่วมสนทนา
  5. Write Card สำหรับ Observer ผู้ที่ขอเข้ามาดูก่อน ยังไม่แน่ใช้ว่าจะมาร่วมหรือไม่ เป็นการแวะมาเยี่ยม

 

วัน เวลา สถานที่ ค่าใช้จ่าย ?

นึกแล้วว่าเรื่องนี้ ต้องมีคนสงสัย และมักจะเป็น คำถามที่จะตามมาทันที่ เมื่อผมบอกว่ามีกิจกรรม English Speaking Club  เราเลือกทุกวันอาทิตย์  เวลา บ่าย 14: 00 – 16 : 00 น. ตอนนี้ ใช้ร้านอาหารของเพื่อน ชื่อร้านรวงข้าว เพราะตอนบ่ายจะยังไม่มีลูกค้า คิดค่าใช้จ่าย เป็นค่า กาแฟ น้ำชา และ ขนม ท่านละ  50  บาท ไม่มาไม่ต้องจ่าย

 

ใครเข้าร่วมบ้าง ?

สมาชิก ที่หมุนเวียนกันมา รวม 15 คน แต่ละอาทิตย์ประมาณ 4 – 12 คน อายุราว 40 ถึง 65  อาชีพ หลากหลาย เช่น ข้าราชการเกษียณ (อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถม) ผู้จัดการบริษัทขายตรง  ,  ตำรวจ ระดับหมวด รุ่น 53 ปี ปรับขึ้น(ใครสงสัยไปถามญาติที่เป็นตำรวจ) หมอ (สูตินารีแพทย์) ทำไมต้องหมอสู   ,เจ้าของฟาร์มหมู (แล้วเจ้าของฟาร์มหมูสนใจภาษาอังกฤษไปทำไม คำตอบคือ ไปตี-กอล์ฟ ยังมีเจ้าของร้านคอมพ์ นักธุรกิจขายตรง เจ้าของร้านขายแผ่นดิส

ล้วนอยู่ในวัยกลางคน เป็นชายเสียงส่วนมาก เคยมี เยาวชนมาร่วม และ สตรีมาร่วม เนื้อหาที่พูด เขาไม่สนใจนัก บางคนถึงกับนั่งหลับ จึงคิดว่า น่าจะมี Youth English Speaking Club หรือ Women English Club เพิ่มขึ้น

 

 

 

 

 

 

จัดกิจกรรมแบบนี้แล้ว ได้ผลเป็นอย่างไร

น่าพอใจ ........ผมพูดเองไม่ได้   ต้องมีโอกาสถามสมาชิกที่มาร่วม หลายคนไม่เคยขาดสักคั้ง  เห็นพัฒนาการของแต่ละคน ว่าสามารถเข้าใจการสนทนา และ แบ่งปันประสบการณ์ บางครั้งพูดไทย บางครั้งพูดอังกฤษ (สำหรับ Green Card)

คนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย คนหนึ่ง ขอใช้ชื่อย่อว่า คุณ ป.  ใหม่ๆจะเขิน ตอนนี้ ใช้ภาษาไทยซักถาม และแสดงความคิดเห็นได้อย่างกลมเกลียว ทั้งนี้ Advisor  ทำหน้าที่แปล   ผมเองในฐานะ ผู้ริเริ่มและเป็นAdvisor คนหนึ่ง ก็รู้สึกยินดี และ พร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แม้กลุ่มยังเล็กๆก็ตาม แต่ใช่ว่าจะให้ใหญ่มาก ถ้าคนมาก คงต้องแยกกลุ่ม ไปจัดวันอื่นเพิ่มขึ้น

 

Betong English Speaking Club หรือ ตัวย่อ BESC ยังเพิ่มเริ่มต้น เป็นกิจกรรมเล็กๆ ที่ขอมีส่วนร่วม ในการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้  ตามความคิดที่ว่า เมื่ออยากเรียน ต้องได้เรียน  หรือ  Slogan ที่เลือกมาใช้คือ No One Too Old To Learn ไม่มีใครแก่เกินเรียน  ถ้าจะบอกว่า เราอยากสร้างสังคมอุดมปัญญา เดี๋ยวจะถูกตำหนิว่า ใช้คำใหญ่เกินไป  (ที่จริง เราคิดอย่างนั้นจริงๆ )  แต่เราจะทำ เล็กๆ  เพราะ ใหญ่ ๆ เราไม่  เคยชอบคำหนึ่งที่ว่า Small is beautiful ของ ชูมาร์กเกอร์  ก็เลยหวังว่า ถ้ามีผู้สนใจ อยากแลกเปลี่ยน ก็เขียนมาคุยได้   ที่ e mail  [email protected]  ช่วยร่วมแบ่งปันประสบการณ์บ้างนะครับ   ขอขอบคุณ 

หมายเลขบันทึก: 490575เขียนเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 16:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 02:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท