ผมจวกหมอไทยมาหลายบทความแล้วว่าลอกการกินดื่มมาตรฐานฝรั่งมาใช้กับคนไทย ลืมไปว่าวิศวกรอย่างพวกผมก็ลอกหรั่งเหมือนกันเช่น มาตรฐานการปรับอากาศ
วิศวกรเครื่องกล (สาขาวิชาชีพผมเอง) ผู้ออกแบบระบบปรับอากาศในอาคารก็กำหนดว่าภาวะอยู่สบาย (thermal comfort) ของคนไทยเราคือ อุณหภูมิ 25 C และความชื้นสัมพัทธ์ 50% (25/50)
ผมเอะใจประเด็นนี้ตั้งแต่เมื่อ พศ. ๒๕๓๘ พลันที่บรรยายวิชาอุณหพลศาสตร์ (Thermodynamic) ในม.ไทย ว่าไม่น่าใช่ โดยผมว่าถ้าระดับนั้นก็หนาวไปสำหรัยคนไทยเราแล้ว ว่าแล้วผมก็พยายามโพนทะนาออกไปเท่าที่ศักยภาพอำนวยว่าไม่ใช่นะ เมืองไทยเราควรกำหนดประมาณ 27/70 มากกว่า บัดนี้เป็นเวลา ๑๗ ปีแล้ว ก็ยังไม่ค่อยได้ผล ตามสถานที่ต่างๆก็ยังคงขอร้องให้ช่วยกันประหยัดพลังงานด้วยการปรับอุณหภูมิไปที่ ๒๕ องศากันทั้งประเทศ ถ้าปรับมาเป็น 27 องศาจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ปีละมหาศาล ผมเคยคำนวณไว้ตอนโน้นว่าประหยัดได้เป็นพันล้าน
สังเกตไหมครับเวลาไปประชุมตามโรงแรมหรู เราจะรู้สึกหนาว ต้องใส่เสื้อคลุมกันหนาวกันเป็นส่วนใหญ่ ก็มาจาก 25/50 นี่แหละครับ อีกทั้งวิศวกรที่ไม่เก่งพอก็คงต้องออกแบบเผื่อไว้อีกด้วยคือ หนาวเกินไปดีกว่าร้อนเกินไป
เรื่องความชื้นนั้นคนไทยเราไม่ค่อยสนใจกันเท่าใดนัก แต่มันมีผลเหมือนกันนะครับ เช่นถ้าสบายที่ 27/70 ก็อาจสบายได้ที่ 28/60 หรือ 26/80 ด้วย แต่ความชื้นมากไปก็ไม่ดีครับอาจเป็นหวัด ความชื้นน้อยไป(อากาศแห้ง)ก็ระคายผิวหนังได้
ผมฝากเป็นประเด็นให้ท่านครูอาจารย์วิทยาศาสตร์ วิศวทั้งหลาย เอาไปสอนนักเรียนนักศึกษาในประเด็นนี้ด้วยนะครับ
เราลอกมาตรฐานฝรั่งมาใช้ในเรื่องอื่นๆ อีกมาก เช่น ขนาดโถปัสสาวะชาย (ความสูง) (บางที่ต้อง “เขย่งเยี่ยว”) ขนาดเตียงใหญ่เกินไปพอทำเนา (ยกเว้นเปลืองวัสดุ) ที่สำคัญคือเก้าอี้ทำงาน ที่พนักพิงคอมันมักสูงเกินไป นั่งแล้วไม่เข้าหลังทำให้ปวดหลังปวดเอวได้ ขนาดความสูงของพื้นตั่งห้องครัวก็เช่นกัน มักสูงตามมาตรฐานฝรั่ง ทำให้หั่นผักไม่ได้แรง (มุมแขนไม่ได้)
....คนถางทาง (๖ พค. ๒๕๕๕)
Medicine ของชลัญเป็นเพื่อนกัน engineer แล้ว พอปานกัน อิ อิ อิ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับอาจารย์ ผมสังเกตมานานแล้วว่าห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศที่สบายสำหรับนั่งทำงานและนอนหลับคือ ๒๗-๒๘ องศา หากต่ำกว่านี้ก็จะหนาว บางครั้งต่ำมากๆก็เล่นเอาบรรยายและทำงานไม่ไหวเลยทีเดียว
วิศวกรเป็นผู้หญิงหรือเปล่าครับ บางทีเขาอาจจะบวกอุณหภูมิสำหรับการใส่เสื้อคลุมสวยๆ เข้าไปด้วยครับ เห็นสาวๆ ตามออฟฟิศต่างๆ ใส่ผ้าพันคอบ้าง เสื้อหนาวบ้าง สวยๆ ครับ
ถ้าเป็นจริง ต่อไปเครื่องปรับอากาศควรมี male-favored mode และ famale-favored mode ครับ
เท่าที่ผมสังเกตผู้หญิงจะขี้หนาวกว่าผู้ชายนะครับ นั่นอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมผู้หญิงต้องใส่เสื้อผ้าหนาก็ได้ครับ
แหม..ถ้าแบบนั้นอาจต้องมี third-sex-favored mode ด้วยหรือเปล่า อิอิ
ฮา... จริงๆ ด้วยครับ แต่ที่จริงเขาก็มีแล้วนะครับ พวกระบบ "I Feel Control" ทั้งหลายที่ใครอยู่ใกล้รีโมตคนนั้นชนะ แอร์พวกนี้ไม่มีระบบ "We Feel Control" ที่คำนวนจากคนที่อยู่ในห้องเฉลี่ยรวมกันทั้งหมดนะครับ น่าจะดีครับ
This should be put into Thailand Industry Standard (TIS) "27/70".
Air condition still have a long way to go. For examples: sensing CO2/humidity (and other hazardous fumes); circulating air just enough and in the right place; recovering heat waste (from human, cooking, ...)
But let turn up the air-con to 27C and throw away that silly wester suits and ties ;-)