เช้าวันที่ ๕ พ.ค. ๕๕ (วันที่ ๕ เดือน ๕ ปี ๕๕) ผมออกจากโรงแรมเอเต้ จ. ชุมพร วิ่งริมถนนเลี้ยวซ้ายไปที่สามแยกซูซูกิ แล้วเลี้ยวขวาไปสุดถนนปรมินทร์มรรคา ซึ่งเป็นสี่แยกโรงเรียนพุทธยาคมศรียาภัย ถ้าเลี้ยวขวาก็จะไปสถานีรถไฟ แต่ผมเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานเทศบาล ๒ ที่ทอดข้ามแม่น้ำชุมพร วิ่งไปตามถนนเลียบทางรถไฟซึ่งกว้างขวาง สะอาด และโล่ง รวมทั้งอากาศเย็นสบาย หลังจากฝนตกเมื่อคืนและถนนยังไม่แห้งสนิท
เสาไฟที่ริมถนนสวยงามเป็นรูปหงส์ทองที่ปลายเสา มีคนเล่าว่าอุตสาหกรรมเสาหงส์ทองนี้แพร่ไปทั่วประเทศ โดยมีนายหน้ามาชี้ชวนนายกเทศมนตรีและผู้มีอำนาจอนุมัติทั้งหลาย เราคุยกันเรื่องข่าวลือว่าการก่อสร้างที่ต้องไปผ่านการอนุมัติโดยรัฐมนตรี หากตกลงกันไม่ลงตัว เรื่องก็ช้าหรือต้องเริ่มต้นใหม่
ผมนึกในใจว่า จังหวัดชุมพรน่าจะได้สมญาว่าเมืองนกนางแอ่น (กินรัง) เพราะวิ่งไปทางไหนก็ได้ยินเสียงร้องของนกนางแอ่น ที่มาจากลำโพงเครื่องขยายเสียง เป็นเสียงเชื้อเชิญให้นกนางแอ่นตัวจริงเข้าไปทำรังในตึกที่สร้างขึ้น (หรือดัดแปลงจากบ้านคน) กลางเมือง เมื่อได้ยินเสียงผมก็เงยหน้าขึ้นมองหาตึกที่มีลักษณะสำหรับให้นกนางแอ่นอยู่ ก็จะเห็นหลายตึกอยู่เรียงกัน
น้องชายเล่าว่าอุตสาหกรรมทำบ้านให้นก(นางแอ่น)อยู่นี้ มีผู้เชี่ยวชาญรับดำเนินการก่อสร้างสถานที่ ทำเสียงเรียก และอื่นๆ เขาบอกว่าราคารังนกเลี้ยงต่ำกว่ารังนกตามธรรมชาติ เพราะคนเชื่อว่าคุณภาพต่างกัน เท็จจริงไม่ทราบ
ที่จริงตรงหน้าโรงแรมเอเต้ก็มีแถวตึกนกนางแอ่น ทางโรงแรมฉลาดมาก เอานกนางแอ่นมาเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรม สร้างศิลปะขึ้นมาประสานกับธรรมชาติและวิถีชีวิตคนเสียเลย
ผมวิ่งไปจนถึงสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ ก็เลี้ยวกลับ สังเกตเห็นฝรั่งห้าหกคนนั่ง-ยืนรออยู่ที่บริษัททัวร์ข้างทาง กลุ่มนี้เป็นวัยรุ่นกว่ากลุ่มที่มาเครื่องบินกับผมเมื่อวาน ได้เห็นฝรั่งที่มาเที่ยวจังหวัดชุมพรหลาย segment ผมลองคิดว่าเขามาเที่ยวชมธรรมชาติทางทะเล คนกลุ่มนี้จะชอบอะไรอีก ที่เราควรสร้างสินค้าใหม่ขึ้นมาเสนอขายเขา นี่คือโจทย์สำหรับการทำงานวิชาการของมหาวิทยาลัยชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ในอนาคต เพื่อทำหน้าที่มหาวิทยาลัยพัฒนาจังหวัดชุมพร
เมื่อวิ่งผ่านสะพานรถไฟ ที่คนชุมพรเรียกสะพานโค้ง ผมระลึกชาติกลับไปสมัยเป็นเด็ก ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ได้ผ่านมาเห็นทีไรผมต้องมองจนเหลียวหลังทุกครั้ง ผมเป็นเด็กบ้านนอกขนานแท้ สิ่งที่เห็นอยู่ทุกวันเป็นสวนเป็นป่าและทุ่งนา บ้านก็เป็นบ้านไม้ธรรมดา เข้าเมือง (ชุมพร) เห็นตึก ก็จ้องมองด้วยความแปลกตา และนึกในใจว่าเราคงไม่มีวาสนาอยู่ บัดนี้โลกหมุนกลับ คนมีวาสนาอยากอยู่บ้านที่ทำด้วยไม้
ผมวิ่งย้อนกลับมาทางถนนปรมินทร์มรรคา แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนราษฎร์วิถีกลาง ที่ขนานไปกับแม่มน้ำชุมพร ไปยืนถ่ายรูปที่ริมแม่น้ำแล้ววิ่งต่อเพื่อจะหาจุดที่เข้าไปวิ่งบนทางวิ่งริมแม่น้ำที่ผมเคยมาวิ่งตามบันทึกนึ้ แต่ปรากฎว่ามีบ้านคนปิดทาง หาทางเข้าไม่พบ และยิ่งวิ่งไปถนนก็ยิ่งห่างจากแม่น้ำมากขึ้น ผมจึงวิ่งกลับโรงแรม มาชื่นชมความงามในการออกแบบโรงแรมและออกแบบภูมิทัศน์ที่น่าชื่นชมมาก แม้พื้นที่จะแคบ แต่เขาก็ใช้ต้นไม้ชนิดพื้นๆ ปลูกให้เรารู้สึกสดชื่นสัปปายะ
วิจารณ์ พานิช
๕ พ.ค. ๕๕
โรงแรมเอเต้ ชุมพร
แม่น้ำชุมพรถ่ายจากสะพานเทศบาล ๒
ลู่วิ่งริมถนนยามเช้าของผม โปรดสังเกตเสาไฟที่ยอดเป็นหงศ์ทอง
บ้านนกนางแอ่น
สะพานโค้ง
แม่น้ำชุมพรกับลู่วิ่งริมน้ำที่ผมเคยมาวิ่ง
บ้านนกหน้าโรงแรมเอเต้
ศิลปะนกนางแอ่น
ศิลปะธรรมชาติ ๑
ศิลปะธรรมชาติ ๒
ศิลปะธรรมชาติ ๓
ไม่มีความเห็น