ชีวิตที่พอเพียง: ๑๕๗๔. วิ่งออกกำลังกายที่ชุมพร


 

          เช้าวันที่ ๕ พ.ค. ๕๕ (วันที่ ๕  เดือน ๕  ปี ๕๕) ผมออกจากโรงแรมเอเต้ จ. ชุมพร วิ่งริมถนนเลี้ยวซ้ายไปที่สามแยกซูซูกิ แล้วเลี้ยวขวาไปสุดถนนปรมินทร์มรรคา   ซึ่งเป็นสี่แยกโรงเรียนพุทธยาคมศรียาภัย   ถ้าเลี้ยวขวาก็จะไปสถานีรถไฟ   แต่ผมเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานเทศบาล ๒ ที่ทอดข้ามแม่น้ำชุมพร  วิ่งไปตามถนนเลียบทางรถไฟซึ่งกว้างขวาง สะอาด และโล่ง   รวมทั้งอากาศเย็นสบาย หลังจากฝนตกเมื่อคืนและถนนยังไม่แห้งสนิท

          เสาไฟที่ริมถนนสวยงามเป็นรูปหงส์ทองที่ปลายเสา   มีคนเล่าว่าอุตสาหกรรมเสาหงส์ทองนี้แพร่ไปทั่วประเทศ โดยมีนายหน้ามาชี้ชวนนายกเทศมนตรีและผู้มีอำนาจอนุมัติทั้งหลาย   เราคุยกันเรื่องข่าวลือว่าการก่อสร้างที่ต้องไปผ่านการอนุมัติโดยรัฐมนตรี หากตกลงกันไม่ลงตัว เรื่องก็ช้าหรือต้องเริ่มต้นใหม่

          ผมนึกในใจว่า จังหวัดชุมพรน่าจะได้สมญาว่าเมืองนกนางแอ่น (กินรัง)   เพราะวิ่งไปทางไหนก็ได้ยินเสียงร้องของนกนางแอ่น ที่มาจากลำโพงเครื่องขยายเสียง   เป็นเสียงเชื้อเชิญให้นกนางแอ่นตัวจริงเข้าไปทำรังในตึกที่สร้างขึ้น (หรือดัดแปลงจากบ้านคน) กลางเมือง    เมื่อได้ยินเสียงผมก็เงยหน้าขึ้นมองหาตึกที่มีลักษณะสำหรับให้นกนางแอ่นอยู่ ก็จะเห็นหลายตึกอยู่เรียงกัน

          น้องชายเล่าว่าอุตสาหกรรมทำบ้านให้นก(นางแอ่น)อยู่นี้ มีผู้เชี่ยวชาญรับดำเนินการก่อสร้างสถานที่ ทำเสียงเรียก และอื่นๆ   เขาบอกว่าราคารังนกเลี้ยงต่ำกว่ารังนกตามธรรมชาติ เพราะคนเชื่อว่าคุณภาพต่างกัน   เท็จจริงไม่ทราบ

          ที่จริงตรงหน้าโรงแรมเอเต้ก็มีแถวตึกนกนางแอ่น   ทางโรงแรมฉลาดมาก เอานกนางแอ่นมาเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรม    สร้างศิลปะขึ้นมาประสานกับธรรมชาติและวิถีชีวิตคนเสียเลย  

          ผมวิ่งไปจนถึงสะพานรถยนต์ข้ามทางรถไฟ ก็เลี้ยวกลับ   สังเกตเห็นฝรั่งห้าหกคนนั่ง-ยืนรออยู่ที่บริษัททัวร์ข้างทาง    กลุ่มนี้เป็นวัยรุ่นกว่ากลุ่มที่มาเครื่องบินกับผมเมื่อวาน   ได้เห็นฝรั่งที่มาเที่ยวจังหวัดชุมพรหลาย segment   ผมลองคิดว่าเขามาเที่ยวชมธรรมชาติทางทะเล   คนกลุ่มนี้จะชอบอะไรอีก ที่เราควรสร้างสินค้าใหม่ขึ้นมาเสนอขายเขา    นี่คือโจทย์สำหรับการทำงานวิชาการของมหาวิทยาลัยชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ในอนาคต   เพื่อทำหน้าที่มหาวิทยาลัยพัฒนาจังหวัดชุมพร

          เมื่อวิ่งผ่านสะพานรถไฟ ที่คนชุมพรเรียกสะพานโค้ง    ผมระลึกชาติกลับไปสมัยเป็นเด็ก   ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่   ได้ผ่านมาเห็นทีไรผมต้องมองจนเหลียวหลังทุกครั้ง    ผมเป็นเด็กบ้านนอกขนานแท้   สิ่งที่เห็นอยู่ทุกวันเป็นสวนเป็นป่าและทุ่งนา    บ้านก็เป็นบ้านไม้ธรรมดา    เข้าเมือง (ชุมพร) เห็นตึก ก็จ้องมองด้วยความแปลกตา    และนึกในใจว่าเราคงไม่มีวาสนาอยู่    บัดนี้โลกหมุนกลับ    คนมีวาสนาอยากอยู่บ้านที่ทำด้วยไม้ 

          ผมวิ่งย้อนกลับมาทางถนนปรมินทร์มรรคา แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนราษฎร์วิถีกลาง ที่ขนานไปกับแม่มน้ำชุมพร    ไปยืนถ่ายรูปที่ริมแม่น้ำแล้ววิ่งต่อเพื่อจะหาจุดที่เข้าไปวิ่งบนทางวิ่งริมแม่น้ำที่ผมเคยมาวิ่งตามบันทึกนึ้   แต่ปรากฎว่ามีบ้านคนปิดทาง หาทางเข้าไม่พบ   และยิ่งวิ่งไปถนนก็ยิ่งห่างจากแม่น้ำมากขึ้น ผมจึงวิ่งกลับโรงแรม   มาชื่นชมความงามในการออกแบบโรงแรมและออกแบบภูมิทัศน์ที่น่าชื่นชมมาก   แม้พื้นที่จะแคบ แต่เขาก็ใช้ต้นไม้ชนิดพื้นๆ ปลูกให้เรารู้สึกสดชื่นสัปปายะ

 

วิจารณ์ พานิช

๕ พ.ค. ๕๕

โรงแรมเอเต้  ชุมพร

 

แม่น้ำชุมพรถ่ายจากสะพานเทศบาล ๒  


 

 

ลู่วิ่งริมถนนยามเช้าของผม โปรดสังเกตเสาไฟที่ยอดเป็นหงศ์ทอง


บ้านนกนางแอ่น


สะพานโค้ง


แม่น้ำชุมพรกับลู่วิ่งริมน้ำที่ผมเคยมาวิ่ง


บ้านนกหน้าโรงแรมเอเต้


ศิลปะนกนางแอ่น


ศิลปะธรรมชาติ ๑


ศิลปะธรรมชาติ ๒


ศิลปะธรรมชาติ ๓


 

 

หมายเลขบันทึก: 490218เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 16:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 22:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท