กราบสวัสดี อองซานซูจี วีรสัตรีของโลก

พอพูดคำว่าวีรสัตรี ก็คิดสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ท้าวสุรนารี ท้าวเทพกษัตรี ท้าวศรีสุนทร    ผู้เป็นวีรีสัตรี ที่พวกเราเคารพบูชา และเป็นต้นแบบของสัตรีเกร่งของเรา สัตรีเกร่ง หรือสัตรีเหล็กที่โลกเขายกยกย่องกันอีกคนก็คือมากาเร็ทแธตเชอร์ 

อองซาน ซูจี ออกจากพม่ามาไทยเป็นประเทศแรกในรอบ 24 ปี หลังจาถูกกักตัวอยู่ในบริเวณภายในบ้านพักริมแม่น้ำในนครย่างกุ้ง ถึง 17 ปี  แรงงานพม่าที่มาทำงานช่วยไทยตะโกนเรียกหา เมื่อเขามาต้นรับว่า    "คุณแม่ซู"  เสร็จประชุมในเรื่องเศรษฐกิจจากไทย แม่ซูจีของแรงงานพม่าก็ จะเดินทางต่อไปยังสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ อังกฤษ ไอร์แลนด์ ที่กรุงออสโลของนอร์เวย์ เธอจะไปรับมอบรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ที่เคยได้รับตั้งแต่ปี 1991 ส่วนที่อังกฤษ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิต

ความทุกข์ที่อยู่ในบ้านเหมือนคุกนี่เป็นอะไรที่ไม่ธรรม ก็เพียงเพื่อว่าเห็นแก่ประเทศ รักประเทศเหนือสิ่งใด สามีที่เป็นฝรั่งตายยังไม่ได้ไปดูหน้า  ท้ายสุดคนพม่าก็เลือกเธอเป็นผู้แทน เข้าไปในสภาก็ยังทำหน้าที่เป็นผู้ฝ่ายค้าน  ถึงอย่างไรๆ ผมก็เคารพน้ำใจของทหารใหญ่พม่า ที่ไม่คิดฆ่าทำร้ายเธอ (แม้ลึกๆอาจจะกลัวตายเพราะชาวพม่าจะรุมกันสะกรัมตายที่ไปทำร้ายคุณแม่ของเขาก็ได้555)  ทำให้อองซานซูจี มีโอกาสเป็นผู้นำประเทศ สืบสานตำนานของผู้เป็นพ่อนายพลออง ซาน  วีระบุรุษนักปฏิวัติและผู้นำในการเรียกร้องเอกราชของพม่า ที่ถูกบุกฆ่าตายในวัยเพียง 32 ปี  ออง ซาน ซูจี ก็ยังเดินตามรอยเท้าพ่อตั้ง พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National League for Democracy : NLD) และเป็นผู้นำการเรียกร้องเสรีภาพและประชาธิปไตยด้วยสันติวิธี แม้จะอยู่ในบ้านคุกที่ทหารผู้สืบสานมรดกตำนานฆ่าพ่อของเธอสั่งให้กักตัวไว้ตั้งแต่ปี 2532  

ขออำนาจสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ท้าวสุรนารี  ท้าวเทพกษัตรี ท้าวศรีสุนทร  ของไทยดลบันดาล ให้เธอได้เป็นนายกรัฐมนตรีตรีด้วยเถิด

อดีตก็คืออดีตที่เรียกกลับมาไม่ได้ ก็ขอให้อยู่ร่วมกัน พึ่งพาอาศัยกันอย่างเพื่อนบ้านมิตรประเทศที่แสนดี ที่จะอยู่ร่วมโลกกันสืบไป

กราบสวัสดี อองซานซูจี วีรสัตรีของโลก