หมออนามัย เรื่องจริง..ในความทรงจำ 2


หมออนามัย    เรื่องจริง..ในความทรงจำ 2

นายอานนท์ ภาคมาลี นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการ

               เรื่องจริง..ในความทรงจำ เมื่อประมาณ วันที่ 9 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2550 ในวันนั้นมีอากาศท้องฟ้ามืดครึ้มตั้งแต่เช้าและมีฝนตกและหยุดเป็นพักๆและประมาณเวลา 10.00น.มีท้องฟ้ามืดมีเมฆก้อนใหญ่คล้ายฝนจะตกอีก ข้าพเจ้านายอานนท์ ภาคมาลีนั่งอยู่ใต้ถุนสถานีอนามัยโป่งก้อนเส้า(ปัจจุบันโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านโป่งก้อนเส้า) ตำบลท่ามะปราง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ตำบลนี้มีสถานีอนามัย 2 แห่งคุยกับหมอเป๋ง (นายฉัตรชัย ขันธวุธ) เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ว่าวันนี้อากาศมืดครึ้มทำไมมีเครื่องบินขนาดเล็กจำนวน 4 ลำบินอยู่ ผมบอกหมอเป๋งว่าเดี๋ยวเครื่องบินได้ตกกันบ้าง ผมเห็นลำที่ 4 บินเข้าไปในก้อนเมฆที่มืด ไม่กี่วินาทีมีเสียงระเบิดตูมพร้อมกับฝนตกมากจนมองไม่เห็นอะไรเลยประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ฝนจึงหยุด และประมาณเวลาประมาณ16.00น.ผมเห็นมีรถปิดอัพต่างๆขึ้นมามากจนผิดปกติ ผมจึงทราบว่ากำลังมาค้นหาเครื่องบินตก โดยเป็นเครื่องบิน 2 ที่นั่ง บินมาด้วยกัน 4 ลำจากจังหวัดนครราชสีมา ปลายทางที่กรุงเทพ สนามบินดอนเมือง สัญญาณจากจอเรย์ด้าที่สนามสุวรรณภูมิขาดหายไปที่บริเวณนี้ที่บ้านโป่งก้อนเส้า ตำบลท่ามะปราง หรือรอบๆใกล้เคียง จากข้อมูลเบื้องต้นบอกว่ามีเครื่องบินมาจำนวน 4 ลำๆละ2คน มีชั่วโมงบินเกินร้อยชั่วโมง อยู่ๆหายไป คืนนั้นทั้งคืน มีคนมาจำนวนมากมาตั้งกองอำนวยการที่สถานที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ และท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า เพื่อวางแผนออกค้นหา เช่นผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายธวัชชัย เทิดเผ่าไทยนายกอุทิศ (แก้ว) แก้วประดับนายก อบต.ท่ามะปราง นายอำเภอแก่งคอย ป้องกันจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแก่งคอย นายประสิทธิ์ชัย มั่งจิตรผู้บัญชาศูนย์การทหารม้า และชาวบ้านที่เป็นพรานป่าถูกตามตัวอย่างเร่งด่วน รวมทั้งข้าพเจ้าด้วย รวมทั้งแม่ครัวเรียกมาเตรียมอาหารและเตรียมเสบียงอาหารต่างๆ ข้าวสารอาหารกระป๋องหรือของแห้งๆ น้ำพริก และน้ำดื่ม เพื่อยังชีพในป่า ประมาณ 2 - 3 คืน เป้สัมภาระ เปลนอน หม้อหุงข้าวสนาม ออกเดินทางในเช้ามืดวันที่ 23 สิงหาคม ให้ออกไปค้นหาทุกจุดตามพิกัดของฝ่ายการบินที่คาดการณ์ว่าเครื่องบินตก และใช้วิทยุ โต้ตอบกัน โดยไปค้นหา ที่ตำบลมวกเหล็กใน ถ้ำโพธิสัตว์ ทางบึงทองหลางตำบลชะอม ทางเขาใหญ่ และอีกหลายจุดๆ พอสายๆในวันเดียวกันได้รับการสนับสนุนเครื่องบินจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 1 ลำ เนื่องจากเป็นฤดูฝนการเดินทางๆเท้า ค่อนข้างลำบากทั้งลื่น และหกล้ม ทั้งยุงกัด และตัวลิ้นที่อยู่ในป่า และต้องระวังสัตว์ร้ายต่างๆเช่น งูเห่า งูจงอาง เสือ ช้างและหมี เวลายิ่งผ่านไปจากเช้า- ยันค่ำไม่มีพบวี่แววเลย และประกอบกับข่าวแพร่สะพัดออกไปทั้งทางโทรทัศน์และเสียงว.เสียงขานต่างๆ จากรถร่วมฯและหน่วยกู้ภัยฯคนขึ้นมาดูจำนวนเป็นพันๆคน และได้รับการสนับเครื่องบินจากศูนย์การทหารม้าค่ายอดิศรอีก ช่วยบินวนเวียนค้นหา จาก 1 วัน เป็น 2 วัน และ 3-10 วัน

     พ่อแม่ของนักบินทั้งสองทำงานอยู่การบินไทย บอกให้ช่วยค้นหาและออกค่าใช้จ่ายต่างๆในการค้นหาลูก ทั้งไปบนบาน และดูหมอดูต่างๆ สอบถามชาวบ้านต่างๆในพื้นที่ ลักษณะพื้นที่สูงชันเป็นหน้าผามีแสงสว่างน้อยมืดมากมองเห็นในระยะประมาณไม่เกิน10 เมตรจำนวนวันมากขึ้นจำนวนคนที่ค้นหาก็ลดน้อยลงทุกๆวัน จากเป็นร้อยๆคนเหลือจำนวนน้อยลงทุกวัน และทางราชการประกาศเลิกค้นหา คงเหลือข้าพเจ้าและหัวหน้าดุ่ย หัวหน้าสมบัติ ป่าไม้ และพรานต่างๆ เช่นพรานแหลม พรานทวี พรานป้อม พรานแอ๊ดและน้าๆอีกหลายคน และน้องๆเอี้ยง น้องจ๊อด และแม่ครัวในการจัดทำอาหาร ในการออกเดินป่าทุกครั้ง ในโอกาสนี้ผมต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนักบินทั้งสองที่หายสาปสูญไปยังหาไม่พบจนทุกวันนี้

หมายเลขบันทึก: 489124เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2012 17:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2012 16:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท