ไปร่วมประชุม คปก. ที่โรงแรมจอมเทียน ปาล์มบีช รีสอร์ท ทีไร ผมก็ได้วิ่งออกกำลังที่ชายหาดทุกที เรียกว่าวิ่งที่ชายหาดแต่จริงๆ แล้วไม่ได้วิ่งบนหาดทราย เพราะไม่สะดวก มีร้านให้บริการเก้าอี้ผ้าใบ และอาหารเครื่องดื่มขวางอยู่ จึงวิ่งบนทางเดินระหว่างร้านเหล่านี้กับทางเท้าริมถนน
คุณค่าของการวิ่งที่นี่ ไม่ใช่ความงามของธรรมชาติ แต่เป็นการได้เฝ้าสังเกตวิถีชีวิตของผู้คน ดังเคยบันทึกไว้ที่ ๑, ๒ การวิ่งเช้าวันที่ ๗ เม.ย. ๕๕ ก็ไม่ต่างกันมากจากเมื่อปีที่แล้ว ผมได้ห็นการทำมาหากินของ ผู้คนที่ชายหาด จากการท่องเที่ยวพักผ่อน ทั้งการให้เช่าเก้าอี้ผ้าใบและร่มปักกันแดด เครื่องดื่มและอาหารว่าง ให้เช่าห่วงยางเล่นน้ำ และให้เช่า สกู้ตเตอร์น้ำ
คนที่มาเดินหรือวิ่งยามเช้า เป็นฝรั่งมากกว่าคนไทย และฝรั่งเกือบทั้งหมดเป็นคนสูงอายุ และเป็นผู้ชาย
เช้าวันที่ ๘ ผมออกไปวิ่งบนหาดทราย ใต้แสงไฟส่องสว่างชายหาดที่เทศบาลติดตั้งเป็นแนวโดยตลอด อ่าวจอมเทียน ตั้งแต่เวลา ๕.๓๐ น. ได้เห็นชีวิตคนอีกแบบหนึ่ง คือคนที่มาตากอากาศและเล่นน้ำ ตอนกลางคืน ที่เย็นสบาย ไม่มีแดดจ้า ที่ผมเห็น มากันเป็นครอบครัว มีเด็กอยู่ด้วย และมีคนปูเสื่อนอน บนพื้นทรายที่ชายหาดนั่นเอง
เป็นความสุขจากการได้เปลี่ยนบรรยากาศ พักผ่อนหย่อนใจราคาถูก
ผมนึกชมเทศบาล ที่เขาติดตั้งไฟส่องสว่าง และจัดระเบียบการใช้ชายหาดที่เป็นระเบียบเรียบร้อย และน่าจะปลอดภัยพอสมควร เป็นการให้บริการนักท่องเที่ยวที่เบี้ยน้อยหอยน้อย
ชายหาดจอมเทียนไม่เหมาะที่จะวิ่งบนหาดทราย เพราะหาดถูกร้านบริการเก้าอี้ผ้าใบยึดครองไป จนเกือบจดชายน้ำ และทรายไม่เรียบ วิ่งยาก ผมวิ่งไประยะหนึ่งพอได้บรรยากาศ ก็ขึ้นไปวิ่งริมถนน ทำให้โชคดี ไปได้รูปรถปิ๊กอัพเร่ขายเครื่องดื่มและอาหารว่าง ภาพถ่ายบอกวิถีชีวิตผู้คนที่นี่ได้ดีทีเดียว
วิจารณ์ พานิช
๘ เม.ย.๕๕
ปาล์มบีช
ศิลปะชายหาด เก้าอี้ผ้าใบและร่มปักกันแดด ยามแดดเช้า
ชีวิตประจำวัน คราดทรายและปักร่มกันแดด
ชีวิตชายหาด เพื่อน
ชีวิตชายหาด นอน
ชีวิตชายหาด ออกกำลังกาย
พักผ่อนหย่อนใจใต้แสงไฟยามเช้าตรู่
ทำมาหากิน
สวัสดีค่ะ โชคดีนะคะ ได้มีโอกาสวิ่งในบรรยากาศดีๆ อากาศดีๆ ค่ะ ใจและกายแข็๋งแรงค่ะ ดิฉันอยู่ใกล้ทะเล มีโอกาสขับรถผ่านทะเลวันละหลายๆ รอบ หลายๆ หาด ได้แต่มอง หรือบางครั้งก็ไม่ได้มองชายหาดเลย สาละวน กับธุรกิจงาน คิดได้ค่ะว่า เสียดาย...น่าจะไปเดินนวดฝ่่าเท้าด้วยทรายอุ่นๆ บ้างก็ดีค่ะ
ขอบคุณบันทึกดีๆ สะท้อนภาพชีวิตและเกร็ดชีวิตในหลายๆ มุมค่ะ
อาจารย์เก็บภาพได้ดีครับ โดยเฉพาะภาพสุดท้าย นส.ไทยตัวจริง ชีวิตจริง ที่เวทีประกวดไม่เคยมองเห็น ๕๕๕...น่าทำวิจัยนะครับ ว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไรบนแผ่นดินไทยของเรา
งานคปก. ผมใคร่เสนอว่า แต่ละปีสัญจร ไปตามม. ต่างๆ ในภูิมิภาค แทนที่จะจัดที่จอมเทียนทุกปี
การจรไปแบบนี้จะทำให้เราได้เีรียนรู้ประเทศไทยเราว่ามันมีมากกว่าคลื่น ลม โรแมนติก ....ถ้าเป็นผมจัด ผมจะเอาไปปักเต้นท์นอนฟังเสียงจิ้งหรีด ที่ทุ่งกุลาร้องให้ ที่แก่งเสือเต้น ที่โพนพิสัย (ไปวิจัยกันทีว่าบั้งไฟพญานาคมาได้อย่างไร)
อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ...ผมเคยปะหน้าอาจารย์ที่ เมลเบอร์น ยู ในออสฯ เมื่อสัก 10 ปีมาแล้ว อาจารย์คงจำผมไม่ได้หรอกครับ
ดีจังครับ ได้ออกกำลังกายตามแนวชายหาด