ความทรงจำสีชมพู


20 ปีผ่านไปวันนี้ชีวิตของฉันยังวุ่นวายเช่นเดิม ในแต่ละวันของฉันอยู่กับความเร่งรีบ รีบตื่น รีบกินข้าว รีบไปทำงาน รีบทำงาน แล้วก็รีบกลับบ้าน(เฮ้อออ) เหนื่อยจังนะ ตัวฉันชื่อปองขวัญ อายุ 37 ปี สถานะภาพหม้าย มีลูกสาวสองคน คนโตชื่อแก้วตาอายุ 7 ขวบ คนเล็กชื่อ กิ่งไผ่ อายุ 3 ขวบ

วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันพยายามไปทำงานแต่เช้า แต่ฉันต้องปวดหัวไมเกรนขึ้นอีกครั้งเมื่อยังเห็นน้องแก้วเชื่องช้าที่จะไปอาบน้ำ

"เร็วๆๆ หน่อยได้ไหม แม่เหนื่อยนะที่จะต้องคอยบอกหนูทำอะไรให้เร็วๆ นะคะ"ฉันตะเบ็งเสียงเครียดๆใส่น้องแก้ว

ช่วงนี้ตัวฉันรู้สึกเหนื่อยหน่ายมากทั้งเรื่องส่วนตัว ครอบครัวและที่ทำงานมันมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกขาดพลัง และในเช้าวันนี้ฉันมีความตั้งใจอย่างมากที่จะอารมณ์ดีเมื่ออยู่กับลูกๆ

"ค่าแม่ หนูจะทำเดี๋ยวนี้ละคะ" หนูแก้วเด็กสาวน่ารักทำหน้าเซ็งๆ ลากเสียงยาว คงเบื่อหน่ายไม่แพ้กับคุณแม่

"หนูแก้ว มานี่มาอาบน้ำแต่งตัว มันจะไม่ทันโรงเรียนแล้ว"ว่าแล้วฉันก็ลากแขนน้องแก้วไปอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว

"จ้าแม่จ๋า โอ้ยแม่ทำหนูเบาๆๆ หน่อยแม่หนูเจ็บนะ...ฮือออออ"

"ทำหน้าให้มันดีๆ กว่านี้ได้ไหม อาบน้ำแค่นี้มันไม่ตายหรอก อยู่นิ่งๆซิ เดี๋ยวแปรงก็แทงปากหรอก เดี๋ยวน้องก็ตื่นมันจะยุ่ง" การอาบน้ำเสร็จลงอย่างรวดเร็วแล้วฉันก็ปล่อยให้น้องแก้วแต่งชุดนักเรียนเอง เพื่อที่ฉันจะได้รีบทำอาหารเช้าให้เด็กๆ

"เอ้านี้ชุดนักเรียนของหนู จัดการให้เรียบร้อยนะ เร็วๆด้วย"

"แม่จ๋า มาอุ้มหนูหน่อย" เสียงน้องกิ่งร้องเรียกหาแม่

โอ...เจ้าหนูกิ่งตื่นแล้ว อะไรกันนักหนานะทำไมน้องกิ่งตื่นแต่เช้าจัง ทำไมเค้าไม่ตื่นตอนเจ้าแก้วเรียบร้อยนะ กับข้าวก็ยังทำไม่เสร็จ แก้วก็ยังชักช้าในการแต่งตัว ตัวฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลย ฮือๆๆๆ... จะบ้าตาย.... ปองขวัญเอ้ย ปองขวัญทำไมชีวิตเธอถึงยุ่งยากนักนะ แล้วฉันก็แอบนั่งหลบร้องไห้ที่มุมตู้เสื้อผ้า ด้วยความคับแค้นใจ น้ำตามันไหลท้นออกมาจนแน่นอก น้ำตาอุ่นๆ ไหลอาบแก้มด้วยความเหนื่อยล้าและท้อใจ ฉันหลับตาลงพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นถูกกลืนลงในลำคอเล็กๆของฉัน ฉันแอบร้องไห้อย่างนี้บ่อยๆ เด็กๆไม่เคยเห็นฉันร้องไห้เลย อันที่จริงแล้วชีวิตของฉันน่าจะมีความสุขมากกว่านี้แต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมาฉันต้องสูญเสียสามีอันเป็นที่รักยิ่งไป ใช่วันนั้นเขายังบอกรักฉัเหมือนอย่างเช่นทุกวัน ก่อนออกไปทำงานที่โรงเรียน ขจรจะตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยฉันดูแลลูกๆ และก็ออกไปทำงานพร้อมกัน ขจรขับรถไปส่งฉันทำงานที่อนามัย แล้วก็ไปส่งลูกที่โรงเรียนอนุบาลก่อน มันเป็นอย่างนี้ทุกวันด้วยความสุข แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถยนต์ของขจรได้เสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง หลังจากได้ส่งฉันกับลูกๆเสร็จ แล้วร่างที่อ่อนแรงของขจรถูกส่งเข้าโรงพยาบาลใหญ่ด้วยความเร่งด่วน ฉันพยายามใช้มือเล็กๆของฉันกุมมือของขจรไว้อยู่ไม่ห่าง ระหว่างที่รถฉุกเฉินกำลังตะบึงห้ออย่างรวดเร็ว ฉันพยายามคอยพร่ำบอกให้เขายิ้มไว้และอดทน น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าถูกเช็ดออกไปราวกับว่ามันจะไม่มีวันหมด ฉันพยายามฝืนยิ้มเพื่อให้กำลังใจขจรตลอดเวลา ฉันคอยเอามือพยุงใบหน้าของเขาไว้โอบแก้มของเขาไว้ราวกับว่าใบหน้านั้นจะหายไป "ปองผมรักคุณนะ สุดที่รักของผม ผมฝากลูกด้วยนะ ดูแลเค้าดีๆนะผม...ผมคิดถึงเค้าจังเลย" เสียงที่ละล่ำละลักแผ่วเบาลงอย่างช้าๆ พร้อมกับคำว่าผมรักคุณ เสียงนั้นยังก้องอยู่ในลมหายใจของฉันตลอดเวลาแม้เวลานี้มันจะผ่านมาเป็นปีแล้วก็ตาม

"แม่จ๋า มาอุ้มกิ่งหน่อย" เสียงเล็กๆปลุกฉันให้ตื่นจากพะวังและลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วฉันก็เดินไปอุ้มน้องกิ่งลงมาจากห้องและพากันไปทำอาหารต่อให้เสร็จ

"แก้ว หนูแต่งตัวเสร็จหรือยัง รีบๆทำแล้วมากินข้าวซะ" ฉันพยายามเร่งน้องแก้วอีกครั้ง หลังจากนั้นฉันก็รีบอาบน้ำจัดการตัวเองและน้องกิ่ง ในขณะที่ฉันกำลังเดินลงจากบันไดก็เริ่มรู้สึกโมโหขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นน้องแก้วยังไม่กินอาหารที่เตรียมไว้

"แก้วว ทำไมหนูยังไม่กินข้าวอีก หึอ" ฉันใช้น้ำเสียงเข้มๆ ทำให้แก้วสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเสียวสันหลังว่าแม่จะลงไม้ที่ขาของตัวเอง

อารมณ์โมโหเริ่มอีกแล้ว ฉันจึงพยายามข่มอารมณ์ตัวเองอีก โดยการวางน้องกิ่งลงที่พื้นแล้วก็เดินขึ้นห้องนอนไปเพื่อสงบสติอารมณ์ เวลาผ่านไปสัก 3 นาทีก็ข่มใจได้ แล้วพยายามฉีกยิ้มลงมาหาลูกๆ ในขณะที่เดินลงมาอย่างช้าๆ ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำไให้ฉันละสายตาไม่ได้แล้วก็จ้องมองด้วยความสุข ฉันหยุดนั่งลงที่หัวกระไดเพื่อจ้องมองดู แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาตกต้องลงบนตัวของเด็กน้อย 2คน

"มาพี่จะป้อนข้าว ... เก่งมากคนดีของพี่" เสียงหัวร่อต่อกระซิกระหว่างพี่กับน้อง

แสงแดดอุ่นสีนวลทำให้ภาพนั้นชวนหลงไหลและจับใจยิ่งนัก โอ...แม่เทพธิดาน้อยของแม่ แม่ทำอะไรลงไปนี่แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ ฉันย้ำคำนี้ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำตาอุ่นๆไหลลงอาบแก้ม อาบหัวใจของเธอด้วยความรัก เธอนั่งมองภาพนั้นเนิ่นนานด้วยเวลาที่อยากให้ช้าลง..

คำสำคัญ (Tags): #diary pizza
หมายเลขบันทึก: 487639เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2012 17:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม 2015 14:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ผมอ่านเรื่องคุณแล้วทั้งซึ่งทั้งศัทธาในการต่อสู้ครับ   ขอให้อดทนและสู้ต่อไปครับ..

ขอบคุณมากๆ นะคะ แต่ขออนุญาตขำแบบน่ารักสักนิดนะคะ The Diary เล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ รสหัดเขียนคะ อย่าซีเรียสเลยนะคะ แต่รสขอบพระคุณมากคะสำหรับกำลังใจ ถือว่ารสทำได้ดีใช่ไหมคะ ขอบพระคุณคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท