Wrath of the Titans : สงครามมหาเทพพิโรธ

Wrath of the Titans : สงครามมหาเทพพิโรธ

ประเภท :  Action, Adventure, Fantasy

ผู้กำกับ : โจนาธาน ลีเบสแมน

 

http://www.nangdee.com/title/mt_poster.php?movie_id=2979

 

เพอร์ซีอุส ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขโดยการเป็นชาวประมงในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง เป็นบิดาเลี้ยงดู เฮลีอุส ลูกชายวัย 10 ปีของเขา แต่แล้วเขาก็ได้รับการติดต่อจากบิดาคือ เทพซุส ให้ช่วยเหลือ เทพกำลังอ่อนแอเนื่องจากมนุษย์ไม่ศรัทธาไม่สวดอ้วนวอนทวยเทพอีกต่อไป ความอ่อนแอของทวยเทพทำให้อำนาจของเทพค่อย ๆ เสื่อมลงเป็นผลให้บรรดาเทพเสียการควบคุมมหาเทพที่ถูกจองจำและผู้นำที่โหดร้ายของพวกเขาอย่าง อันโหดร้ายที่เป็นบิดาของมหาเทพทั้งสามองค์คือ ซุส เฮเดส และ โพไซดอน  เมื่อ เพอร์ซีอุส ปฏิเสธให้ความช่วยเหลือบิดา มหาเทพทั้งสามและ เอเรส เทพเจ้าแห่งสงคราม บุตรแห่งซุส จึงต้องจัดการกับสถานที่คุมขัง โครนอส กันเอง แต่แล้ว เอเรส บุตรแห่งซุสที่เคียดแค้นเพอร์ซีอุสพี่ชายของตน กลับทรยศบิดาตนเองร่วมมือกับ เฮเดส จับ ซุสคุม ขังแล้วดึงอำนาจจากซุสให้กับ โครนอส และแล้วสัตว์ชั่วร้ายจึงค่อย ๆ ถูกปลดปล่อยขึ้นมาบนโลก หนึ่งในนั้นขึ้นมาทำลายหมู่บ้านชายประมงของเพอร์ซีอุส เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เพอร์ซีอุสจึงตกลงเข้าช่วยเหลือบิดาของตน มีการผจญในที่ต่าง ๆ มีการต่อสู้กับยักษ์ตาเดียว ผจญภัยในเขาวงกต ค่อสู้กับจิตใจของตนเอง และที่สุดต่อคู้กับโครนอส

 

หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นอำนาจของความรักของครอบครัว การให้อภัย และการกลับตัวเมื่อรู้ว่าตนทำผิด นี่อาจจะเป็นหัวใจที่สำคัญที่สุดของหนังเรื่องนี้ ซึ่งผู้ชมควรทำความเข้าใจและเก็บสิ่งนี้ออกมาจากโรงภาพยนตร์นอกเหนือจากได้รับความสนุกจากหนังด้วย

 

เนื่องจากผมดูโรงแบบธรรมดาจึงไม่สามรถอธิบายกับความเป็นสามมิติได้ แต่จากคำพูดของผู้ที่ดูแบบสามมิติต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดีมาก ความเป็นสามมิติไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ออกมาแบบพอดีถูกจังหวะจะโคน ซึ่งก็น่าเสียดายมากครับ  แต่หากจะพูดถึงฉากต่อสู้ หรือฉากตื่นเต้นทั้งหมดแล้ว ผมถือว่ายอดเยี่ยมมาก ตลอดสองชั่วโมงแทบไม่น่าเบื่อเลย

 

เป็นที่น่าสังเกตว่า หนังเกี่ยวกับปกรณัมกรีกนั้นจะเน้นความสำคัญของการเป็นมนุษย์มากเป็นพิเศษ หลายเรื่องมักอธิบายว่า มนุษย์ มนุษย์กึ่งเทพแข็งแรงกว่าเทพเสียอีกเช่น IMMORTALS : เทพเจ้าธนูอมตะ, Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief  : เพอร์ซีย์ แจ็คสันกับสายฟ้าที่หายไป, Thor : เทพเจ้าสายฟ้า, Odyssey เป็นต้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะ

 

ในปรัชญากรีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่ทำให้กรีกมีอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ ศิลปกรรมอันยิ่งใหญ่ ที่ตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้คือ ปรัชญาที่ว่า มนุษยนิยม (Humanism) ที่เน้นความสำคัญของความสามารถของมนุษย์ ความสามารถในการกำหนดและตัดสินได้ด้วยตนเอง นักปรัชญากรีก นักการเมือง นักเขียนคนสำคัญ ๆ ในสมัยนั้น ให้ความสำคัญกับแนวความคิดนี้มาก ดังนั้นทวยเทพของกรีกจึงมีรูปร่าง ความต้องการ โลภ โกรธ หลง เหมือนกับมนุษย์ทุกประการ  แต่ในขณะเดียวกัน มนุษย์ยังมีความอ่อนแออยู่ในตัว เช่นความไม่รู้ในธรรมชาติ มนุษย์จึงสร้างเทพเจ้าขึ้นมาเพื่อตอบคำถามเหล่านี้ และในหนังที่ทำให้มนุษย์ต้องรวมมือกับเทพเสมอเพราะต้องการให้รู้ว่า แม้จะมีความเชื่อมั่นในความเป็นมนุษย์มากแค่ไหน มนุษย์ก็ยังจะคงมีที่พึ่งทางใจเสมอ ในที่นี้คือเทพ

 

ความคิดเรื่อง มนุษยนิยม ส่งผลอย่างมามานับตั้งยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ ราว คริสต์ศตวรรษที่ ๑๖ เป็นต้นมา และมีความเข้มข้นเป็นอย่างมากในช่วง คริสต์ศตรรษที่ ๑๘ ทำให้เกิดนักเขียนมากมาย และทำให้เกิดแนวความคิดเรื่องการเมืองมากมาย และท้ายที่สุด การปฏิวัติทางการเมือง วิทยาศาสตร์ ลัทธิทางศาสนา มากมาย

 

ในเรื่องปกรณัมกรีกผมแทบไม่มีความรู้เลย ดังนั้นในบทความนี้จึงอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ได้เพียงเท่านี้ หวังว่าเพื่อน ๆ ทั้งหลายคงให้คำอธิบายเกี่ยวกับหนังและเรื่องเทพเจ้ากรีกเพิ่มเติมครับ

 

วาทิน ศานต์ สันติ

บัตรราคา ๘๐ บาท เดอะมอล์ล บางกะปิ

ดูเมื่อ ๔ เมษายน ๒๕๕๕