อ่านข่าวจากไทยรัฐออนไลน์ วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๕ บอกว่า "อภิสิทธิ์ เห็นด้วยมีคนได้ประโยชน์จากปมความขัดแย้ง"
"ใช่สิ" มีคนได้ประโยชน์จากปมความขัดแย้งจริงๆ และก้อคงไม่ต้องเดาและไม่ต้องไปแขวะใครว่าได้ประโยชน์จากความขัดแย้งทางการเมือง เราเห็นกันได้ชัดเจนอยู่แล้ว และที่สำคัญก็เห็นกันชัดเจนแล้วว่าทุกวันนี้สังคมเพรียกหาความสุข ความปรองดอง ความสามัคคีของคนในชาติแค่ใหน ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับแนวคิดการนิรโทษกรรมและแนวคิดการปรองดองไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบใดก็ตาม แน่นอนที่สุดว่า ประชาชนไม่สนใจหรอกว่าใครจะได้หรือจะเสีย หรือใครจะแพ้หรือชนะ แต่สำคัญที่สุดคือ ประเทศไทยประชาชนไทยต่างหากที่ชนะและมีความสุข กว่า ๖ ปีที่สังคมไทยเต็มไปด้วยความขัดแย้ง เต็มไปด้วยความมืดมนของอำนาจนานาชนิด
ในขณะที่หลายฝ่ายไม่ว่าประชาชนคนไทย(ส่วนใหญ่)กรรมมาธิการปรองดองฯ พรรคการเมือง(หลายพรรค) หน่วยงาน (หลายหน่วยงาน) ช่วยกันพยายามช่วยกันผลักช่วยกันดันประเทศให้กลับเข้าโหมดของความสุขสมานฉันท์กัน แต่ก็ยังมีกลุ่ม(พรรคการเมือง" ดื้อแพ่งแย่งเอาประโยชน์จากความขัดแย้งนี้ ดังนั้น หัวข้อของการเขียนวันนี้ของผมจึงใช้ว่า "นิรโทษกรรม ใครเสียประโยชน์" คำตอบชัดเจนที่สุด คือ คน (กลุ่มคน พรรคการเมือง) ที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความขัดแย้งดำรงอยู่ต่อไป นั่นแหละ คือ กลุ่มทีเสียประโยชน์
ไม่อยากคิดและไม่อยากเขียนต่อ...เหนื่อยใจกับกลุ่มการเมือง..ที่ไม่เคยคิดและคำนึงถึงประเทศชาติ..
แม่มีนักการเมืองใหญ่คนนึงจากพรรคการเมืองที่เสียประโยชน์จากนิรโทษกรรม พูดว่า "ใหนๆประเทศมันก็จะล่มจม" ดุสิก็ยังอุสส่าที่จะซ่ำเติมประเทศชาติอีก....
ลืมเถอะ..ทักษิณ..เรามาคิดถึงประชาชน คิดถึงประเทศชาติกันดีกว่าไหมครับ ท่านผู้แทนประชาชน!!!
ไม่มีความเห็น