ยิ้มหวังผล


   คนไทย...มีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือรอยยิ้มที่เกิดจากไมตรี เราเรียกบุคคลที่มีลักษณะอย่างนี้ว่า อัธยาศัยดี 

   อันว่า อัธยาศัยดี ที่แสดงออกมาจากไมตรีในส่วนลึก ไมตรีในส่วนลึกเป็นไมตรีที่ไร้ความรู้สึกขัดแย้ง เบาบาง และปลอดภัย ดังนั้น รอยยิ้มที่แสดงออกจึงเป็นรอยยิ้มที่เราพบแล้วรู้สึกดีไปด้วย ยิ่งผู้พบรอยยิ้มเป็นผู้มีไมตรีในส่วนลึกแบบเดียวกัน ยิ่งไปได้สวย อาจเทียบกับคำว่า น้ำสะอาดพบน้ำสะอาดคือน้ำสะอ้าดสะอาด

   ปัจจุบัน รอยยิ้มของคนไทยจางลง รอยยิ้มจำนวนมากกลายเป็น "รอยยิ้มหวังผล" และเข้าใจว่า นี้คืออัธยาศัยดี มีไมตรีสมบูรณ์

   ผมเข้าใจว่า รอยยิ้มแบบนี้แตกต่างจากรอยยิ้มข้างต้น โดยรอยยิ้มแบบหลังหวังผลบางประการ ยกตัวอย่าง แม่ค้าคนหนึ่งปั่นจักรยานป่าวประกาศเพื่อขายของที่ตนซื้อมาจากตลาด โดยขอกำไรนิดหน่อยจากความเหนื่อยยากนั้น ในกรณีนี้ไม่ได้ผิดอะไร เรารู้สึกได้ว่า แม่ค้าอัธยาศัยดี เพราะยิ้มให้กับเราซึ่งไม่เคยรู้จักหน้าค่าตากันมาก่อน อย่างไรก็ตาม การยิ้มของแม่ค้าดีกว่าไม่ยิ้ม เพราะรอยยิ้มเป็นสิ่งแสดงให้เห็นไมตรี อย่างน้อยทำให้คนที่พบรอยยิ้มอยากเข้าไปซื้อของที่ตนต้องการ ปัญหาคือ ถ้าแม่ค้าไม่ขายของ แม่ค้าจะยิ้มให้กับเราซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนหรือไม่ หากคำตอบคือไม่ แสดงว่า แม่ค้าขายของยิ้มหวังผล อย่างนี้เป็นต้น

   อย่างไรก็ตาม การยิ้มดีกว่าการไม่ยิ้ม แต่ถ้าใบไม้ร่วงก็ยิ้ม เครื่องบินผ่านไปก็ยิ้ม คนเดินผ่านก็ยิ้ม เห็นมดเดินตามกันเป็นแถวก็ยิ้ม อันนี้น่าคิดทีเดียว สิ่งหนึ่งที่น่าพิจารณาเพิ่มเติมคือ ผมไม่เชื่อว่าคนที่ไม่ยิ้มคือคนที่ไม่มีไมตรี

หมายเลขบันทึก: 484568เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2012 07:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ยิ้มสยาม.. ก็หวังผลค่ะ

ไมตรีจิตที่ดีต่อกัน

 

  • ผลที่ว่านี้คือผลแบบไหนไม่ทราบนะครับ
  • แต่ถ้าเป็นผลโดยไม่ต้องการผลจะดีมากทีเดียว (คงหิวน่าดู เพราะไม่มีผลให้กินครับ :-))
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท