.....มีพ่อจน … น่าอายมากหรือ.!!?..............


.....มีพ่อจน … น่าอายมากหรือ.!!?..............

 

............มีพ่อจน … น่าอายมากหรือ.!!?..............

ถ้าใครไม่เคยอ่านเรื่องนี้ ขอให้อ่าน แล้วนำไปเป็นข้อคิด ว่า….ในเวลานี้ คุณใส่ใจ บุคคลสำคัญในชีวิตคุณแล้วหรือยัง…..เรื่องราวนี้ เป็นเรื่องที่ถูกเล่าผ่าน Facebook ของคุณ Airiiz Toney เป็นยังไงลองอ่านดูค่ะ

วันนี้เลิกงานเร็วเลยพาเจ้านุ่มไปซื้อของใช้ที่ห้างแห่งหนึ่ง รอต่อแถวจ่ายตังค์นานเลย เจ้านุ่มก็เริ่ม งอแงๆ ง่วงนอน สังเกตว่าคิวด้านหน้าเรา เค้ามากันเป็นครอบครัว มีพ่อแม่ลูกสาววัยประมาณ
เจ้านุ่ม แล้วก็ผู้ชายสูงอายุคนหนึ่ง ที่หนูน้อยเรียกว่า "ปู่" คุยกันยิ้มแย้มแจ่มใสดี ซื้อของใช้ล้นตระกร้าเชียวค่ะ

พอแคชเชียร์คิดเงินของครอบครัวนี้จนเสร็จได้ยินคร่าวๆว่า "ทั้งหมดพัน(กว่าๆ)บาทค่ะ…." ผู้เป็นปู่เป็นคนเปิดกระเป๋าสตางค์ใบเก่าๆ จะจ่ายเงิน พร้อมทำท่าอ้ำอึ้ง มีลูกชายลูกสะใภ้จ้อง ตาเขม็ง หุบยิ้มทันที

" ว่าไงพ่อ จ่ายเค้าไปสิ " ลูกชายบอก คุณปู่ยังทำท่าอ้ำอึ้ง
" ไหนดูหน่อยมีตังค์เท่าไหร่.!!? " คุณปู่ยื่นกระเป๋าตังค์ให้ดูข้างใน

" อ้าว ไหนว่ามีตังค์เยอะไง แล้วแบบนี้จะชวนมาซื้อของทำไม ไม่มีตังค์จ่ายก็ไม่บอก อายเค้าจริงๆ "

ลูกชายลูกสะใภ้พากันมองคุณปู่ด้วยสายตาที่เหมือนดูถูก…รำคาญ

ในที่สุดเค้าก็พากันทำสิ่งที่เราไม่อยากจะเชื่อสายตา คืออุ้มลูกเดินหนีไปเลย พร้อมกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ไม่สนใจลูกสาวที่ร้องว่า " ปู่ๆๆๆ ปู่มาด้วย "

คุณปู่ยืนคอตก หน้าเศร้าอยู่หน้าแคชเชียร์ พอเด็กถามว่าจะเอายังไง คุณปู่เปิดกระเป๋าตังค์ให้เด็กดู แล้วบอกว่าให้คิดเงินตามนี้ ได้ของเท่าไหร่เท่านั้น (เด็กนับแล้วมีแปดร้อยบาทค่ะ)

ระหว่างรอแคชเชียร์คิดเงินใหม่ ได้ยินคุณปู่เล่าว่า แกบ้านอยู่ต่างอำเภอห่างไปเป็นร้อยกิโล ลูกหลาน ไม่ไปหานานแล้ว แกจึงตัดสินใจรวบรวมเงินทั้งหมดที่มีนั่งรถเข้ามาเยี่ยมลูกหลานในเมือง แล้วชวน ออกมาซื้อของ ลูกแกก็ไม่ถามสักคำว่าเงินมีเท่าไหร่ หยิบของเอาๆ แกก็ไม่เคยรู้ราคาของ เพราะอยู่ บ้านนอกก็ซื้อร้านของชำทีห้าบาทสิบบาท ใครจะจะรู้ว่าของในห้างใหญ่เค้าซื้อกันทีละเป็นพัน

เราจ่ายเสร็จเห็นคุณปู่ยังเดินเคว้งอยู่แถวๆนั้น ก็เลยถามแกว่าจะกลับยังไง แกบอกว่าพอขึ้นรถกลับ เป็น ( อ้าว แล้วตังค์ล่ะ เมื่อกี้เห็นจ่ายไปหมดแล้วนี่นา ) แต่ก็ยังลังเลอยู่ กลัวลูกกลับมาตามหาแล้ว ไม่เจอ มือถือก็ไม่รู้เบอร์

เลยตัดสินใจพาคุณปู่ไปที่แผนกประชาสัมพันธ์ประกาศหาลูกค่ะ จากนั้นเราบอกให้รอสักพัก ถ้าลูกไม่มาจริงๆ ให้ไปขึ้นรถที่คิวรถ
( ฝากเด็กที่ปชส.ค่ะ ว่าให้ย้ำคุณปู่อีกที) พร้อมกับให้เงินแกเป็นค่ารถไว้ค่ะ

จริงๆ อยากรอดูสักพัก แต่..เจ้านุ่มไม่ไหวแล้วค่ะ งอแงเหลือเกิน

คุณปู่น้ำตาคลอบอกเราว่า " มันคงไม่ทิ้งปู่จริงๆ หรอกนะ นี่ก็ได้ของไปเยอะเหมือนกันถึงจะซื้อได้ไม่หมด ก็เถอะ นี่มันไม่เคยกลับไปหาปูเลย ก็เพราะปู่มันจน ไม่มีสมบัติอะไรให้ " เราปลอบใจแกไปบอกว่า เดี๋ยวเค้าคงกลับมาน่ะ คงเดินไปดูอย่างอื่นก่อน

เดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ หันหลังกลับไปมองเห็นคุณปู่ยังยืนคอตกที่เดิม ในใจคิดวนเวียนตลอดเวลา

…. นี่เค้าทำแบบนี้กับพ่อตัวเองได้ยังไงนะ …

… พ่อไม่มีตังค์พอเนี่ย มันผิดด้วยหรือ.!!?
เค้าไม่รู้หรือไงว่า เงินเท่านี้อาจจะเป็นเงินที่คุณปู่เก็บมาทั้งชีวิตก็ได้ (คนชนบทจะไปหาเงินจากไหนล่ะ.!!?) …

…แล้วเค้าจะสอนลูกให้กตัญญูต่อพ่อแม่ได้อย่างไร ก็ทำพฤติกรรมแบบนี้กับพ่อตัวเองให้ลูกเห็น….

จริงอยู่ พื้นฐานครอบครัวนี้อาจจะมีอะไรลึกซึ้งมากกว่านี้ แต่เป็นเรา เราคงไม่มีวันทอดทิ้งพ่อให้ได้รับ ความเจ็บปวดอับอายจากการที่ไม่มีเงินซื้อของให้ลูกหลานได้พอแบบนี้หรอก เป็นเรา เราคงบอกพ่อว่า " ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ กลับบ้านเราเถอะ "

เรื่องจาก Facebook Airiiz Toney talkystory ชมรมคนโรแมนติกช่วยกันแชร์เ

หมายเลขบันทึก: 484511เขียนเมื่อ 7 เมษายน 2012 10:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 15:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ไม่ค่อยพบลูกแบบนี้ในชนบท พ่อผมก็จน แต่เราภูมิใจในตัวพ่อมาก

สวัสดีครับ อาจารย์ขจิต ฝอยทอง

ผมภูมิใจมากที่พ่อ แม่ จบ ป.๔ แต่ลูกเรียนจนได้ปริญญาเอก

เวลาสอนหนังสือผมบอกนิสิตเสมอว่าผมลูกชาวนาที่ยากจน ดิ้นรน เรียนจนจบปรญญาเอก แม้ใครจะมองว่าจบที่อินเดียก็ตาม แต่ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน

อ่านแล้วสลดใจค่ะ ครูบนดอยก็ภูมิใจมากๆที่มีแม่ไม่ได้เรียนหนังสือ เลี้ยงลูกทั้ง 4 คนมาเพียงลำพัง ลูกๆได้ดี มีการศึกษา มีงานทำ จนถึงทุกวันนี้ จะไม่เป็นเหมือนเช่นที่เล่ามาแน่นอน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท