วิธีจัดการเวลาลูกร้องให้


ลองนำไปใช้ดูเพื่อจะเกิดผลที่ดีตามมา

 http://gotoknow.org/file/t-i-y-a-b-u-t/img_faqs.jpg          แนะนำเคล็ดลับและเรื่องน่ารู้ใกล้ตัว ที่เป็นประโยชน์เพื่อช่วยเลี้ยงดูลูกน้อยให้สบายกาย เพื่อความสบายใจของคุณแม่

        http://gotoknow.org/file/t-i-y-a-b-u-t/june1.jpg               วิธีจัดการเวลาลูกร้องไห้

         สิ่งแรกที่พ่อแม่มือใหม่จะเริ่มทำก็คือการสังเกตความแตกต่างของการร้องไห้ที่ลูกทำ เพราะการที่เด็กร้องไห้นั้นมีหลายเหตุผลด้วยกัน เด็กอาจจะร้องไห้เพราะความหิว ทำให้เด็กร้องไห้ การร้องไห้เพราะความเหนื่อยก็จะแตกต่างจากเวลาหิว พ่อแม่ที่ดูแลเด็กมาตั้งแต่แรกเกิดเริ่มต้นที่จะสังเกตถึงความแตกต่างของการร้องไห้ของลูกได้
และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการรับรู้ว่าลูกต้องการสิ่งใด

ตัวอย่างเหตุผลที่เด็กร้องไห้และวิธีการบางอย่างที่สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาได้ดังต่อไปนี้

• ตรวจดูว่าเด็กตัวแห้งและสบาย รวมทั้งควรให้เด็กสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย

• ตรวจดูว่าเด็กหิวหรือเปล่า

• ตรวจดูให้เด็กพักผ่อนอย่างเพียงพอ เด็กแรกเกิดต้องมีเวลานอน 3-4 ชั่วโมงระหว่างมื้อ
ถ้าตื่นก่อนเวลา อาหารแสดงว่าเด็กหิว หรือผ้าอ้อมเปียกหรือสกปรก

• ตรวจดูว่าเด็กไม่มีอาการป่วย เช่น ผื่นอย่างอื่นนอกจากผื่นที่เกิดจากความร้อน มีไข้ และหน้าแดง

• ตรวจดูว่าเด็กไม่เย็นหรือไม่ร้อนจนเกินไป พ่อแม่ที่กังวลมากเกินไป
อาจทำให้เด็กหลายคนได้รับความร้อนมากเกินไป

• ห่มผ้าให้เด็กด้วยผ้าห่มที่สบายๆ (อย่าห่มผ้าที่หนาเกินไป)
และควรจำไว้ว่า เด็กบางคนชอบที่จะห่มผ้าแค่เอวลงไป

• ตรวจดูว่าลูกกินนมอย่างเพียงพอและรู้สึกสบายเวลาที่ถูกกอดและโยกไปมาอย่างช้าๆ
ควรพูดคุยหรือร้องเพลงเบาๆเวลาให้นมลูก

• ตรวจดูว่าลูกไม่มีอาการเสียดท้องหรือท้องอืด และถ้าเป็นเช่นนั้น ควรนวดเบาๆ
อุ้มลูกไว้ที่ไหล่และใช้ฝ่ามือ ตบๆ หรือถ้าลูกไม่หงุดหงิดเกินไป ก็สามารถที่จะอาบน้ำให้เขาได้

• คอยกระตุ้นและเอาใจใส่ลูกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะ การพูดคุย ยิ้ม ส่งสายตา การมองโมบายแขวน
การเปิดเพลง การโยก การเต้นตามจังหวะเพลง หรือการพาลูกนั่งรถเข็นไปเดินเล่น

• ไม่ควรปล่อยให้ลูกเหงา ควรพูดคุย สัมผัสเบาๆ หรือร้องเพลงให้ลูกฟัง

• นอกจากที่กล่าวมาแล้ว บางครั้งลูกก็ต้องการเวลาส่วนตัวอยู่กับแม่ตามลำพัง

• ไม่ควรให้คนอุ้มลูกเยอะ ควรมีคนช่วยดูแลลูกเพียง 1 – 2 คนเท่านั้น

      คุณพ่อคุณแม่อาจจะนำเอาวิธีนี้ไปใช้ได้นะค่ะเผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณแม่และคุณลูกเอง

คำสำคัญ (Tags): #edu#104
หมายเลขบันทึก: 48408เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2006 14:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:32 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท