ลดภาษีนิติบุคคลไปแล้วแต่ทำไมราคาสินค้าไม่ลด


สมมติว่าปตท. กำไรปีที่แล้ว 1 แสนล้านบาท (ตัวเลขจริงๆน่าจะมากกว่านี้เล็กน้อย) ดังนั้นถ้าลดภาษีจาก 30 เหลือ 20% จะทำให้ปตท. กำไรเพิ่มขึ้น เป็น 114,285 ล้านบาท

 ผมได้เขียนบทความไปแล้วว่า รัฐบาลปูได้ทำการปล้นประเทศเงียบๆ ด้วยการลดภาษีนิติบุคคล จาก 30 เหลือ 20 % ...ที่มันเงียบเพราะสื่อมวลชนก็ชอบ (เพราะสื่อมวลชนก็เป็นนิติบุคคลที่ต้องเสียภาษี)  ส่วนฝ่ายค้านก็ไม่กล้าค้าน เพราะ “นิติบุคล” ก็ให้เงินสนับสนุนฝ่ายค้านมากปีละหลายร้อยล้าน ขืนค้านเดี๋ยวโดนตัดเงินสนับสนุนจะทำยังไง

 

นี่แหละคือการปล้นเงียบที่ง่ายดายที่สุดภายใต้บริบทเผด็จการทุนนิยมในคราบปชต. (ผทน.ปชต) และความอ่อนแอของสังคมไทย (นักวิชาการก็โหลยท่ย ไม่เห็นมีออกโรงมาค้านกันสักคน ยกเว้นผมที่เป็นวิดวะ ไม่ได้เป็นเสดสาดนะว้อย)

 

http://www.gotoknow.org/blogs/posts/479270

 

นโยบายนี้จะทำให้ประเทศชาติสูญเสียรายได้ไปปีละ 1.3 แสนล้านบาท แต่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพราะประชานิยมมากขึ้นในหลายด้าน เช่น ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เอาเงินไปแจกปรองดองฆาตกรเผาเมือง เป็นต้น   แล้วถามว่าจะไปเอาเงินมาจากไหน ...ช่วยตอบผมที

 

วันนี้ผมถามง่ายๆว่า ปตท. และบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ ได้รับอานิสงส์จากงานนี้จะส่งผลอย่างไรต่อผลกำไรของปตท.   ลองตามผมมาคำนวณดู

 

สมมติว่าปตท. กำไรปีที่แล้ว 1 แสนล้านบาท (ตัวเลขจริงๆน่าจะมากกว่านี้เล็กน้อย) ดังนั้นถ้าลดภาษีจาก 30 เหลือ 20%  จะทำให้ปตท. กำไรเพิ่มขึ้น เป็น  114,285  ล้านบาท เพิ่มตั้ง 14.3%  ซึ่งนับว่าสูงมาก บริษัทอื่นๆ เช่น บ้านจัดสรร มือถือ ธนาคาร ก็จะได้กำไรทันทีเป็นร้อยละเท่านี้แหละ

 

แต่ทำไมแทนที่ราคาสินค้าทั้งหลาย (รวมทั้งน้ำมัน ดอกเบี้ยเงินกู้) มันจะลดราคาลง มันกลับยิ่งสูงมากขึ้น จนกลายเป็น “แพงทั้งแผ่นดิน” ได้ปานนี้

 

นี่แสดงว่าการค้าพาณิชย์ในประเทศไทเรามันเป็นระบบผูกขาด ไม่มีการแข่งขันเสรี  ไอ้ที่พอจะมีการแข่งขันบ้างเช่น ธนาคาร ประกันภัย บ้านจัดสรร  มันก็มีสมาคมอาชีพมาทำการ”ฮั๊ว” ราคากันหมด เพื่อจะได้ไม่ตัดราคากันเอง ทั้งนี้โดยเจือสมกับผลประโยชน์ของนักการเมือง

 

ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ  ชาติไทยล่มแน่ ไม่เกิน ๑๘ ปีจากนี้ไป  นับถอยหลังได้เลย

 

...คนถางทาง (๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕)

 

หมายเลขบันทึก: 483767เขียนเมื่อ 30 มีนาคม 2012 21:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน 2012 17:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

I think this (crappy) government wishes to increase industry investment --> hence increase (฿300/day) slavery (errh employment). At the same time prices usually rise to absorb the increase in wages --> higher inflation (lower value of ฿300 or purchasing power) --> export rises and import dips --> many more people and the rich are richer, ...

Perhaps, owners of all food stalls, street venders and all market shops, should become partnerships or companies (and hire themselves and family at ฿300/day) to make the most of this new tax rate.

Salary workers? -- Sorry you miss out.

เหตุผลในการลดเขาอ้าง..การแข่งขันได้กับอาเซียนเพราะจะเปิดประเทศแล้ว แต่ถ้าแข่งขันได้ราคาต้องลดลงสิ จากการกระทำนี้ แต่มันไม่ลด แสดงว่าอะไรครับ นักเศรษฐช่วยตอบด้วยครับ ฮั้วแน่นอน โดยเฉพาะพวกบ้านจัดสรร (เช่นแม้แต่ที่โฟร์ซี่ซั่นยังไปประชุมฺฮั้วกันเลย)

สมาคมธุรกิจนี้ ผมเข้าใจว่าที่ usa เขาห้ามจัดตั้ง เพราะขัดกับ anti-trust law ของเขา ของเราตอนนี้ก็เห็นว่ามีกฎหมายทำนองนี้ออกมาแล้ว แต่ก็รับรองว่าเป็นเพียงเศษกระดาษเหมือนกฎหมายอื่นๆ น่ะแหละ ยิ่งรัฐบาลเป็นนักธุรกิจเสียเอง จะบังคับใช้กฎหมายที่เข้าเนื้อตัวเองได้อย่างไร

..ปีก่อนโน้นไม่ขอคืนภาษีพันกว่าบาท..ปีที่แล้วเสียภาษีเต็ม20000กว่าบาท..ปีนี้ขอผ่อนเสีย3งวด..กะว่าปีหน้าจะไม่เสียรอให้ฟ้อง..

ปีนี้เสียภาษี 5,600 และไม่บริจาคให้พรรคการเมืองใดเลย เบื่อ เมื่อไหร่บ้านเมืองจะดีขึ้นนะ

ปีที่แล้ว ผมเสียไปประมาณ สองแสนห้า (ว้าว..ครูบ้านนอกจนๆ ทำหงัยเสียมากจัง ถึงว่าเลยยังจนอยู่แบบนี้) ไม่รู้ว่าในจำนวนนี้ต้องเอาไปแบ่งให้ฆาตกรเผาบ้านเมือง คนละ เจ็ดจุดเจ็ดล้านสักเท่าไหร่

(ทำงานแทบตาย เพื่อเสียภาษี เพื่อเอาไปปรองดองกับคาดตะกอนเผาเมือง )

อะนิจังวัตตะสังขารา อุปปาทะวะยะธรรมมิโน อุปชิตวานิรุตชันติ เตสังวูปะสะโมสุโข

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท