ผม และคณะ อสม.มาร่วมงาน อสม. ระดับจังหวัด ในวันที่ 24 มีนาคม 2555 ซึ่งล่าช้าไม่นาน เพราะวัน อสม. แห่งชาติ คือ วันที่ 20 มีนาคม ของทุก ๆ ปี
ปีนี้ ประธานในพิธี คือ ท่าน นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข (ท่านเป็นชาวจังหวัดชัยภูมิด้วยครับ) โดยมีประเด็นในงาน อสม. ปีนี้ คือ อสม. นักจัดการสุขภาพชุมชน : คัดกรองพยาธิใบไม้ตับ ลดมะเร็งต่อน้ำดี
ก่อนพิธีเปิดงาน จึงมีการเสวนาในประเด็นนี้ บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญท่านหนึ่ง คือ น.พ.วัชรพงศ์ พุทธิสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อาจารย์เล่าว่า ตอนเป็นนักศึกษาแพทย์ ผ่าศพครั้งแรก (ครูใหญ่) เป็นคนอีสาน และตายด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดี จึงอยากทดแทนบุญคุณครู...ในการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งท่อน้ำดี
เริ่มต้นเล่าเรื่องว่า ภาคอีสานประเทศไทยมีแชมป์โลกด้วยนะ...ใช่เรามีจริง ๆ เช่นคุณสมรักษ์ คำสิงห์ กีฬามวยสากลเหรียญทองโอลิมปิก แต่อาจารย์เฉลยบอกว่าไม่ใช่
ที่เป็นแชมป์จริง ๆ คือ ผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดี มากที่สุดในโลก เกิดจากจาก พยาธิใบไม้ตับ (Opisthorchis viverrini) เป็นพยาธิใบไม้ชนิดหนึ่งที่ตัวแก่อาศัยอยู่ในท่อน้ำดีของคน สุนัขและแมว พยาธิชนิดนี้มีความสำคัญทางสาธารณสุขมากกว่าพยาธิอื่นๆ ที่พบระบาดในประเทศไทย เนื่องจากเป็นพยาธิชนิดเดียวในประเทศไทยที่องค์การอนามัยโลกยอมรับและจัดให้เป็นเชื้อก่อมะเร็ง และเนื่องจากอาการแสดงของผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีในระยะแรกไม่ชัดเจน ผู้ป่วยจึงมักมารับการรักษาจากแพทย์เมื่อมะเร็งเข้าสู่ระยะท้ายของโรคหรือเมื่อมะเร็งได้แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นแล้ว ทำให้การรักษาไม่ได้ผลดีนัก ผู้ป่วยมักเสียชีวิตภายใน 1-2 ปีหลัง
อาจารย์เล่าว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีมักเสียชีวิตภายใน 1-2 ปีหลังการวินิจฉัย อัตราการมีชีวิต 5 ปีหลังรับการรักษาค่อนข้างต่ำ ประมาณร้อยละ 20 ปัจจุบันยังไม่มีวิธีวินิจฉัยที่จำเพาะกับมะเร็งท่อน้ำดีในระยะต้น ไม่มีการบำบัดรักษามาตรฐานที่มีประสิทธิภาพสูง อัตราการตายเฉลี่ยร้อยละ 90 ทั้งในเพศหญิงและชาย สูงกว่า มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเฉลี่ยร้อยละ 30-40
เล่าแล้ว...ผมก็รู้สึกน่ากลัว ทั้งตนเอง และพี่น้องชาวอีสานครับ เพราะโรคดังกล่าว เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการกินปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดแบบดิบๆ รวมทั้งปลาร้าไม่สุกและของหมักดอง
อาจารย์วัชรพงศ์…บอกถึงการคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งท่อน้ำดีแบบง่ายง่าย จำนวน 4 ข้อ คือ
แต่เมื่อท่านประธานในพิธี คือ ท่าน นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข มาเปิดงาน ชื่นชมกับการเสียสละของ อสม. และมอบประกาศเกียรติคุณ อสม. ที่ทำความดีความงาม ท่านก็แถลงนโยบายว่า โรคมะเร็งท่อน้ำดี จะเป็นคนที่คนชัยภูมิ และสาธารณสุขเขต 14 ต้องร่วมมือกันดำเนินงาน (บริการ + วางแผน + พัฒนา + จัดการ) เรื่องโรคมะเร็งท่อน้ำดี
ท่าน รมช.สาธารณสุข ได้บอกถึงการคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งท่อน้ำดีแบบง่ายง่าย จำนวน 4 ข้อ (ผมว่าคล้าย ๆ กันครับ) คือ
แต่ทั้งสองท่าน สรุปเหมือนกับว่า…
ถ้าใครตอบใช่ 3 ใน 4 ขึ้นไป มีโอกาสเสี่ยงต่อโรคมะเร็งท่อน้ำดี และการตรวจด้วยอัลตร้าซาวด์ ถือว่าเป็นวิธีการคัดกรองที่ง่ายที่สุด แต่ก็มีข้อจำกัดทั้งในเรื่องความเชี่ยวชาญของบุคลากร คัดกรองได้น้อยราย และมีราคาแพง ซึ่งต้องมีการพัฒนากันต่อไป
และสุดท้าย การพบโรคเบื้องต้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ และที่สำคัญประชาชนควรเลิกการกินปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดแบบดิบๆ รวมทั้งปลาร้าไม่สุกและของหมักดอง
แบบคัดกรองที่เกิดจากการสังเกต พัฒนาด้วยตนเองเพื่อใช้เอง เยี่ยมยอดมากค่ะ
ที่ปลาปาก ได้มีการทำงานวิจัยเรื่องนี้อยู่ครับพี่ ตอนนี้กำลังคัดกรองความเสี่ยงประชาชน และแพทย์อุลตร้าซาวน์ไปหลายสิบคนแล้ว พบว่ามีคนเสี่ยงต่อการป่วยด้วยมะเร็งตับเหมือนกัน
* ขอฝากความห่วงใยมายังผู้ป่วย และผู้สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ด้วยค่ะ
* อยากให้ช่วยกันรณรงค์มากๆและต่อเนื่องค่ะ
สวัสดีค่ะ
ของลำดวน ตอบใช่ไป ๒ ข้อแล้วค่ะ
มีความเสี่ยง ร้อละ ๕๐ ใช่ไหมคะ
ขอบคุณความรู้ที่เป็นประโยชน์นี้ค่ะ
ถ้ามีอะไรใช้ช่วย ก็บอกนะคะยินดีแชรืความรู้ /โครงการ ไว้แลกเปลี่ยนการเรียนรู้ด้านวิชาการกันคะ
- ขอบคุณค่ะ...ได้รับความรู้ที่ดีจริงๆๆค่ะ
สวัสดีค่ะน้องทิมดาบ
ขอบคุณค่ะ เป็นประโยชน์มาก
ชื่นชมทีมค่ะ บริการเชิงรุก เข้าหาชุมชน คัดกรอง ให้ความรู้
มีการเผยแพร่ความรู้เรื่องนี้ทางเอฟเอ็ม103 มข.ด้วยค่ะ
ร่วมด้วยช่วยกัน แนวโน้มความเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็งท่อทางเดินน้ำดีน่าจะลดลงนะคะ
หลังจากคัดกรองแล้ว กำหนดความเสี่ยงอย่างไร และมีการจัดบริการให้กลุ่มเสี่ยงแต่ละกลุ่มอย่างไร