การจัดการเรียนรู้เพื่อความเข้าใจในการอ่านตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร สาเหตุหนึ่งเกิดจากตัวของผู้เรียนเอง กล่าวคือ อ่านแล้วไม่เข้าใจความหมาย แยกใจความสำคัญกับใจความรองและสรุปความสำคัญไม่ได้ ไม่สามารถแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่านได้
ไม่มีนิสัยรักการอ่าน ตีความหมายของคำผิด เมื่อพบคำที่มีลักษณะคล้ายกันมักสับสน เก็บใจความและจับประเด็นของเรื่องที่ตนอ่านไม่ได้ จึงต้องอ่านซ้ำหลาย ๆ ครั้งทำให้อ่านช้า เสียเวลาในการอ่านมากกว่าปกติ
และสาเหตุที่สำคัญคือ ผู้สอนไม่จัดการเรียนรู้ให้นักเรียนรู้จัก
จับใจความหรืออ่านโดยใช้เทคนิคสมัยใหม่ ทำให้ผู้เรียนตีความ แปลความไม่ได้ เนื้อหาที่นำมาเป็นสื่อในการจัดการเรียนรู้ อาจจะเหมาะกับผู้เรียนบางส่วนแต่ไม่ทั้งหมด และผู้เรียนอาจมีโอกาสในการเลือกสื่อน้อย
ประกอบกับสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้
วิชาภาษาไทยในปัจจุบันที่จำนวนนักเรียนในห้องเรียนมากเกินไปทำให้ยากต่อการจัดกิจกรรมผู้สอนขาดความรู้พิเศษ และขาดความเข้าใจในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขาดสื่อการสอน และผู้สอนมุ่งเนื้อหาในการถ่ายทอดมากเกินไป จึงมีผลทำให้เป็นปัญหาการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย
อีกทั้งการจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันมักเน้นแต่การพัฒนาสมองซีกซ้ายมากกว่าการพัฒนาสมองซีกขวา ทำให้นักเรียนขาดความสุขและจินตนาการในการเรียนรู้ในการจัดการเรียนรู้นอกจากจะมีจุดมุ่งหมายให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถแล้ว ยังต้องปลูกฝังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชานั้นด้วย เพราะถ้าผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาที่เรียนจะส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นด้วย
การจัดการเรียนรู้แบบ4 MAT เป็นรูปแบบหนึ่งซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเข้าใจในการอ่านของผู้เรียนได้ดี เพราะช่วยส่งเสริมกระบวนการคิดของผู้เรียนให้พัฒนาสมองสองซีกให้สมดุล พัฒนาศักยภาพให้เจริญเติบโตเต็มขีดความสามารถเพื่อเป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข
ไม่มีความเห็น