Chronicle : บันทึกลับเหนือโลก
ผู้กำกับ : จอช แทรงก์
ประเภท : Drama, Sci-Fi
http://www.nangdee.com/title/mt_poster.php?movie_id=2901
เรื่องย่อ
เรื่องราวของวัยรุ่นชั้นมัธยมปลายที่พบหลุมหนึ่งในป่า ทั้งสามลงไปดูแล้วพบกับสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็น พวกเขาคิดว่า วัตถุประหลาดนั้นมาจากต่างดาว เหตุการณ์ผ่านไป พวกเขาสามคนค้นพบว่ามีพลังพิเศษเกิดขึ้น พลังที่เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ จนบางคนในกลุ่มไม่สามารถควบคุมมันได้ จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม
วิจารณ์ภาพยนตร์ Chronicle : บันทึกลับเหนือโลก
หนังใช้วิธีการนำเสนอผ่านกล้อง แฮนด์ดี้แคม ของวัยรุ่นคนหนึ่งและกล้องของบุคคลอื่น กล้องตามสถานที่ต่าง
ๆ ซึ่งแน่นอนว่ามุมองต่าง ๆ จึงออกมาแบบดิบ ๆ แบบมือกล้องสมัครเล่นทั่วไป เทคนิคนี้ทำให้คนดูอาจรู้สึกปวดหัว ซึ่งผู้เขียนเองปวดหัวอย่างมากในช่วงครึ่งแรก แต่เข้าครึ่งหลัง วัยรุ่นคนนั้นสามารถใช้พลังจิตควบคุมกล้องโดยไม่ได้ต้องใช้มือถือ ภาพจึงนึ่งขึ้น เทคนิคการนำเสนอภาพจากกล้องแฮนด์ดี้แคมแบบนี้เราได้เห็นมาแล้วในหลายเรื่องที่ผู้เขียนขี้เกียจจะยกตัวอย่าง
หนังสะท้อนภาพสังคมอเมริกันโดยเฉพาะช่วงชีวิตของวัยรุ่นที่ไม่อยู่นิ่ง ชอบค้นหา ชอบแสดงออกและชอบที่จะเป็นจุดสนใจ อีกทั้งยังสะท้อนสภาพครอบครัวที่พ่อติดสุรา แม่ป่วยเป็นโรคที่ใช้รักษาจำนวนมากจนครอบครัวประสบปัญหาด้านการเงิน ลูกจึงกลายเป็นเด็กมีปัญหา ซ้ำร้ายลูกยังมีลักษณะเป็นคนอ่อนแอ ถูกเพื่อนล้อรังแกตลอดเวลา หนังแนวนี้อเมริกันชอบทำนักแล จนผู้เขียนรู้สึกว่า สังคมอเมริกันเป็นเช่นนั้นจริง
เรื่องของอำนาจไม่เข้าใครออกใคร ในบรรดาหนังฮีโร่สัญชาติอเมริกัน ตัวเอกมักได้พลังมาอย่างไม่ตั้งใจ แต่ทุกเรื่องก็จะนำอำนาจนั้นมาใช้ในทางที่ดี ช่วยเหลือคน อย่างวลีอมตะในหนังสไปเดอร์แมนว่า “อำนาจที่ยิ่งใหญ่ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง” ซึ่งตรงกับข้ามกับเรื่องนี้ ที่วัยรุ่นสามคนใช้อำนาจที่ได้มาแกล้งคนและหาความสุขกับอำนาจนั้น จนท้ายที่สุดใช้อำนาจโดยไม่สนใจผู้อื่นหรือผลลบที่จะเกิดขึ้นเลย การสร้างพล๊อตเรื่องแบบผ่าเหล่านี้เองอาจสะท้อนภาพความรู้สึกคนผู้คนที่เป็นสามัญชนได้ดีที่สุด เพราะพลัง อำนาจที่ได้มานั้นต้องตอบสนองตนเองก่อน ให้ตนเองมีความสุขก่อน เรื่องการใช้อำนาจไปช่วยเหลือคนนั้นมันเป็นเรื่องเพ้อฝันเกินไป
โลกแห่งความเป็นจริงกับโลกภาพยนตร์มันสวนทาง นี้อาจเป็นเหตุผลที่หนังเรื่องนี้ใช้การนำเสนอผ่านกล้องสมัครเล่น
สุดท้าย ผู้เขียนอาจคิดไปเองคนเดียวก็ได้ว่า หนังเรื่องนี้อาจสร้างมาสะท้อนภพของการเมืองไทยก็เป็นได้ “555”
วาทิน ศานติ์ สันติ
ดูเมื่อ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๕
ราคาบัตร ๘๐ บาท SF เดอะมอลล์บางกะปิ
ไม่มีความเห็น