ที่มาของชื่อเมือง ”เสียมเรียบ” ..เหตุผลสนับสนุนที่สมจริงกว่า


การจะเปลี่ยนชื่อเมืองอันยิ่งใหญ่ระดับนี้ได้นั้น มันต้องมีเหตุการณ์พิเศษเหนือธรรมดามากๆ เช่น การปลดแอกจากความเป็นทาสในระดับมหาศาลแบบพลิกแผ่นดิน

 เมืองที่เป็นที่ตั้งของนครวัดนั้น ไทยเราเรียกว่า เสียมรัฐ  เสียมราฐ  แต่เขมรเขาเรียกว่า เสียมเรียบ แปลว่า เมือง (ที่คน)  สยาม  (ถูกฆ่าตาย)  ราบ   หมดสิ้น โดยกองทัพเขมร  (เสียง อา ของเราจะออกเสียงเป็นเขมรว่า เอีย เสมอไป)

 

ซึ่งผมได้เขียนบทความสันนิษฐานไว้ว่า ชื่อ เสียมเรียบ นี้มีที่มาจากคราที่ ตระซอก ประแอม (นายแตงหวาน) นำทาสชาวเขมรบุกยึดอำนาจจากชนชั้นปกครอง (พวกเสียม) เมื่อพศ. ๑๘๗๙   แล้วไล่พวกเสียมออกไปจากเมืองได้สำเร็จ จึงตั้งชื่อเมืองไว้เป็นที่ระลึก

 

 

แต่ข้อมูลที่ยอมรับกันทั่วไปในวงกว้าง (ทั้งเขมร นักวิชาการไทยผู้ไม่คลั่งชาติ  นักท่องเที่ยวฝรั่งแบบฉาบฉวย)  ว่ากันว่า  ชื่อนี้เกิดจากการที่เขมรรบชนะกองทัพไทยที่เมืองนี้ ในคราใดคราหนึ่งของสงครามระหว่างกัน ในช่วง 100 ปีนับแต่ตั้งกรุงศรีอยุธยา  (ซึ่งข้อมูลไม่ตรงกันสักฉบับ)   

 

แต่นั่นก็เป็นเพียงสมมติฐานเท่านั้น ไม่มีหลักฐานรองรับอย่างเป็นรูปธรรมอันใด ...และก็ไม่ได้มีน้ำหนักหลักฐานอะไรมากไปกว่าสมมติฐานของผมเลย ....ว่าไปแล้วสมมติฐานของผมมีน้ำหนักมากกว่ามากนัก ดังนี้

 

การรบชนะศัตรูที่เมืองใดเมืองหนึ่ง ในสมัยก่อน มันเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะรบกันบ่อยๆ  ไม่น่ามีน้ำหนักพอที่จะทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อเมืองไปได้ถึงเช่นนี้  โดยเฉพาะเมืองใหญ่ที่มีรากฐานรุ่งเรืองมานานอย่างพระนครฯ .. ไทยลาวญวณพม่ารบกันตายระนาวหลายร้อยครั้งในหลายร้อยปีก็ก็ไม่เห็นมีใครเขาเปลี่ยนชื่อเมืองให้บ้าบิ่นขนาดนั้น  

 

การจะเปลี่ยนชื่อเมืองอันยิ่งใหญ่ระดับนี้ได้นั้น มันต้องมีเหตุการณ์พิเศษเหนือธรรมดามากๆ  เช่น การปลดแอกจากความเป็นทาสในระดับมหาศาลแบบพลิกแผ่นดิน    ที่ต้องทนทรมานมา 500 ปี ในมหานครอันยิ่งใหญ่เช่นเมืองพระนคร(วัด)  ที่ทาส 7 แสนคน สามารถล้มล้างเชื้อสาย “วรมัน” ได้หมด  ก็สมควรที่จะตั้งอะไรให้ใหม่หมด

 

เช่น ระบบกษัตริย์เทวราชาแบบ “ วรมัน”  ก็ล้มล้าง    และเพื่อจะได้เริ่มต้นได้ใหม่จริง ๆ ให้ได้ผลทางจิตวิทยาแบบเริ่มต้นสร้างชาติใหม่ และให้สมแค้นที่สะสมมานานด้วย ก็เลยต้องเปลี่ยนชื่อเมืองด้วย จากพระนครยโสธรปุระ มาเป็น เสียมเรียบ

 

เรียกว่าหักดิบ เอาภาษาแบบง่ายๆสุดๆไปเลย  ชื่อพระราชาก็เอากันง่ายๆว่า แตงหวาน (ตระซอกประแอม)   ไม่รุ่มร่ามแขกจ๋าแบบพวกวรมัน

 

จริงๆ แล้วผมชื่นชม ตระซอกประแอมมากๆด้วยความจริงใจว่า ..ท่านเป็นคน “ติดดิน” มากๆ ล้มล้างของสูงที่กดขี่เรา แล้วเปลียนมันให้ “ต่ำๆ “ ให้สะใจโจ๋..ว่างั้นเถอะ

 

ก็สมควรอยู่หรอกที่พวก วรมัน จะโดนเสียบ้าง เข้าใจว่าคงกดขี่ทาสเขมรมาก พวกเขาลำบากยากแค้นหลายชั่วอายุคน  ขนาดกินแกงยังต้องกินจากกระทงใบไม้ (ตามบันทึกของ โจวตากวน) ในขณะที่พวกเสียมชนชั้นปกครองอยู่คฤหาสน์กันหรูหรา   ...นี่ถ้ารู้จักเอาใจทาส เลี้ยงดูให้ดี ป่านนี้นครวัดจะเป็นอย่างไรหนอ ..อยุธยาคงไม่เกิด  ประเทศไทยวันนี้จะเป็นอย่างไรหนอ

 

ผมได้เขียนแสดงไว้ว่า พวกเสียม ที่พระนครฯ ไม่ได้ตายหมดเรียบหรอก แต่ตอนนั้นสู้กำลังเขมรไม่ไหวจริงๆ ก็เลยอพยพหนีมาก่อตั้งกรุงศรีอยุธยาไงเล่า

 

รายละเอียดโดยสรุป ลองอ่านดูนะครับ เช่นจากลิงค์นี้ http://www.gotoknow.org/blogs/posts/481788

 

 

 

...คนถางทาง (๑๕.๓.๒๕๕๕)

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 481967เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2012 18:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 14:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท