รักเอาอยู่


รักเอาอยู่

กำกับโดย  ธรรมนูญ สกุลบูรณ์ถนอม,  ทิวา เมยไธสง,  ธนดล นวลสุทธิ์

ความคุมการผลิต : พจน์ อานนท์

แนว : Romantic Comedy


ที่มา :  http://movie.kapook.com/view37466.html

เรื่องย่อ

ท่ามกลางมหาอุทกภัยน้ำท่วมที่ประเทศไทยประสบเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๕๔ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ทำให้วิถีคนกรุงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

ถุง (ฟิล์ม - รัฐภูมิ โตคงทรัพย์) หนุ่มขี้บ่น ถูกเพื่อน ส่างหม่อง (อ้น - อัตตพงษ์ อัตตกิจกุล) ชักชวนไปเป็นจิตอาสาทั้ง ๆ ที่บ้านของเขาเองก็ประสบปัญหาน้ำท่วม แต่ก็ต้องไปกับเพื่อนเพราะเพื่อนอ้างถึงสาวสวยี่ไปพบ ทำให้เขาตกลง ทำให้เขามาพบกับ เม่ยสุ่ย (กอล์ฟ - บุศริน หยกพรายพัน) สาวสวย สุดห้าว แต่งตัวแรง ในระยะแรกทั้งสองไม่ลงรอยกันทะเลาะเหน็บแนมกันตลอดเวลา  ทั้งสองเจอกันอยู่เรื่อย ซึ่งเม่ยสุยคิดว่าถุงเป็นชายโรคจิตคอยตามเธอ แต่แล้วบริษัทของถุงได้จ้างบริษัทของเม่ยสุ่ย ให้มาทำโฆษณา ทั้งคู่จึงต้องมาทำงานร่วมกัน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เต็มใจนัก ทั้งคู่ต้องไปถ่ายภาพน้ำท่วมทั่วกรุงเทพฯ เพื่อมาใช้ในโฆษณา ทำให้ทั้งสองใกล้ชิดกัน และความสัมพันธ์เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เขารักเธออย่างไม่รู้ตัว แต่ถุงเองกลับไม่ไม่รู้ใจตนเอง ซ้ำร้ายเม่ยสุ่ยเองก็มีคนรักอยู่แล้ว ถุงจะทำอย่างไร เพราะเมื่อน้ำลดลง เขาและเธออาจเจอกันน้อยลง หรืออาจจะไม่ได้เจอกัน และมีข่าวว่า ถุงจะต้องไปทำงานประจำที่เกาหลี

 

วิจารณ์ภาพยนตร์รักเอาอยู่

 

“ฮาน้ำแตก”  เป็นคำโปรยใบปิดที่เรียกร้องความสนใจได้พอสมควร แต่ไม่ได้ติดเรทนักเพราะได้เติมคำว่า “บิ๊กแบ๊กก็เอาไม่อยู่” ต่อท้าย 

 

ก่อนไปดูผมแทบไม่อยากตั้งความหวังกับหนังเรื่อนี้มากนัก เพราะเป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าเป็นหนังของพจน์ อานนท์ ซึ่งเป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว แต่ผลที่ออกมาไม่ประทับใจนัก เช่น ศพเด็ก 2002 ที่ถ่ายทำทั้ง ๆ ที่ข่าวยังอยู่ในกระแส  ซึ่งผมดูแล้วค่อนข้างเบื่อเพราะดำเนินเรื่องช้า ดึงเวลากับฉากบางฉากมากจนหงุดหงิด และยังเดาเรื่องได้ทะลุตั้งแต่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแรก รักเอาอยู่ ก็คงจะไม่ต่างกัน เพราะถ่ายทำในขณะที่น้ำยังท่วมและเป็นช่วงวิกฤตที่สุดด้วย และอยากจะรู้ว่า ทีมผู้กำกับจะเล่าเรื่องอย่างไรในสถาณะการณ์น้ำท่วม

 

แต่เมื่อเข้าไปดูแล้วกลับรู้สึกว่า รักเอาอยู่ ไม่เป็นอย่างที่คิด  ที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นภาพเหตุการณ์น้ำท่วมที่ตะเวนถ่ายทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งสวยมาก แสดงเงา การวางองประกอบภาพสวยมาก หากเป็นภาพนิ่ง ผมว่าทำเป็นหนังสือรวมภาพออกขายได้เลยทีเดียว เมื่อนำภาพน้ำท่วมมาตัดสลับกับการดำเนินเรื่องนับว่าลงตัว

 

บทของหนังนับว่าแสนธรรมดาไม่ต่างกับละครน้ำเน่า ที่ทะเลาะกันตอนแรกและรักกันตอนหลัง แม้จะสร้างอุปสรรค์เอาไว้แต่ก็ไม่ได้ปล่อยเอาไว้นานและยากเกินไข คลี่คลายอย่างที่ทุกคนเดาได้ เรื่องของบทหนังจึงไม่เป็นที่น่าประทับใจสำหรับผม

 

เรื่องความฮานับว่าทำให้ “น้ำแตก”ได้เลย มันเป็นความฮาแบบพจน์ อานนท์จริง ๆ คือ ฮาด้วยคำด่า  ถุง ที่แสดงโดย ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ สบถ ด่า หยาบได้ทั้งเรื่อง แต่การ ด่า สบถ หยาบของตัวละครก็ไม่ได้เป็นไปอย่างไม่มีจุดหมาย มันมีเหตุผลและมีบทสรุปของมันด้วย ฟิล์ม เล่นเรื่องนี้ได้อย่างดีสลัดคราบพระเอกในหนังหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมาของเขาได้  เรื่องนี้ ฟิล์มหลุดแบบสุด ๆ และเป็นธรรมชาติแบบสุด ๆ

 

เม่ยสุ่ย (กอล์ฟ - บุศริน หยกพรายพัน) เป็นตัวละครที่ไม่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าเบื่อ ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ แม้เธอจะเป็นนางเอกใหม่ แต่บทนี้ก็ไม่ได้ใช้ฝีมือในการแสดงมากมาย การร้องไห้ของเธอทำให้ผมหงุดหงิดใจเสียด้วยซ้ำ แต่ความน่ารักของเธอนับว่า “เอาอยู่” และเชื่อว่า เธอแจ้งเกิดจากกหนังเรื่องนี้ได้อย่างเต็มตัว

 

ความประทับใจในหนัง รักเอาอยู่ คือ การนำเสนอภาพวิถีชีวิตของคนกรุงในช่วงน้ำท่วม เช่น การตื่นแต่เช้าเพื่อจะเดินทางไปทำงานซึ่งกว่าจะไปถึงก็สาย การรถทหาร และที่ชอบที่สุด ภาพของคนกรุงที่ลืมการพายเรือไปนานแล้วกลับต้องมาพายเรือ พายซ้ายไปขวา พายขวาไปซ้าย วนไปวนมา มันบ่งบอกถึงความอ่อนแอของคนกรุงได้เป็นอย่างดี

 

ในเรื่องการนำภาพของผู้คนในเหตุการณ์น้ำท่วมมาใช้ในหนังผมว่าค่อนข้างดี มีการพูดถึงจิตอาสาที่ไปทำงานตามสถานที่ต่าง ๆ เช่นการบรรจุของในสนามบินดอนเมือง การกรอกทราย การนำอาหารไปแจกตามบ้านต่าง ๆ ภาพของคนที่ไม่ยอมย้ายนออกจากบ้าน ภาพการลอยกระทงกลางถนน และท้ายที่สุด ภาพของคนไทยที่ครั้งหนึ่งเคยทะเลาะกันแล้วกลับมารักกันในยามวิกฤติ

 

สรุปหนังเรื่องนี้ผมกลับชอบสิ่งที่เป็นฉากหลังของหนังมากกว่าตัวเนื้อหนังเอง

หนังเรื่องนี้ทำให้คุณมีความรู้สึกร่วม (IN) ได้อย่างไม่ยาก หากคุณเป็นคนกรุงและประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างในหนัง

 

วาทิน ศานติ์ สันติ

ดูเมื่อ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๕

บัตรราคา ๑๖๐ บาท SF เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ

 

หมายเลขบันทึก: 481720เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2012 22:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน 2013 07:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ผมไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้และคิดว่าคงไม่ดูแน่ๆ เพราะไม่ใช่หนังที่ผมสนใจจะดู แต่ผมชอบประเด็นในบันทึกนี้ที่ว่าการถ่ายภาพน้ำท่วมสวยงามมาก เสียดายที่ผู้สร้างหนังคิดในเชิงการสร้างรายได้แบบเอาเร็ว ถ้าไม่คิดจะสร้างหนังตลาดๆ แต่สร้างสารคดี สิ่งที่เขาถ่ายทำจะเป็นสารคดีที่เป็นประวัติศาสตร์อันสำคัญของประเทศไทยไปอีกนานทีเดียวครับ

ไม่ได้ดูหนังนานมากๆๆ ขอบคุณที่นำมาเล่าครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท