สะอึก!! สิ่งธรรมดาที่ไม่ธรรมดา


เล่าเรื่อง "สะอึก" ที่ไม่ธรรมดา

"การสะอึก"

ใครก็รู้เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดา  เจอมากับตัวก็หลายครั้งแล้วตั้งแต่เกิด

แต่..  สะอึกไม่ใช่เรื่องธรรมดาทันทีถ้าสะอึกเป็นเวลานานไม่ยอมหาย...

ครั้งแรกผู้เขียนก็ไม่ได้สนใจเรื่อง "การสะอึก"  จนกระทั่งเมื่อวานนี้สะอึกตั้งแต่ 18.15 น. หลังจากทานอาหารมื้อเย็นไม่ยอมหยุด  ครั้งแรกก็คิดว่าเออ ก็คงเหมือนที่เคยพบเจอ  2-3 นาที ก็หยุดแล้ว  แต่นี่เลยไปร่วม 1 ชั่วโมงก็ไม่หยุด เอื๊อกๆ  อึ๊กๆ  รำคาญมากๆ  หายใจไม่สะดวก  มันทำให้ขาดออกซิเจนด้วยหรือเปล่านี่ ....  คิดไปนู่น  ประกอบกับท้องอืดๆ มีอาการอึดอัดเหมือนมีแก๊สในกระเพาะร่วมด้วย   .. คงเพราะทานสับปะรดเข้าไปมากมั้ง  เอ้า..  ก็ทนยอมให้มัน  เอื๊อกๆ อึ๊กๆ ไป  นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผ่านมาหลายฝนมากแล้วเพิ่งเจอะเจอ  อะไรจะนานขนาดนี้  ผ่านไป ๆ  ...ไม่ยอมหยุดวุ๊ย   เอาหล่ะเพราะอาหารดังกล่าว  เดี๋ยวนอนหลับ  อาหารย่อยหมด  ตื่นเช้าก็คงหายไป   เข้านอน  21.00 น. โชคดีที่หลับได้  ตอนหลับไม่สะอึก....หลับได้หลับดี...   

จนกระทั่งหกโมงกว่าๆ  ตื่นมา  หายไปไม่สะอึกแล้ว... โย้วๆๆ   ล้างหน้าแปรงฟัน  ทำธุระส่วนตัว...  เอื๊อกๆ  อึ๊กๆ ....  มาอีกแล้ว....ทำไงหว่า   ถามแพทย์ข้างบ้าน (พอดีมีหมอประจำบ้าน)  บอกว่าปล่อยไปก่อนเดียวหายเอง...ไม่หายค่อยไปโรงพยาบาล  (หมอคงเห็นว่าเจ้าสะอึกนี่คงไม่ตายง่ายๆ มั้งไปโรงพยาบาลทันอยู่  เออ..หมอ  มันทรมานนะครับ...) อ้าวรอไป

      เอื๊อกๆ  อึ๊กๆ ...  7.30  น.  ทานอาหารเช้า  หลังทานอาหาร  20  นาที  ก็หายไป   ดีใจสุดๆๆ  ....  ยังๆๆๆ  อีก 30 นาทีมาใหม่...  เอื๊อกๆ  อึ๊กๆ ...

....  เอาหล่ะ  ไหนๆ มันรบกวนเราจัง   ขอหาข้อมูลสักหน่อย  มันเป็นตัวอะไรกันแน่  หน้าตามันอย่างไร..

....  โอ้โห   พอถามท่านพี่ กูเกิน  เท่านั้นครับ   ข้อมูลมาเพียบมีทฤษฎีต่างๆ มากมาย   ว่ากันตั้งแต่เจ้านี่เกิดจนตายเชียวละครับ  อย่างกับชาติกำเนิดก็ว่ากันว่ามันมันติดมากับสมองตั้งแต่การวิวัฒนาการระหว่างสัตว์น้ำกับสัตว์บกนู่นเลย....  วุ๊ย  อะไรจะขนาดนั้น !!!  มาจนกระทั่งมันตายด้วยถุงพลาสติค... และอีกสารพัดวิธีที่ทำให้มันตาย...

...  สรุปๆ ได้เป็นอย่างนี้นะ

 

ชาติเกิดของสะอึก

     คุณ TR ได้โพสต์ไว้ใน  http://www.vcharkarn.com/vcafe/51127  ว่าอย่างนี้นะ   ลองอ่านดูครับ   (เป็นความรู้... ไม่ต้องหาบคอน)       

.......  นักวิทยาศาสตร์ทราบว่า อาการสะอึกเป็นผลจากการหดตัวโดยฉับพลันของกล้ามเนื้อที่เราใช้หายใจเข้า โดยภายหลังจากที่กล้ามเนื้อเริ่มจะเคลื่อนไหว ช่องสายเสียง (glottis) จะปิดหลอดลม (windpipe) ทำให้เกิดเสียง “เอื๊อกก...” ของการสะอึกขึ้น
แล้วก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดมาก เมื่อผลการตรวจด้วยคลื่นเสียง (อัลตราซาวนด์) แสดงให้เห็นว่า เด็กในครรภ์มีอาการสะอึกตั้งแต่สองเดือนแรก ก่อนที่เด็กจะหายใจเป็นเสียอีก
ข้อมูลที่ได้นี้ทำให้เป็นที่สันนิษฐานได้ว่า อาการสะอึกในผู้ใหญ่นั้น น่าจะเป็นเพียงร่องรอยที่หลงเหลือของปฏิกิริยาการตอบสนองโดยอัตโนมัติของร่างกายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ยังเป็นทารกในครรภ์เท่านั้นเอง ซึ่งเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วปฏิกิริยานี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อกลไกภายในสมองได้รับการกระตุ้นอย่างไม่ตั้งใจ 

       อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ว่าทำไมเด็กในครรภ์ต้องสะอึกนั้น ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนครับ ทฤษฎีแรกก็ว่า เป็นเพียงความเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่กล้ามเนื้อของระบบหายใจ ก่อนที่จะต้องหายใจด้วยตัวเองจริงๆ ภายหลังจากคลอดออกมา อีกทฤษฎีก็ว่า เป็นการป้องกันไม่ให้น้ำคร่ำเข้าไปในปอด

        ทฤษฎีเหล่านี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันครับ และไม่มีทฤษฎีใดอธิบายอาการสะอึกได้ครอบคลุมทั้งหมด เช่น คุณคริสเตียน สตรัส แห่งโรงพยาบาล ปีตี-ซาลเปอแตร์ ในกรุงปารีส ที่บอกว่า เป็นการป้องกันไม่ให้น้ำคร่ำเข้าไปในปอดนั้น ก็มีข้อแย้งว่า หากเป็นเช่นนั้นจริง การปิดตัวของช่องสายเสียง ก็ควรจะสัมพันธ์กับการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจออก อย่างเช่นเมื่อเกิดอาการไอ มากกว่าการหายใจเข้า

        กระนั้นก็ตาม มีข้อเท็จจริงประการหนึ่งที่พบในสิ่งมีชีวิตบางจำพวก ซึ่งพบว่า การหดตัวของกล้ามเนื้อในระบบหายใจ มีความสัมพันธ์กับการปิดตัวของช่องสายเสียงอย่างเห็นได้ชัดเจน สิ่งมีชีวิตที่ว่านี้ได้แก่พวกที่อยู่ในยุคต้นของวิวัฒนาการ เช่น ปลามีปอด (lungfish) ปลาที่มีลำตัวยาวและส่วนหัวแหลม (gar) และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำหลายชนิด โดยสัตว์เหล่านี้จะขับน้ำออกทางช่องเหงือก ด้วยการบีบตัวของช่องปาก ในขณะที่ปิดช่องสายเสียง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าสู่ปอด

        ในวารสารไบโอเอสเสส์ (BioEssays, ฉบับที่ 25 หน้าที่ 182) คุณคริสเตียน หัวหน้าทีมวิจัยเสนอแนวคิดว่า สาเหตุที่คนเราเกิดอาการสะอึกนั้น เป็นเพราะกลไกของสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมการระบายน้ำออกทางเหงือกของสิ่งมีชีวิตในยุคแรกๆ ยังคงหลงเหลือมาถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในยุคหลังๆ ทั้งนี้ ทีมวิจัยอ้างว่า มีความเหมือนกันหลายประการระหว่างอาการสะอึกของคนเรากับการระบายน้ำของเหงือกของสัตว์บางจำพวกอย่างเช่นลูกอ๊อด สิ่งที่เหมือนกันนั้นเช่นว่า กลไกที่เกิดขึ้นของทั้งคู่จะถูกยับยั้ง เมื่อปอดเกิดการขยายตัว และเมื่อระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในน้ำหรืออากาศสูงขึ้น
แต่ทำไมมนุษย์เรายังสะอึกอยู่อีก ซึ่งต่อเนื่องมาเป็นเวลานานถึง 370 ล้านปี ในขณะที่บรรพบุรุษของเราได้มีวิวัฒนาการ จนขึ้นมาอยู่บนพื้นดินโดยสมบูรณ์แบบแล้ว
ทีมวิจัยให้คำตอบว่า อาการสะอึกของทารกในครรภ์ เป็นเพียงพัฒนาการในระยะแรกของการเตรียมความพร้อมเพื่อที่จะ “ดูดนมแม่” ก็คล้ายกับการเรียนรู้ที่จะคลานก่อนการหัดเดิน

       คุณคริสเตียน เขาคิดอย่างนี้ครับ แม้จะเกิดการวิวัฒนาการต่อมาอย่างยาวนาน แต่กลไกของสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของเหงือกและช่องสายเสียงนั้น กลับไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก เพราะเป็นกลไกของสมองที่ค่อนข้างลงตัวแล้ว สำหรับการควบคุมการทำงานที่แสนจะซับซ้อน อย่างเช่นการดูดนมแม่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
“อาการสะอึกที่หลงเหลืออยู่นี้ อาจเป็นสิ่งที่เราต้องแลกมา เพื่อรักษาวิธีการทำงานที่ซับซ้อนไว้” เข้าทำนองว่าได้อย่างเสียอย่างครับ  คุณคริสเตียนยังชี้ให้เห็นว่า ขั้นตอนการเคลื่อนไหวระหว่างการดูดนมแม่นั้น คล้ายกับการเกิดอาการสะอึกมาก โดยช่องสายเสียงจะปิดตัวเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำนมแม่เข้าไปในปอด

        คุณ อัลลัน แพ็ค ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทชีววิทยาของระบบหายใจ แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ให้ความเห็นว่า เป็นแนวคิดที่เป็นไปได้มากทีเดียว “แต่ดูเหมือนว่าจะยากเหลือเกินที่จะพิสูจน์ได้”

        หากต้องการพิสูจน์ทฤษฎีการดูดนมแม่นี้ คุณคริสเตียนบอกว่า ต้องศึกษาเซลล์ประสาทที่ควบคุมการสะอึกและการดูดนม ซึ่งหากทฤษฎีถูกต้อง เซลล์ประสาทส่วนใหญ่ที่ตื่นตัวในขณะที่เราดูดนมแม่ ก็ควรจะตื่นตัวในขณะที่เกิดอาการสะอึกเช่นกัน

 

...... เห็นไหมครับมีอะไรที่น่าทึ่งเอามากๆ  กับสิ่งที่เรารู้สึกว่าก็แค่ "การสะอึก"  แต่นักวิทยาศาสตร์พยายามเจาะหาที่มาที่ไป  ดังนั้นมันไม่ธรรมดาเสียแล้ว

 

ตัวตนของสะอึก

        ส่วนตัวตนของสะอึกนั้น  คนเรามักจะรู้จักมันแค่สายพันธุ์เดียว  คือ เอื๊อกๆ  อึ๊กๆ ...ไม่นานก็หายไปเอง  แต่จริงๆ แล้วมันมีหลายสายพันธุ์ทีเดียว  โดยที่เวบสยามดารา 

http://www.siamdara.com/ColumnGirl.asp?cid=1800  ได้อ้างอิงนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อมูล   ดังนี้นะครับ...

        นพ.นรินทร์ อจละนันท์ อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหาร คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ช่วยไขข้อข้องใจให้หายสงสัยเกี่ยวกับการสะอึกว่า อาการสะอึกเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อกะบังลมที่อยู่ตรงรอยต่อระหว่างช่องปอดและช่องท้องที่เกิดขึ้นเองได้โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่คาดว่าเกิดจากมีสิ่งมากระตุ้นเส้น ประสาท 2 ตัว คือ Vagus nerve และ Phrenic nerve ซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมระบบประสาทต่อกับระบบทางเดินอาหารส่วนต้น โดยเสียงสะอึกที่เกิดขึ้น มาจากการหายใจออกขณะที่กะบังลมเกิดการกระตุกทันทีทันใด ทำให้เกิดเสียงดังของการสะอึกขึ้น

         สำหรับลักษณะอาการแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ

          1. อาการสะอึกช่วงสั้นๆ อาจเพียง 2-3 นาที

          2. การสะอึกหลายๆ วันติดกัน

          3. สะอึกติดๆ กันหลายสัปดาห์ และ

          4. การสะอึกตลอดเวลา

          โดยที่การสะอึกกลุ่มแรกเป็นการสะอึกช่วงสั้นๆ ที่ไม่มีอันตรายใดๆ แต่การสะอึกติดต่อกันหลายๆ วัน เป็นอาการที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากมีสาเหตุมาจากโรคอื่นๆ เช่น ความผิดปกติทางสมอง การเป็นอัมพาต การเป็นโรคทางเดินอาหาร การอักเสบในช่องท้องบริเวณกะบังลม โรคหลอดเลือดสมองตีบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ พิษสุราเรื้อรัง รวมถึงอาการทางภาวะจิตใจ และผลกระทบจากการใช้ยาบางชนิด

          ส่วนมากผู้ป่วยที่มาหาหมอด้วยการสะอึกเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน เนื่องมาจากมีอาการผิดปกติทางสมอง หรือเป็นอัมพาต ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถให้ยาที่ช่วยบรรเทาอาการสะอึกได้ แต่ก็อาจมีการสะอึกเกิดขึ้นมาอีก เพราะอาการสะอึกเป็นเพราะต่อเนื่องที่เกิดจากการเจ็บป่วย"นพ.นรินทร์อธิบาย

          มาถึงตรงนี้  เอ...  การสะอึกมันไม่ธรรมดาเสียแล้วใช่ไหมครับ... มันสะอึกติดๆๆ  กันได้นานด้วย  และ การสะอึกยังเชื่อมโยงไปยังโรคอื่นๆ ที่ดูเหมือนน่ากลัวทั้งนั้นเลย   ..หลายโรคเสียด้วย.....  (อึ๋ยยย์   เราก็สะอึกไม่หยุดซะด้วย...  ข้ามคืนมาแล้วนะ...  จิตตกเลย... มาอ่านทำไมหว่า)

 

พิฆาตสะอึก

          ส่วนการให้หายสะอึกว่ากันไปหลากหลายวิธีการทีเดียว 

          นพ.นรินทร์บอกว่า หากเป็นการสะอึกธรรมดาๆ สามารถใช้วิธีการกลั้นหายใจ การกลืนน้ำตาล กระตุ้นบริเวณหลังคอ แต่หากสะอึกติดต่อกันควรที่จะพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการสะอึกว่าเกิดมาจากอาการของโรคใด โดยอาการสะอึกไม่ถือว่าเป็นโรคแต่เป็นผลมาจากการเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร ดังนั้นหากสามารถทราบสาเหตุของโรคให้ยาตามอาการก็สามารถที่ช่วยให้อาการสะอึกดีขึ้น

          ส่วนคนอื่นๆ ก็ว่ามาพอสรุปได้ดังนี้

     1. สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลั้นหายใจไว้สักพัก ก่อนจะระบายลมหายใจออกมา ทำซ้ำๆหลายครั้ง
     2. หายใจเข้าออกลึกๆในถุงกระดาษ
     3. ใช้นิ้วมืออุดหูประมาณ 20-30 วินาที พร้อมกับหายใจ เข้า-ออกช้าๆ
     4. กลืนน้ำแข็งที่บดเป็นก้อนเล็กๆ
     5. ใช้นิ้วกดจุดที่ร่องเหนือริมฝีปาก ค้างไว้ประมาณ 1 นาที
     6. จิบน้ำมะนาวสดๆ ไม่ผสมเกลือและน้ำตาล
     7. ดื่มน้ำเปล่าเร็วๆ รวดเดียวหมดแก้ว
     8. อุดหูให้แน่น แล้วก้มลงดูดน้ำจากหลอดจนหมดแก้ว
     9. กลั้นหายใจ นับ 1-10 จากนั้นหายใจออกทันทีแล้วดื่มน้ำหนึ่งแก้ว

     10. กระตุ้นผิวด้านหลังของลำคอ แถวๆ บริเวณที่เปิดปิดหลอดลม โดยการดึงลิ้นแรงๆ
     11. ใช้ด้ามช้อนเขี่ยที่ปิดเปิดหลอดลม
     12. กลั้วน้ำในลำคอ
     13. จิบน้ำเย็นจัด
     14. กลืนน้ำตาลทราย 1-2 ช้อนโต๊ะ โดยไม่ต้องใช้น้ำ หรือ กลืนก้อนข้าว ก้อนขนมปัง ก้อนน้ำแข็งเล็กๆ
     15. ดื่มน้ำจากขอบแก้วที่อยู่ด้านนอกหรือด้านไกลจากริมฝีปาก
     16. จิบน้ำส้มสายชูที่เปรี้ยวจัด หรือดมสารที่มีกลิ่นฉุน เช่น แอมโมเนีย
     17. การฝังเข็ม
     18. การสวดมนต์ทำสมาธิ

*** ข้อ 1. -  8.  มาจากกูรู 

http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=200093a21cc01665&clk=wttpcts

*** ข้อ 10. -  18.  มาจาก  http://www.siamdara.com/ColumnGirl.asp?cid=1800

ส่วนข้อ 9. มาจากเวบทั้งสอง  เสนอเหมือนกัน  ส่วนที่อื่นๆ ก็คล้ายๆ กัน  ส่วนใหญ่จะไปจากกูรูเสียมากกว่า

          จะเห็นว่าสิ่งที่เห็นนี้เป็นการรักษาด้วยตนเอง  เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราทำได้ด้วยตัวเอง   นั่นเพระเป็นสายพันธุ์ไม่ดุร้าย  เป็นอาการพื้นๆ  ทั่วไป   แต่ได้คุยกับหมอ  หมอก็บอกว่ามียากินที่ทำให้หยุดสะอึกได้  แต่ทั้งนี้ถ้ายายังเอาไม่อยู่นั่นแสดงว่ามีโรคอื่นที่กระตุ้นให้เกิดการสะอึกขึ้น  นั่นคือ  การสะอึก เป็นปลายเหตุเท่านั้น  ต้นตออยู่ที่ไหนเป็นหน้าที่ที่หมอต้องตามจัดการตรงนั้นครับ....  

         เห็นไหมครับการสะอึกไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้วจริงๆ   ก็ลองสังเกตตนเองและคนใกล้เคียงว่า  "สะอึก"   ด้วยสายพันธุ์ใดกันแน่

         ส่วนของผมที่สะอึกมาข้ามคืนแล้วไม่หายเสียที  ก็ลองตามวิธีการต่างๆ ที่เขาเสนอไว้นั่นแหละครับ  แต่ไม่ทั้งหมด  เอาที่ง่ายๆ ก่อน...  กลั้นหายใจ  กดเหนือริมฝีปาก  กดฝ้าเพดาน  ดื่มน้ำเย็น   หายใจในถุงกระดาษ ฯลฯ...  ก็ยัง เอื๊อกๆ อึ๊กๆ อยู่  พร้อมกๆ กันนั้นก็ไปเจอข้อมูลว่า....

           "การศึกษาชิ้นหนึ่งของมหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา พบว่า การกลืนน้ำตาลทรายเปล่าๆ 1 ช้อนโต๊ะ สามารถแก้อาการสะอึกได้ถึง 19 คน จากจำนวน 20 คน"   

          ผมเลยไปหาซื้อน้ำตาลทรายชนิดเม็ดหยาบๆ มา  จัดการใช้ช้อนโต๊ะตักมาปริ่มๆ ช้อน  ไม่ได้ให้พูนนะ  กลัวหกเรี่ยราด  กะตักเพิ่มเอาทีหลัง ...  ใส่ปากทีละประมาณ  1/3  ของช้อน  แล้วพยายามกลืนลงไป  โดยไม่เคี้ยวน้ำตาล   ทันทีเริ่มอาการดีขึ้น  และ เมื่อหมดช้อน  คือ ครั้งที่ 3/3 ของช้อน  ....  หายเป็นปลิดทิ้ง...

          ... ปลื้ม (ที่หาย) ....  แปลก (ที่ไม่เข้าใจเหตุผลความสัมพันธ์)...

          .... จนวันนี้ก็ปกติดี ....  เป็นไปได้ในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย.... ใครเจอ  เอื้อกๆ อึ๊กๆๆ  ขอให้ลองดูนะครับ..... 

          .... หายหรือเปล่าไม่รับประกัน....  ลางเนื้อชอบลางยา...จ๊า

หมายเลขบันทึก: 481200เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2012 21:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 11:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

ขอบคุณค่ะ ขอนำไปใช้และบอกต่อนะคะ

ยินดีครับ.... ขอบคุณที่เข้ามาให้ความเห็น

น่าสนใจมากเลยครับ ปกติถ้าสะอึกผมใช้วิธีก้มดื่มน้ำ ครับ

...ยังมีอีกวิธี..เจอมากะตัวเอง..กำลังสะอึก..อร่อยๆอยู่..(คือ..สะอึกไม่หยุด..๕๕๕)..เจ้าเพื่อนคู่หู..กระโกนใส่หู..จนชาวบ้านได้ยินหมด...เฮ้ย..เอ็งไป..โขมย..ของใครเขามาวะ..."เท่านั้นเอง...เฮ้ย..อะไรวะ..ทำไมมากล่าวหากัน..ในที่สารธารณะชน....อย่างนี้..พูดไป..พูดมา..กับคำกล่าวหา...กว่าจะจบเรื่อง...(หายสะอึก)..."อ้ายเพื่อนคู่ใจ..บอกว่า..จบแล้ว..เอ็งหาย..สะอึกแล้ว"....ชอบใจ..อิอิ...ไม่เคยสะอึกอีกเลย..อ้ะ...จน..บัดนี้...ยายธี

สุดยอดได้ผลทันทีเลยครับ ผมสะอึกมาสองวัน ลอง search ดูข้อมูลมาอ่าน ขณะอ่านก็เอี๊อก..อึก พออ่านจบ รีบวิ่งเข้าครัว คว้าช้อนมาตักน้ำตาลทรายแดง แค่ 1/3 ช้อน ลงแค่ลำคอเท่านั้นครับ หายเป็นปลิดทิ้ง แต่ก็ทานจนหมดช้อนครับ .......ขอบคุณมากมายครับ ยอด ยอด ยอด บอกต่อครับบอกต่อ

ขอบคุณนะครับที่ให้ข้อมูลดีๆตั้งหลายอย่างและนำไปใช้ได้อีกด้ววย


ขอบคุณมาครับ...ผมสะอึกและเหมือนมีอะไรติดที่หน้าอกมาสองสามวันแล้วกินยากินน้ำยังไงก็ไม่หาย...พอมาอ่านเจอในคอลัมน์นี้ลองกลั้นหายใจและสูดอากาศเข้าออกหลายๆครั้งก็หาย...ขอบคุณอีครั้งครับที่ให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์จริงๆ

ผมลองทุกวืธียังไม่หายเลยคับ อาการสะอึกผมเป็นเฉพาะหน้าหนาว ไอ ทีไร สะอึกทันที

ผมสะอึก มา 4วันแล้วยังไม่หาย เริ่มจากกินยาแก้อักเสบ amk ประมาน 3-4 วัน ยังไม่หาย แล้วเกิสะอึก ต่อเนื่อง ทำงัยจะหาย

ทีเด็ด...น้ำตาลช่วยได้จริงๆครับ ขอบคุณมากๆสะอึกข้ามวันทรมานมาก ตอนนี้หายละขอบคุณจริงๆครับ

แปลกใจตัวเอง…ตื่นเช้ามา ลืมตาปุ๊ป สะอึกปั๊บ ไม่เคยตื่นเช้ามาสะอึกมาก่อน รำคาญสุดๆเลย รีบไปเปิดตู้เย็น เอาน้ำสลัดคลุกๆกินกับทูน่า รสมันจะหวานๆ คิดเออเองว่าหวานจากน้ำตาล……เอิ๊กๆ ก็หายค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท