ระหว่างวันที่ ๑๐ - ๑๒ ก.พ. ๕๕ ผมติดตามคณะ คศน. ในโครงการ Special Studies ไปเยี่ยมชมกิจการ จัดบริการสุขภาพปฐมภูมิเชื่อมโยงกับทุติยภูมิ ที่ รพ. สมเด็จพระยุพราชกุฉินารายณ์ จ. กาฬสินธุ์
ตั้งใจว่าไปหาประสบการณ์ตรงด้านการทำงานของ รพช. (โรงพยาบาลชุมชน) ที่ดี สำหรับเอามาปะติด ปะต่อ หาลู่ทางขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเรียนรู้ของวิชาชีพสุขภาพ ให้บรรลุ Transformative Learning, Systems-Based Education, และ Competency-Based Curriculum ที่คิด competencies ที่ต้องเรียนรู้จาก ความต้องการของระบบสุขภาพ สำหรับใช้ในขบวนการ HPER (Health Professional Education Reform) for 21st Century
แล้วผมก็ไม่ผิดหวัง เพราะ ผอ. รพ. คือ นพ. นพดล เสรีรัตน์ มีจินตนาการของระบบบริการสุขภาพ ปฐมภูมิเชื่อมโยงกับทุติยภูมิที่น่าทึ่งมาก เป็นจินตนาการที่เป็นนวัตกรรม และเกิดผลที่เป็นนวัตกรรมด้วย คือทำให้เกิดการทำงานควบคู่กับการเรียนรู้เป็นทีมสหวิชาชีพที่ไม่มีที่ไหนเหมือน ประกอบกับมือทำงานหรือ หัวหน้าทีมงานคือ นพ. สิริชัย นามทรรศนีย์ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว มีทักษะพิเศษด้านการทำงานเป็นทีม เราจึงได้ไปเห็น Trans-Professional Team ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
เป็น Trans-Professional Team เพื่อการทำงานบริการสุขภาพปฐมภูมิ ครอบคลุมทั้งอำเภอ เชื่อมโยงกับ บริการทุติยภูมิ เป็นเนื้อเดียวกัน โดยที่บริการทุติยภูมิบางด้านให้บริการแก่ประชาชนของอำเภออื่นด้วย เช่นบริการ CAPD (ล้างไต)
เป็นการเชื่อมโยงระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ที่ระบบที่เป็นทางการแยกเป็น ๒ สาย คือสาย สาธารณสุขอำเภอ กับ รพสต. และสาย รพช. เข้าด้วยกัน ให้เป็นเนื้อเดียวกัน
เป็น Trans-Professional Team ที่ทำงานไป พัฒนารูปแบบของการทำงานไป ผ่านการเรียนรู้จากการ ทำงาน ด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ที่ใช้เครื่องมือ KM โดยหมอเอก (นพ. สิริชัย) บอกว่า ในเวลาทำงานวันละ ๘ ชั่วโมง จะใช้เวลา ลปรร. ถึง ๓ ชั่วโมง เป็นทั้ง Learning Team และ Team Learning รูปแบบของบริการปฐมภูมิ ที่อำเภอกุฉินารายณ์จึงมีลักษณะจำเพาะตัว ไม่เหมือนที่อื่น
ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่ง (มีลักษณะจำเพาะหลายด้านมาก) คือการให้บริการแบบมี “หมอเจ้าของไข้” โดยที่ “หมอเจ้าของไข้” อาจเป็นคนในวิชาชีพใดก็ได้ในทีม คืออาจเป็นพยาบาล เภสัชกร นักกายภาพบำบัด หรือนักจิตวิทยา ดังนั้นคนที่เป็นทีมงาน ไม่ว่าจะอยู่ในวิชาชีพใด ต้องเรียนรู้ทักษะเพื่อการทำงานปฐมภูมิที่เป็น ความรู้ของวิชาชีพอื่นเท่าที่จำเป็นด้วย ทีมงานแต่ละคนจึงมี Multi-Professional Skills อยู่ในตัว
ผมไปเห็น leadership แบบนิ่มๆ และใจเย็น ใช้ยุทธศาสตร์ค่อยเป็นค่อยไป แต่ทำต่อเนื่องไม่หยุด ของ นพ. นพดล โดยใช้ภาวะผู้นำออกแบบจุดยุทธศาสตร์ของการเริ่มงานบริการสุขภาพปฐมภูมิที่การดูแลผู้พิการ คู่ไปกับการพัฒนาทีมงานที่มีนักกายภาพบำบัดเป็นกำลังสำคัญ ที่นี่มีนักกายภาพบำบัดถึง ๗ คน
บริการปฐมภูมิต้องรุกออกไปถึงตัวผู้ต้องการบริการ ซึ่งส่วนใหญ่เข้าไม่ถึงบริการที่โรงพยาบาลหรือ สถานีอนามัย นั่นคือการเยี่ยมบ้าน การเยี่ยมบ้านจึงเป็นยุทธศาสตร์การเรียนรู้ของทีมบริการสุขภาพปฐมภูมิ ที่ยิ่งใหญ่ และไม่รู้จบ เพราะเป็นการไปเรียนรู้สภาพจริง ชีวิตจริง ของผู้ป่วยแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันเลย และไปค้นพบผู้ป่วยที่ต้องการการช่วยเหลืออย่างยิ่ง แต่จะไม่มีวันมาที่โรงพยาบาล คือผู้ป่วยโรคจิต ผู้ป่วยที่ไม่มีสถานะ เป็นพลเมืองไทย ผู้พิการเป็นต้น
ผมจึงไปค้นพบเครื่องมือสำหรับ HPER ชิ้นหนึ่งแล้ว คือ การเยี่ยมบ้าน ที่เป็นกิจกรรมร่วมของ นศ. วิชาชีพสุขภาพหลายวิชาชีพ โดยที่พื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้จากการเยี่ยมบ้านน่าจะเป็นพื้นที่ที่มีบริการ ปฐมภูมิเป็นระบบ อย่างที่อำเภอกุฉินารายณ์นี้
จึงนำสู่การค้นพบเครื่องมือ HPER ชิ้นที่สอง คือมหาวิทยาลัยเข้าไปร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และภาคีอื่นๆ ในพื้นที่ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อปท.) เพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิขึ้นภายในอำเภอ ย้ำว่าเครื่องมือ HPER ชิ้นที่สองคือ ความร่วมมือพัฒนาระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิของอำเภอ
โดยที่น่าจะศึกษาระบบ (บริการสุขภาพปฐมภูมิ) ที่ รพ. กุฉินารายณ์พัฒนาขึ้น นำเอาความรู้จาก ประสบการณ์นี้มาพัฒนาระบบให้เหมาะสมกับอำเภอนั้นๆ โดยผมมีความเห็นว่า ลักษณะสำคัญที่น่าชื่นชมยิ่ง ของ “กุฉินารายณ์โมเดล” คือเป็นระบบที่เรียนรู้ หลักการและวิธีการที่ใช้ช่วยทำให้ทีมงานเกิดการเรียนรู้ และผู้บริหารโรงพยาบาลก็เรียนรู้ ที่สำคัญคือ ไม่ใช่แค่เรียนรู้ทางเทคนิกวิชาชีพ แต่มีการเรียนรู้ทักษะทางจิตใจ ทางอารมณ์ หรือการเรียนรู้เติบโตภายใน และผมเชื่อว่า ทำให้ชุมชนได้เรียนรู้ด้วย รวมทั้งเป็นโมเดลของ การสร้างการเปลี่ยนแปลง (change management) แบบ positive change ที่ได้ผลดี น่าสนใจ และน่าชื่นชมมาก
คุณหมอเอกบอกว่า ทีมงานเน้นการนำเอาเรื่องดีๆ มาเล่าเรื่อง แล้วส่วนที่ต้องปรับปรุงก็ตามมาเอง โดยไม่ทำให้สมาชิกรู้สึกเสียหน้าหรือรู้สึกผิด
นักศึกษาวิชาชีพสุขภาพที่ได้เข้าฝึกงานในบรรยากาศแบบนี้ จะได้เรียน Change Agent Skills แบบที่เป็น positive change และได้บรรยากาศหล่อหลอมการเรียนรู้แบบ Transformative Learning และ Trans-Professional Learning โดยไม่รู้ตัว
วิจารณ์ พานิช
๑๒ ก.พ. ๕๕
โรงแรมเกื้อพิมาน อ. กุฉินารายณ์ จ. กาฬสินธุ์
บรรยากาศในห้องประชุมบรรยายสรุประบบบริการสุขภาพปฐมภูมิของอำเภอกุฉินารายณ์ ผู้สวมเสื้อขาวนั่งข้างหลังคือ นศพ. ปี ๔ ของ มมส.
|
นพ. นพดล เสรีรัตน์ ผอ. รพ.
|
นพ. สิริชัย นามทรรศนีย์ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
|
วง BAR ก่อนออกเยี่ยมบ้าน ที่ทีมงานเรียก Pre-Conference
|
เยี่ยมบ้านผู้ป่วยจิตเวชที่ถูกกักขังจนพิการและปัญญาอ่อน
|
ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขของเทศบาลมาร่วมเยี่ยมบ้านด้วย
|
เยี่ยมบ้านคุณยายเป็นเบาหวาน อัมพาต และไร้สัญชาติ
|
เยี่ยมบ้านผู้พิการจากอุบัติเหตุรถยนต์
|
กลับมาทำ AAR ที่ทีมงานเรียก Post-Conference
|
ท่านอาจารย์ฯ ไปถึงบ้านผมเลย เป็นเกียรติมาก
ขอบพระคุณมากครับ
วิชิต