อาหารมื้อใหญ๋ทำร้ายสมอง(ความจำ)เรา

สำนักข่าว BBC ตีพิมพ์เรื่อง Big meals in 'memory loss link' in elderly = "อาหารมื้อใหญ่เพิ่มเสี่ยง (มีความสัมพันธ์กับ) ความจำเสื่อมในคนสูงอายุ", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

.

.

ความสามารถในการจำ-คิด-อ่าน-แก้ปัญหาเสื่อมเล็กน้อย (mild cognitive impairment / MCI) เป็นอาการแสดงแรกเริ่มอย่างหนึ่งของโรคสมองเสื่อม (dementia)

.

ทีมวิจัยจากสถาบันเมโย คลินิก ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างอายุ 70-89 ปี 1,233 ราย, กลุ่มตัวอย่างไม่เป็นโรคสมองเสื่อมชัดเจน ทว่า... 163 รายมีความเสื่อมของสมองเล็กน้อย (MCI)

.

ผลการศึกษาพบว่า การกินอาหารกำลังงานสูง (high calorie diet) ในช่วง 2,142.5-6,000 แคลอรี/วัน เพิ่มเสี่ยง MCI มากเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับอาหารกำลังงานต่ำ ในช่วง 600-1,526 แคลอรี/วัน

.

อาหาร 3 กลุ่มที่ให้กำลังงาน (แคลอรี) ได้แก่

.

(1). คาร์โบไฮเดรต (คาร์บ) = ข้าว แป้ง น้ำตาล

.

(2). ไขมัน น้ำมัน

.

(3). โปรตีน เช่น เนื้อ นม ไข่ ฯลฯ

อ.ดร.โยนาส เกดา นักวิจัยแนะนำว่า การกินอาหารสุขภาพพอประมาณ หรือไม่กินมากเกิน เป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งของการถนอมสมอง และความจำให้ดีไปนานๆ

.

วิธีป้องกันความจำเสื่อม หรือลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ ที่สำคัญได้แก่ [ NIH ]

.

(1). ไม่สูบบุหรี่ และไม่หายใจควันบุหรี่ที่คนอื่นสูบ (บุหรี่มือสอง) เข้าไป เช่น ไม่เข้าห้องแอร์ที่มีคนสูบบุหรี่ โดยเฉพาะไนท์คลับ ผับ บาร์ ฯลฯ

.

คนรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาและทันสมัย เช่น อาจารย์หมอฟัน พยาบาล เภสัชกร หมอ ฯลฯ สูบบุหรี่น้อยลงมาก ทำให้บุหรี่เป็น "กลิ่นของความยากจน-ล้าหลัง" มากขึ้นเรื่อยๆ

.

(2). ใช้ชีวิตแบบ "แอคทีฟ (active)" หรือ "ถีบ" เข้าไว้ได้แก่ ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ ไม่อยู่นิ่งนาน เช่น ไม่นั่งนานเกิน 1-2 ชั่วโมง/ครั้ง โดยอาจตั้งปลุกด้วยโทรศัพท์มือถือเตือนให้ลุกเดินไปเดินมา ดื่มน้ำ ปัสสาวะ ฯลฯ

.

(3). ตรวจเช็คความดันเลือด, ถ้าสูง... ควรรักษาให้ต่อเนื่อง

.

(4). ตรวจเช็คน้ำตาลในเลือด, ถ้าสูง... ควรควบคุมอาหาร และรักษาให้ต่อเนื่อง

.

(5). กินอาหารที่มีโอเมกา-3 เช่น ปลาที่ไม่ผ่านการทอด น้ำมันปลา ฯลฯ, ถ้ากินมังสวิรัติ... ควรกินถั่วที่ไม่ผ่านการทอด หรือนัท (nuts) เช่น อัลมอนด์ ฯลฯ

.

(6). ถ้ามีอาการซึม เศร้า เหงา เซงนาน... ให้ทำแบบทดสอบซึมเศร้า, ถ้าพบเป็นกลุ่มเสี่ยงซึมเศร้า... ควรรักษา และหาทางออกแรง-ออกกำลังกลางแจ้ง หรือรับแสงแดดอ่อนตอนเช้า 10-15 นาทีเป็นประจำ

.

ฝรั่งใช้กล่องแสง หรือเข้าไปในอยู่ในห้องที่มีแสงจ้า 10-15 นาทีตอนเช้าช่วยลดซึมเศร้าหน้าหนาวได้มาก

.

(7). ใช้สมองในทางสร้างสรรค์ เช่น ลดการนินทาว่าร้ายคนอื่น เรียนภาษา-ความรู้-ความชำนาญใหม่เป็นประจำ ฯลฯ

.

(8). ฝึกมองโลกในแง่ดี-ลดมองโลกในแง่ร้าย... อย่างน้อยควรกล่าวคำ "ขอบคุณ-ขอบใจ-ขอโทษ" ให้ได้ 1 ครั้ง/วัน และค่อยๆ เพิ่มเป็น 3 ครั้งหลังอาหาร

.

คำ "ขอบคุณ-ขอบใจ-ขอโทษ" ช่วยน้อมใจตัวเราและคนรอบข้างไปสู่ความเมตตาหรือกรุณา... ใครกล่าวคำนี้ได้บ่อยจะเป็นคนน่ารัก น่าคบ น่าเชื่อถือ น่าไว้วางใจ และเพิ่มโอกาสได้รับการให้อภัยเมื่อทำอะไรผิดพลาด

.

คนสูงอายุที่ถูกทอดทิ้งส่วนใหญ่จะมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญ 2 อย่างได้แก่ เป็นโรคทรัพย์จาง และขี้บ่น-จู้จี้จุกจิก

.

การไม่เป็นหนี้เกินตัว ไม่ค้ำประกันหนี้คนอื่น ออมทรัพย์ตั้งแต่อายุน้อย และลงทุนอย่างรอบคอบ เช่น ซื้อประกันสะสมทรัพย์ธนาคารออมสิน เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ฯลฯ (ถ้าซื้อจากบริษัทที่มีนายหน้า อาจเสียเงินแฝงไปกับค่านายหน้ามากถึง 35-40% ในปีแรก ฯลฯ) มีส่วนช่วยป้องกันโรคทรัพย์จางได้

.

คนสูงอายุที่มีสุขภาพดี มีเมตตาต่อลูกหลาน เป็นกำลังสำคัญในการสร้างคนรุ่นใหม่, การป้องกันโรคสมองเสื่อมตั้งแต่อายุน้อยจะช่วยลดความเสี่ยง หรือป้องกันโรคสมองเสื่อมได้มากเช่นกัน

. 

ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

.

> [ Twitter ]

• Thank BBC source > Annual meeting of the American Academy of Neurology.
• นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 16 กพ.55. ยินดีให้ท่านนำบทความไปใช้ได้ โดยอ้างที่มา และไม่ใช้เพื่อการค้า > CC: BY-NC-ND.
• ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค; ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.