หนีเที่ยวแจ้ซ้อน.. หน้าร้อน


ขับรถกลับจากดู "ดอกเสี้ยวบาน" ที่บ้านป่าเหมี้ยง http://www.gotoknow.org/blogs/posts/480563

เราลัดเลาะลงเขาเส้นทางเดิมมาที่ "อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน" ประมาณ ๑๔ กิโลเมตร (ขาลงแป๊บเดียวเองค่ะ ไม่เหมือนตอนขึ้นเขา) ติดต่อกับเจ้าหน้าที่เสร็จ ก็ขับรถขึ้นเขาอีกนิด เข้าที่พัก "บ้านคำแดง" เป็นที่สิงสถิตของแปดสาวคืนนี้.. มี ๒ ห้องนอน ๑ ห้องโถง (๘ เตียงนอน) ๑ ห้องน้ำ ด้านหลังมีนอกชานยื่นออกไปสู่ป่ากว้าง..

kunrapee ชอบบริเวณนี้ที่สุด กะว่าคืนนี้จะนอนดูดาวซะหน่อย แต่ไม่ได้ดั่งใจคิด เพราะต้นไม้เยอะมาก ปกคลุมไปทั่วชานบ้านเลย เห็นดวงดาวนิดเดียว แต่ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบค่ะ

เราแวะซื้อขนมขบเคี้ยว มาม่า และไข่ไก่-ไข่นกกระทา เตรียมเอาไปต้มในบ่อน้ำพุร้อน (อุณหภูมิสูงสุด ๘๒ องศาเซลเซียส)

บ่อน้ำพุร้อนที่แจ้ซ้อน.. เป็นบ่อธรามชาติอยู่กลางแจ้ง มีหินรูปทรงต่างๆ โขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป สามารถเดินลัดเลาะเข้าไปเที่ยวได้ มีกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ และมีไอน้ำลอยขึ้นมาจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณทั้งวัน

ห้องอาบน้ำแร่ มีแบบห้องแช่ส่วนตัว แยกชายหญิงอย่างเป็นสัดส่วน มีหลายห้องไม่ได้นับค่ะ, ห้องรวม ๑ ห้อง, สระน้ำแร่กลางแจ้ง เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. ในวันหยุดเปิดตั้งแต่ 06.00 – 19.00 น. อุณหภูมิของน้ำแร่ที่ใช้อาบประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส น้ำแร่ที่ใช้แช่อาบต่อตรงมาจากบ่อพักน้ำแร่ลานน้ำพุร้อน สาวๆในทีมของเราไปแช่ตัวกันตั้งแต่เช้า กลับมาตัวแดงเถือกไปหมด

อากาศที่นี่เย็นสบายค่ะ ไม่ร้อน ป่ายังสมบูรณ์ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ที่สวยงามและมีชื่อเสียงหลายแห่งเช่น น้ำตกแจ้ซ้อน น้ำตกแม่เปียก น้ำตกแม่ขุน น้ำตกแม่มอญ แอ่งน้ำอุ่น ถ้ำผางาม ถ้ำน้ำ ถ้ำหม้อ แต่เราไม่ได้ไปซักแห่ง อิอิ (เอาไว้ครั้งหน้าค่อยเก็บรายละเอียดสถานที่ต่างๆมาฝากนะคะ ครั้งนี้ขอแค่ Survey ก่อนละกัน)

อ้อ.. ที่นี่มีบริการนวดแผนโบราณ ไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกด้วย และมันแน่นอนอยู่แล้ว.. ที่ทีมของเรา ๕ ใน ๘ คนได้ทดสอบฝีมือการนวดมาแล้ว สบายตัวเบาหวิวไปตามๆกัน หุหุ (ไม่รู้ว่าฝีมือการนวดจะเท่าฝ่ายแผนไทยของรพ.สูงเนินมั๊ย!)

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ได้รับ ”รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (Tourism Awards) อุทยานแห่งชาติดีเด่นประจำปี 2543″ เมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา.. ถึงเวลานี้หลายอย่างยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่.. อยากให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้แวะเที่ยวกัน หลีกหนีจากความวุ่นวายของตัวเมือง มาสู่ความเงียบสงบ ป่าเขาลำเนาไพร มาสู่ตัวตนของตนเอง อาจทำให้ได้คิดอะไรหลายอย่าง

บันทึกต่อไปของ trip นี้ก็ต้องเป็นที่พัก

คืนที่สองของเราค่ะ "Doi Khuntan"

อย่าลืม.. ติดตามตอนต่อไปนะคะ

หมายเลขบันทึก: 480839เขียนเมื่อ 3 มีนาคม 2012 14:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม 2013 21:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ด้องขออนุญาตทั้ง ๗ สาวด้วยนะคะ

ที่แอบเอารูปมาลง..

สบายเนาะ เหนื่อยจากนั่งรถ ท่องเที่ยวทั้งวัน ก็มานอนนวดกันต่อ

ฝีมือนวดเป็นไงบ้าง ?

สบายๆ สไตล์คนชอบเที่ยว.. ชอบถ่ายภาพ.. ชอบ..

ฝีมือหมอนวดเป็นไง.. ไม่รู้ เพราะไม่ได้นวด

ต้องถามพี่เปีย, พี่ป้อม, หมิซิม, สาวออม, สาวจ๋า

 

ฝีมือนวดโอเคมากคะ สบายตัวเลยทีเดียวคะ

ต้องมาอีกครั้งหน้าหนาว... ภาพจะสวยกว่านี้นะ... ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆ ทุกคนจ้า...

สวัสดีค่ะ

บรรยากาศผ่อนคลาย สบายๆ น่าเที่ยวชมมากค่ะ

ขอบคุณค่ะ

หน้าหนาว.. น่าจะโอเคมากๆเลยนะคะ "พี่เปีย"

วางแผนปลายปี ไว้เลยดีมั๊ยนี่ อิอิ

การเที่ยว คือการพักผ่อน

ฉะนั้นเราต้องไม่เหนื่อย ไม่เพลีย หลังจากได้ท่องเที่ยว

แถมต้องมีความสุขทุกครั้ง..

เมื่อย้อนกลับไปนึกถึงบรรยากาศขณะนั้น

จริงป่าวคะคุณ "ถาวร"


 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท