ทีมพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยเบาหวานโรงพยาบาลพิมายมีแนวคิดที่จะพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยเบาหวานให้ครอบคุลมผู้ป่วยเบาหวานทั้งหมดในคลินิก ในลักษณะบูรณาการควบคู่กับกระบวนการคัดกรอง และตรวจรักษาตามปกติในคลินิกโรคเบาหวาน โดยการจัดทำนวตกรรม สื่อที่ใช้ในการสอนแนะนำแก่ผู้ป่วยเป็นรายกรณีโดยใช้นวตกรรม “กราฟชีวิตลิขิตเบาหวาน” ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยรับทราบถึงระดับน้ำตาลในเลือด ภาวะสุขภาพในปัจจุบัน แนวโน้มของภาวะสุขภาพและโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ซึ่งจะมีความต่างกันในแต่ละราย รวมทั้งเป็นสื่อในการให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมาย การปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลให้ผู้ป่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ซึ่ง แนวคิดในการจัดทำนวตกรรมนี้ ทีมพัฒนาฯ ได้ แนวคิดมาจากการดูดวงในลักษณะ กราฟชีวิต ที่เห็นแนวโน้ม ดวงของตนเอง รวมทั้งมีคำแนะนำในการแก้ดวง ที่ กระตุ้นให้เกิดความตระหนักในการที่ จะดูแลสุขภาพของตนเอง โดยสอดแทรก พุทธสุภาษิต ที่ เป็นมงคลกับชีวิต ไปด้วย
โดยสื่อนี้ใช้บอกค่าระดับน้ำตาลในเลือด บอกโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน และวิธีการ ดูแลตนเอง ทั้งนี้ นวตกรรมกราฟชีวิตลิขิตเบาหวาน ประกอบไปด้วยแผ่นกราฟสำหรับจุดค่าน้ำตาลในเลือดในแต่ละครั้ง และดูแนวโน้มโดยใช้กราฟเส้น มีแถบสีชี้บ่งระดับน้ำตาลในเลือด และอธิบายความหมายของระดับน้ำตาลโดยใช้แถบสี 4 สี คือ
ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับที่สูงมาก (FBS 200 mg% ขึ้นไป) ค่าระดับน้ำตาลในเลือดกราฟจะตกอยู่แถบสีชมพู
ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์สูงปานกลาง (200 ≤ FBS ≥ 130 mg%) ค่าระดับน้ำตาลจะตกอยู่ในพื้นที่แถบสีเหลือง
ค่าระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ดี (130≤ FBS ≥ 90 mg%) ค่าระดับน้ำตาลในเลือด
จะตกอยู่ในพื้นที่แถบสีเขียว
ค่าระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปกติ (FBS≤ 80 mg%) ค่าระดับ น้ำตาลในเลือดจะตกอยู่ในพื้นที่แถบสีเทา
นอกจากนี้ในส่วนของแผ่นกราฟจะระบุความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน และมีการประเมินผลอธิบายระดับน้ำตาลในเลือด วิธีการปฏิบัติตัวในแต่ละแถบสี นอกจากนี้ยังมีเอกสารประกอบเป็นคำ
ทำนาย ซึ่งทบทวนจากบทพุทธภาษิต และนำมาประยุกต์ใช้เป็นคำทำนายระดับน้ำตาลในเลือดความ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน คำแนะนำที่เป็นการกระตุ้นเตือนการปฏิบัติการดูแลตนเอง วิธีแก้ ดวง/ป้องกันความเสี่ยง สิ่งที่เป็นมงคลที่ควรปฏิบัติ สิ่งที่เป็นกาลกิณี เป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง
ประโยชน์การนำไปใช้
ด้านผู้ป่วย
1. ผู้ป่วยเบาหวานรับรู้ถึง ภาวะสุขภาพของตนเอง ในปัจจุบัน เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่งผู้ให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
2. ผู้ป่วยเบาหวานรับรู้ถึง โอกาสเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน ของโรคเบาหวาน
3. ผู้ป่วยเบาหวานจำระดับน้ำตาลในเลือดของตนได้ว่าอยู่ในระดับใด โดยจดจำจากระดับสี
4. เกิดการกระตุ้นการรับรู้ ถึงภาวะเสี่ยงจากโรคเบาหวานจากสี ส่งผลให้เกิดการควบคุมระดับ น้ำตาลในเลือด
5. ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการตั้งเป้าหมายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ด้านเจ้าหน้าที่
1. มีสื่อในการบอกระดับน้ำตาลในเลือด แก่ผู้ป่วยเบาหวานที่ทำให้เห็นภาพชัดเจน ถึงแนวโน้ม เกิดภาวะเสี่ยงจากโรคเบาหวาน
2. ใช้เป็นสื่อร่วมในการตั้งเป้าหมาย ของผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
3. ลดระยะเวลาการตรวจผู้ป่วยแต่ละราย เนื่องจากมีคำอธิบายและคำแนะนำการปฏิบัติตนแก่ผู้ป่วยเบาหวาน ที่เป็นเฉพาะรายที่ตรงประเด็นปัญหารายกรณี
4. มีสื่อให้คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
น่าสนใจมากค่ะ