การปรับเงินเดือนให้กับข้าราชการ จำนวน 90,000 คน จะต้องใช้งบประมาณทั้งสิ้น 170 ล้านบาท โดยจะปรับเงินเดือนย้อนหลังให้ตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา ดังนั้น จึงได้ให้ทุกหน่วยงานไปสรุปตัวเลขที่แน่นอนมาอีกครั้ง เพราะตอนนี้บางหน่วยงานยังสำรวจตัวเลขตกหล่นอยู่ เมื่อได้ข้อมูลที่แน่นอนแล้วสำนักงานปลัดฯก็จะรวบรวมเสนอ รมว.ศธ.ภายในวันศุกร์ ก่อนชงเข้าพิจารณาในบอร์ค กคศ.วันจันทร์ที่ 13 ก.พ.นี้ เพื่อนำเสนอเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป” น.ส.ศศิธารา กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม การปรับเงินเดือนให้กับครู คศ.2 นั้น จะทำให้ครูกลุ่มนี้เงินเดือนชนเพดาน จึงจะไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน ประจำปีอีก เพราะถือว่าเงินเดือนตันแล้ว เพราะฉะนั้น จะเสนอ ก.ค.ศ.ให้ครูที่เงินเดือนชนเพดาน คศ.2 ที่มีอยู่ทั้งหมด จำนวน 51,237 คน โดยกลุ่มนี้สามารถเลื่อนไหลไปใช้แท่งเงินเดือน คศ.3 ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะต้องใช้เงินจำนวน 455 ล้านบาท ปกติแล้วครู คศ.2 นี้ จะเป็นกลุ่มครูที่มีวิทยฐานะชำนาญการจะต้องทำผลงานเลื่อนวิทยฐานะเป็นชำนาญ การพิเศษก่อนจึงจะสามารถไปใช้แท่งเงินเดือน คศ.3 ได้แต่กรณีนี้จะขอให้บอร์ด ก.ค.ศ.ผ่อนผันให้ แต่เจ้าตัวจะได้ใช้แค่แท่งเงินเดือนของ คศ.3 เท่านั้น ส่วนวิทยฐานะจะยังคงใช้วิทยฐานะเดิมไม่ได้เลื่อนไหลโดยอัตโนมัติตามแท่งเงิน เดือน
ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ศธ.เตรียมที่จะปรับเพิ่มเงินเดือนให้ครูโรงเรียนเอกชนด้วย จากข้อมูลในปัจจุบันพบว่า ครูเอกชนที่จบปริญญาตรี มีจำนวน 140,000 คน รับเงินเดือนอยู่ระหว่าง 8,340 บาท ถึง 11,680 บาท โดยในส่วนของเงินเดือนนั้น รัฐจะอุดหนุนให้ประมาณ 9,000 บาท และให้โรงเรียนออกเองประมาณ 800 บาท เพราะฉะนั้น จึงได้มอบให้ทาง สช.ไปศึกษา ว่า หากจะปรับเพิ่มเงินเดือนครูเอกชนเป็น 15,000 บาท แล้วแต่ละฝ่ายจะต้องควักเงินเพิ่มอีกเท่าไร อย่างไรก็ตาม โรงเรียนเอกชนที่จะเข้าร่วมนโยบายปรับเพิ่มเงินเดือนได้นั้นจะต้องมีจำนวน นักเรียนต่อครูไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ คือ 1 ต่อ 25 ในระดับประถม และ 1 ต่อ 20 ใน ระดับมัธยม
ทั้งนี้ ตนได้มอบให้ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ไปรวบรวมข้อมูล และสรุปรายละเอียดเพื่อเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการ ภายใน 2 วัน ก่อนจะนำเข้าพิจารณาในบอร์ด สช.ซึ่งจะมีการประชุมในวันศุกร์ที่ 10 ก.พ.นี้ แต่กว่าขั้นตอนจะเรียบร้อยทุกอย่างครูเอกชนก็น่าจะได้ปรับเงินเดือนในเดือน มีนาคมนี้
ไม่มีความเห็น