การเข้ามาของความสะดวก สบาย และเทคโนโลยีใหม่ ส่งผลดีต่อความเป็นเมืองจริงหรือ
การเข้ามาของความสะดวก สบาย และเทคโนโลยีใหม่ ส่งผลดีต่อความเป็นเมืองจริงหรือ
ความเจริญเติบโตขึ้นของเมือง เป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนา การพัฒนาที่ประสบผลสำเร็จวัดได้จากการเจริญเติบโตขึ้นของเมือง ผู้คนในเมือง เศรษฐกิจและการเข้าถึงของเทคโนโลยีต่างๆมากมาย การพัฒนาเมืองให้ไปสู่ความเจริญนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่เข้ามารับบทบาทหน้าที่ในการบริหารเมือง แต่สิ่งที่เข้ามาเพื่อพัฒนาความเป็นเมืองนั้นก็ไปส่งผลกระทบต่อ วิถีชีวิตของคนเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น สังคม ความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ภาษา ความคิด สิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนไปจากเก่าก่อนที่เมืองจะเจริญเติบโต การเข้ามาของเทคโนโลยี ความสะดวกสบายในหลายๆด้าน เกิดจากการพัฒนาจากชุมชนชนบทไปเป็นชุมชนเมือง โดยสิ่งเหล่านี้ที่เข้ามาจะส่งผลกระทบทั้งด้านดีและด้านเสีย ซึ่งก็เป็นส่วนดีที่ชุมชนเกิดการพัฒนา เพราะการพัฒนาจะทำไปสู้ความเจริญ เมื่อเจริญจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนดีไปด้วย นั้นเป็นแนวคิดของความเป็นเมืองซึ่งมันก็ไม่แน่เสมอไป สำหรับสังคมของคนไทยนั้นมีความแตกต่างมากกับสังคมชาวยุโรป ผู้ซึ่งคิดค้นแนวคิดและทฤษฎีต่างๆเกี่ยวกับการเป็นเมือง จึงเรียกได้ว่าสังคมไทยไม่สามารถใช้ทฤษฎีได้ทั้งหมด ยังมีบางอย่างที่คนไทยยังปรับตัวให้เหมือนชาติยุโรปไม่ได้ โดยดูได้จากเมืองแต่ละเมืองในประเทศไทยที่มีความสะดวกสบายมีเทคโนโลยีเข้าถึง ดูเผินๆแล้วก็อยู่ในรูปแบบดีแต่ จริงๆแล้วเต็มไปด้วยปัญหาต่างๆมากมายเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนในเมืองนั้น และปัญหาที่มาพร้อมกับการเป็นเมือง
ความสะดวก ความสบาย ที่เข้ามาทำให้ชุมชนจากระดับรากเหง้ากลายเป็นชุมชนเมืองนั้น ดีจริงหรือ แล้วจะวัดได้จากอะไรกัน ข้อมูลด้านเศรษฐกิจของเมือง ยอดเงินเฉลี่ยของประชาชนต่อหัว หรือสังคมที่เปลี่ยนไป วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งบอกถึงความเปลี่ยนแปลงเมื่อเกิดการพัฒนาไปเป็นเมือง เมือเกิดเมืองก็เกิดอาชีพใหม่ เช่นลูกจ้าง รับจ้าง ฯลฯ และการว่างงานซึ่ง ก่อนการเป็นเมืองนั้นการว่างงานจะไม่มีเพราะ ผู้คนอาศัยอยู่ในพื้นที่ทำกินของตน ไม่มีการทำสัมปะทาน ไม่มีการสร้างถนนใหญ่ๆ มีชุมชนแบบพึ่งตนเองเป็นครอบครัวใหญ่ ดูแลซึ่งกันและกันแต่เมือความเจริญเข้าถึงก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลง จากครอบครัวใหญ่ก็เป็นครอบครัวเดี่ยว เพราะแยกออกมาทำงาน และไม่ได้ทำงานในพื้นที่ของตนเพราะได้ขายเพื่อทำถนน สร้างตึกรางบ้านช่อง ขายแกนายทุน แล้วไปหางานอื่นทำแทน ทำให้ไม่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง
อินเตอร์เน็ต (Internet) คำฮิตติดปากของทุกเพศทุกวัยที่กำลังกลับกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างรวดเร็วเกินคาด อินเตอร์เน็ตเป็นระบบเครือข่าย (Network) ที่เชื่อมโยงเครือข่ายมากมายหลากหลายเครือข่ายเข้าด้วยกัน อินเตอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีข้อมูลในทุกๆด้านให้ผู้ที่สนใจเข้าไปค้นคว้าหามาใช้ได้อย่างสะดวก,รวดเร็ว,และง่ายดาย(สิทธิชัย ประสานวงศ์2541,หน้า.3) เข้ามามีบทบาทมากแต่เมื่อเข้ามาแล้วก็นำทั้งผลดีและผลเสียโดยผลดีของการเข้ามาของอินเตอร์เน็ตจะช่วยให้เด็กและเยาวชนรุ่มใหม่ที่ใฝ่ใจศึกษาได้ทันโลกทันเหตุการณ์ รู้ความเปลี่ยนแปลงของข่าวสารต่างๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ อีกทั้งยังเป็นช่องทางในการศึกษาต่อของผู้ที่สนใจ รักการเรียนเพราะอินเตอร์เน็ตสามารภเป็นสื่อที่ช่วยให้คนที่สนใจในเรื่องในได้หาทางหรือวิธีการทำโดยไม่ต้องไปทำถึงที่ๆจัดให้ทำอย่างเช่นการศึกษาเรียนต่อก็สมัคผ่านทางอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องหาหนทางไปสมัคที่สถานที่ศึกษานั้นอีกอย่างก็คือ อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อในการค้นหาความรู้รอบตัว เป็นเหมือนห้องสมุดใหญ่ๆห้องหนึ่งแต่ต้องใช้ความสามารถในการค้นหาถึงจะเจอสิ่งที่ค้นหน้านี้คือผลดีของการเข้ามาของอินเตอร์เน็ตรวมๆแล้วส่งผลดีชุมชนแน่นอนเพราะเป็นการพัฒนาศักยภาพของคนในชุมชน แต่เมื่อมีได้ก็ต้องมีเสีย เมื่อมีข้อดีผลเสียก็ตามมาด้วยเช่นกัน คือปัญหาที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต คือการเลียนแบบเพราะอินเตอร์เน็ตเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยทันยุคทันเหตุการณ์ ไม่ว่าอยากดูอะไรก็สามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ต เกิดปัญหาเด็กเยาวชนติดเกม โดดเรียน นี้คือปัญหาที่เกิดจากการเข้ามาของเทคโนโลยีแล้วส่งผลต่อการพัฒนา
การเข้ามาของถนน 4 เลนซึ่งมีความสะดวกในการเดินทาง ติดต่อ หรือค้าขาย ทำให้มีการเข้ามาลงทุนทำธุระกิจต่างๆมากมายอย่างเช่นทำห้างสรรพสินค้า ร้านขายรถมอเตอร์ไซ โชว์รูมรถ และบริษัทเอกชนต่างๆจะเข้ามาเพราะเมื่อมีเส้นทางการค้าที่สะดวกแล้วก็ย่อมส่งผลดีต่อการลงทุน และส่งผลให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ในอีกรูปแบบหนึ่งคือสะดวกขึ้น สบายขึ้น ทั้งการคมนาคมเดินทางไปต่างที่ต่างถิ่น การเดินทางไปหามาสู่กันภายในชุมชน แต่ในทางกลับกันก็ส่งผลกระทบต่อการให้ความร่วมมือของคนในชุมชนเมื่อมีถนนมาผ่าขั้นกลาง การพัฒนาก็จะไม่ทั่วถึงคนที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองก็จะได้รับการพัฒนาที่น้อยทำให้คนในชุมชนไม่ให้ความร่วมมือในการพัฒนา แล้วเมื่อเมืองมีความเจริญเติมโต คนต่างถิ่นก็เริ้มเข้ามาอาศัย มาหางานทำ ทำให้เกิดความแปลี่ยงแปลงด้านวัฒนธรรม และภาษาต่างถิ่นทำให้ภาษาเดิมเริ้มที่จะหายไป คนดั้งเดิมเริ้มที่จะห่างและหายไป เมื่อการพัฒนาความเป็นเมืองถึงขีดสุด วัฒนธรรมท้องถิ่น วิถีชีวิตที่มีดั้งเดิมก็จะหายไปจนหมด
ดั้งนั้นความเป็นเมืองจึงไม่ได้ส่งแต่ผลดีเท่านั้นแต่ส่งผลเสียอีกมากมายด้วย ฉะนั้นการพัฒนาที่มุ้งผลสำเร็จสู่ความเป็นเมืองนั้น ควรที่จะปรับรูปแบบใหม่ ให้เข้ากับวิถีชีวิตคนในชุมชนดั้งเดิม เพื่อรักษาวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และรักษาวิถีชีวิตของคนในชุมชนให้อยู่รอดไปพร้อมกับการพัฒนาด้วย ไม่ต้องนำแนวคิดหรือทฤษฎีมาใช้ทั้งหมด แต่ให้ปรับใหม่ ให้เข้ากับสังคมของคนไทย เน้นรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิม โดยการปลูกจิตสำนึกให้รักบ้านเกิดกับคนในชุมชนเสียก่อน การพัฒนาจึงจะเดินไปด้วยความเจริญที่จะไม่เกิดปัญหาที่มาพร้อมกับการพัฒนาและปัญหาที่จะเกิดขึ้นใหม่ก็จะสามารถแก้ได้โดยง่าย เมื่อคนมีส่วนร่วมกันในการพัฒนา
อ้างอิง
สิทธิชัย ประสานวงศ์.2541.Internet ปฏิบัติ Netscape Commnicator4,ซอฟท์เพรส์;กรุงเทพฯ
ปฐม ทรัพย์เจริญ.2553.สังคมวิทยาเมือง,สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง;กรุงเทพ
ความเห็น (24)
เป็นบทความที่น่าสนใจ มีสาระ เนื้อหาที่ชัดเจน และเป็นเรื่องใหม่ที่น่ารู้
คนถ้าร่วมมือกัน ปัญหาในการพัฒนาต่างๆก็สามารถแก้ไขได้ครับ
ขอบคุณครับๆๆๆๆๆๆสำหรับคอมเม้น ติชมได้ครับๆๆๆ
เป็นการเขียนครั้งแรกอาจมั่วไปหน่อย ขอคำติชมด้วยครับจะได้เอาไปพัฒนาต่อไป
มีคำผิดบ้างนะ แล้วก็ใช้คำว่า เมือง เยอะมากๆ พออ่านไปแล้วเลยเริ่มงงๆมั่งอ่า แล้วก็ พี่น่าจะลองอ้างอิงข้อมูลงานวิจัย หรือผลสำรวจความคิดเห็นใส่ไว้ด้วย จะได้เพิ่มความน่าเชื่อถือของบทความ สู้ๆค่า ^^
น่าสนใจมากเลยค่ะ
อ่าครับ เขียนจากประสพการในการลงไปฝึกงานมาจร้า เลยไม่มีข้อมูลอืนมาอ้างอิง คนทำงานแบบนี้จะรู้เรื่องนี้ครับ
"การพัฒนาที่มุ้งผลสำเร็จสู่ความเป็นเมืองนั้น ควรที่จะปรับรูปแบบใหม่ ให้เข้ากับวิถีชีวิตคนในชุมชนดั้งเดิม" เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะการพัฒนาของเราเน้นรับเข้ามาอย่างเดียว โดยไม่ค่อยดูว่าเข้ากับวิถีชีวิต สังคมและวัฒนธรรมของคนไทยได้หรือไม่ และคนส่วนใหญ่ก็มักไหลไปตามกระแสของความนิยมใหม่ๆที่เข้ามา จนหลงลืมสิ่งดีๆที่เรามีและเคยเป็นอยู่ บทความนี้นำเสนอในหัวข้อที่น่าสนใจมากเลยค่ะ แต่อยากให้ช่วยแจกแจงข้อดี ข้อด้อยเป็นเรื่องๆไปพร้อมกับนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในแต่ละเรื่อง จะทำให้บทความน่าสนใจขึ้นเยอะเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ
ขอบคุณครับ สำหรับคำติและคำชอบ จะเอามาแก้ไขในการทำครั้งต่อไปครับ
บทความน่าสนใจ ให้แง่คิด+สาระดีค่ะ
เทคโนโลยีมันให้ทั้งความสะดวกสบาย และบางครั้งก็มาพร้อมกับโทษ หากแต่เราจะนำไปพัฒนาในแนวทางไหนนั่นเอง
บทความนี้น่าสนใจดีนะคะ สะท้อนสิ่งที่คนทั่วไปอาจลืมนึกถึงไปแล้ว
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นนะครับๆๆๆๆ
บทความนี้กำลังจะบอกพวกเราที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้ดีมากเลยครับ ทั้งใน่แง่ของการเจริญเมืองแต่ไม่ควบคู่ไปกับวัฒนธรรมดั้งเดิมที่มีึอยู่ในชุมชน ดังนั้นนักพัฒนารุ่นใหม่อย่างเราควรเห็นในจุดนี้เหมือนดังบทความของคุณ ชลธิศที่ได้กล่าวไว้ ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ อันนี้
การทีมีการพัฒนา มักจะนำสิ่งใหม่ และมักจะมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง
เมื่อมีการพัฒนาที่ก้าวหน้ามากขึ้นก็ย่อมนำมาซึ่งความสะดวกสะบายทำให้คนในชุมชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพราะในปัจจุบันทีเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น
เนื้อหาน่าสนใจ แต่ควรตรวตดูคำที่พิมพ์ผิด เช่น เจริญเติบโต (พิมพ์ผิดอยู่หลายครั้ง) และควรเรียบเรียงเนื้อหาที่มีความสำคัญมากสุดไปน้อยสุด และตรงสรุปพยายามรวบเอาประเด็นสำคัญมาพูดให้มากเท่าที่ทำได้ ภาพรวมถือว่าโอเค
ขอเสนอแนะอีกหน่อย ตรงที่เขียนว่า"จากชุมชนรากเหง้า" ควรเปลี่ยนเป็น "ชุมชนระดับรากหญ้า" น่าจะดีกว่านะ
ปล.ติมากเกินไปไม่ว่ากันนะ อยากให้งานออกมาดีที่สุด
ครับ ติ ได้เต็มที่เลยครับจะได้เป็นแนวทางแก้ไข่ในงานชิ้นต่อไป ขอบคุณทุกๆๆคอมเม้นๆมากๆเลยครับๆๆ
อืม เห็นด้วยค่ะ ถ้าเราสามารถพัฒนาไปพร้อมๆกับรักษาความเป็นเราไว้ได้โดยไม่ตามเขาไปซะหมดนี่น่าจะดีมากๆเลยนะคะ
อภิสิทธิ์ พงศ์สุชาติ john
เป็นบทความที่ให้เนื้อหาสาระดี สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานการพัฒนาชุมชนได้ต่อไปในวันข้างหน้า
ความทันสมัยและสะดวกสบายมีทั้งโทษและประโยชน์แต่ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้
เป็นบทความที่เขียนได้ดีครับ...เทคโนโลยีมาพร้อมกับความเจริญรุ่งเรือง แต่เราก็ต้องศึกษาให้ดีด้วยครับว่าชุมชนนั้นเหมาะสมกับเทคโนโลยีนั้นๆหรือไม่ครับ
เป็นบทความที่ดีเข้าใจง่ายสามารถนำไปปรับใช้ในงานพัฒนาชุมชนได้ ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่าน
การใช้เทคโนโลยีให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องใช้ให้ถูกต้องและถูกวิธี เป็นบทความที่น่าสนใจครับ