ผมมีโอกาสเข้าไปเกี่ยวดองหนองยุ่ง (สำนวนคุณนิติภูมิ) กับแวดวงการศึกษามากพอสมควร เคยเป็นรองคณบดี อาจารย์พิเศษ คณะกรรมการสภาวิชาการ คณะกรรมการสภาวิทยาลัย อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เป็นต้น และทำให้ได้มีโอกาสได้ร่วมเรียนรู้กับงานในแต่ละหน้าที่ เป็นประโยชน์ในการนำไปใช้ทำเรื่องการพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพมาก
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๘ คณะแพทยศาสตร์ มหวิทยาลัยนเรศวร ได้เปิดความร่วมมือผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบทที่ตากเปิดเป็นศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (ตสม) เนื่องจากกลุ่มงานเวชกรรมสังคม ของโรงพยาบาล ตสม. ไม่มีแพทย์ ในส่วนของภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน เวชศาสตร์ครอบครัวและอาชีวเวชศาสตร์ จึงขาดผู้สอน และผมได้รับการอุปโลกน์ให้มาทำหน้าที่หัวหน้าภาควิชานี้ จนได้สอนนิสิตแพทย์จบไปแล้ว ๔ รุ่น (รุ่นที่ ๔ เพิ่งจะเลี้ยงฉลองแสดงความยินดีไปเมื่อ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕)
ภาควิชานี้ เรียกเป็นชื่อสั้นๆว่า CFOM ก็มาจาก Community, Family, Occupational Medicine มีวิชาที่รับผิดชอบ ๓ วิชา ๓ ระดับชั้นคือปี ๔-๕-๖ โดย
CFOM1 ของปี ๔ เน้นเรียนภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติด้านเวชศาสตร์ครอบครัวเป็นหลักและเสริมด้วยเวชศาสตร์ชุมชน เรียน ๑ เดือน
CFOM2 ของปี ๕ เน้นเรียนเวชศาสตร์ชุมชนโดยออกฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน ๔ สัปดาห์และเรียนอาชีวเวชศาสตร์อีก ๒ สัปดาห์
CFOM3 ของปี ๖ เน้นการนำเอาความรู้ทั้งหมดที่เรียนไปฝึกปฏิบัติเป็นแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชน ๔ สัปดาห์
ในภาคการศึกษานี้ ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลเพิ่มอีก ๑ วิชาเพราะไม่มีภาควิชาใดรับก็คือวิชาวิจัยพื้นฐาน (Basic Medical research) เรียน ๑ เดือน
ช่วง ๒ รุ่นแรก ผมรับผิดชอบคนเดียว ต่อมาได้คุณหมอวัสนา และคุณหมอโรจนศักดิ์ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว รพ.แม่สอดมาช่วย ปีนี้ทาง ตสม.ได้หมอรุ่งนภา แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวน้อใหม่ไฟแรง มาปฏิบัติหน้าที่ ผมจึงได้พ้นจากหน้าที่หัวหน้าภาคไปโดยปริยาย
นิสิตแพทย์ที่เรียนที่ตากเป็นกลุ่มNew tract ที่จบปริญญาตรีด้านสุขภาพและทำงานในกระทรวงสาธารณสุขแล้วเข้ามาเรียน เห็นได้ชัดว่านิสิตเหล่านี้มีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจ มีความเป็นผู้ใหญ่และทำงานร่วมกับวิชาชีพอื่นๆได้ดีมาก
มา confirmed เห็นด้วยครับ นิสิตที่จบ ปริญญาตรี มีความสมบูรณ์ ทั้ง สติ ปัญญา และ ตั้งใจเรียนรู้ มากมากที่เดียวครับท่าน