เมื่อโอกาสเปิดให้ได้เวลาจากรุ่นน้องหมอหลายคน ก็ได้คุยกันจนทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน ได้ให้กำลังใจ ได้ช่วยกันทำให้สติของบรรดาน้องๆตื่น-รู้ ความเปลี่ยนแปลงในตัวตนของคนรุ่นน้องก็เกิดขึ้น
เพียงแต่คุยใหัเข้าใจบทบาทแห่งตน เข้าใจ “ความหวัง” ที่คนอื่นมีต่อ และ ชวนให้ “ดูแลตัวเอง” หมอคนหนึ่งที่ทำตัวสบายๆ คิดว่าเข้างานสายแล้วไม่เป็นไรก็เปลี่ยนไป พาตัวเองมาทำงานเช้าได้ในไม่กี่วัน
เพียงแต่คุยให้ เข้าใจเรื่องที่ “คิดได้ ให้ได้คิด” หมอคนหนึ่งในอีกร.พ.หนึ่งที่อยู่ไกลกันมาก กำลังรู้สึกหมดพลังกับการงาน จนต้องขอพาตัวไปอยู่ห่างจากครอบครัว ก็ใจสว่าง มีพลัง ใจโปร่งโล่ง ไม่น่าเชื่อว่าพูดเพียงแค่ “ดีแล้วละ ไปอยู่ใกล้คนดีๆเพื่อรับพลังที่อบอุ่นมาเติมให้ตัว” จะมีพลังถึงเพียงนี้
ไม่กี่วันมานี้ ทำหน้าที่กรรมการสอบสัมภาษณ์รับคนเข้าทำงาน เด็กคราวลูกรวม 6 นาง และ 1 หนุ่มพากันมาสอบ
ป้อนคำถามเกี่ยวกับครอบครัว ความมั่นใจในตัวเองเป็นหัวข้อสนทนา ก็พบความแปลกว่า กว่าครึ่งของเด็กหลั่งน้ำตา น้อยๆหน่อยก็ตาแดง มากหน่อยก็ปล่อยโฮ จนต้องให้เวลาตั้งสติ ต๊กกะใจวิ่งหาทิชชูให้แทบไม่ทัน
นึกสงสัยว่าบรรดากรรมการทำอีท่าไหนเข้าละ ชวนคุยต่อจึงรู้ว่า ต้นเหตุมาจากโจทย์ “วาดรูปภาพแห่งความสุขในวัยเด็ก” ที่ให้ทำไว้ก่อนชวนมาสนทนาตะหาก ที่ไปทำให้ตัวตนข้างในของเด็กตื่น แล้วพาให้เกิด “อาทรเสวนา” ขึ้นในโลกภายใน
ได้เห็นคนที่ตื่นรู้เร็ว ทันอารมณ์ บ๊ายบายอารมณ์ได้เร็ว
ได้เห็นว่าเมื่อทำให้คนบ๊ายบายสิ่งที่ครุ่นคิดอยู่ได้ อารมณ์ก็ไม่ตามติดมา
ได้เห็นเบื้องหลังความภูมิใจที่ทำให้คนน้ำตาหล่นแปะว่า มีความเจ็บปวดฝังลึกอยู่ในความคิด เมื่อไรคนจ๊ะเอ๋กับอารมณ์นั้นได้ อารมณ์ก็หยุด มีรอยยิ้มผลิบาน บ๊ายบายความคิดได้
เป็นอะไรที่น่าทึ่ง ถือว่าเป็นมงคลที่ได้รับในเดือนแห่งความรักปีนี้ จึงบันทึกไว้
แค่พูดคุยให้ “คิดได้ เพื่อให้ได้คิด” คนก็เปลี่ยนได้ ตัดสินใจที่ จะ “จบ” หรือจะ “จม” กับอารมณ์ต่อไปได้ ดวงจิตประภัสสรนี่น่าทึ่งจริงๆ
16 กุมภาพันธ์ 2555
ขอบคุณบันทึกดีดีจากอาจารย์หมอค่ะ
มันไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้
ต้องฝึกต้องหัด
ชอบครับ
โจทย์ "วาดรูปภาพความสุขในวัยเด็ก" นี่น่าจะใช้ในการสัมภาษณ์นักศึกษาได้ด้วยโดยเฉพาะหลักสูตรที่ไม่ได้เน้นการสอบข้อเขียนครับ มีโอกาสผมจะขออนุญาตยืมไปใช้นะครับ
สวัสดีครับอาจารย์หมอครับ
ผมไปประชุมงานหนึ่ง
วิทยากรให้ผม Life Reviwe
วาดรูปให้สวยงามกับเส้นทางชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงปัจจุบัน
รู้สึกดีมากครับ ...มีจุดเล็ก ๆ ในใจของทุกคน
(ถ้าเปิดใจและไว้ใจกัน)
ได้เรียนรู้ชีวิตตนเอง ผู้อื่น และโลกจริง ๆ ครับ
ขอบคุณบันทึกนี้ครับ
เสาร์สวัสดีค่ะพี่หมอเจ๊
อยากเจอคำถาม แห่งความรื่นรมย์ ให้ใจได้เบิกบาน อย่าง คำถามข้างต้นจัง
จำได้แม่นยำว่า เจอคำถามสอบสัมภาษณ์เข้าเป็นนิสิต "หากได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะเห็น ทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง "
สุขสันต์ วัน เดือนแห่งความรักนะคะพี่หมอ
เขาถึงพูดกันว่า สำคัญที่หัวจิตหัวใจใช่ไหมครับ อ่านแล้วสบายใจจัง
อ่านแล้วยังนึกถึงบุคลิกภาพของหมอค่ะ ยกนิ้วให้
แต่ฝึกยากจริงๆ