๙๗. อย่ารีบด่วนสรุป


อย่ารีบด่วนสรุป

 

 

อย่ารีบด่วนสรุป  :

                การที่คนเราทุกคนเกิดมาหลังจากจบการศึกษาแล้ว ทุกคนต่างมุ่งหวังในเรื่องของการทำงาน ในช่วงชีวิตวัยนี้คงไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องราวของชีวิตมากนัก แต่มีความหวังและมุ่งหวังอยู่ประเด็นที่ว่า “ต้องหางานทำให้ได้”...และจะไม่ค่อยคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ มากนักเพราะเป็นวัยที่อยู่ในช่วงที่สนุกสนาน ร่าเริง แต่ก็อาจไม่เหมือนกันบางคนเสียทีเดียว ขึ้นอยู่กับพื้นฐาน + ความอบอุ่น + ปัญหาของครอบครัวของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งแต่ละคนเกิดมาอาจจะแตกต่างกัน

                แต่เมื่อทำงานแล้วได้สักระยะหนึ่ง คราวนี้ก็จะต้องเริ่มคิดถึงเรื่องการสร้างครอบครัว การมีคู่ การบวช การแต่งงาน การมีบุตร การมีรถยนต์ การมีบ้าน รวมถึงเรื่องการสร้างฐานะให้กับตนเองและครอบครัว การเก็บเงิน สำหรับสภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าสภาพแวดล้อมไม่ค่อยดี บอกได้เลยว่า การทำงานไปก็ไม่ค่อยมีความสุข สภาพแวดล้อมก็ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่เพื่อนร่วมงานนี่สิ สำคัญมาก รวมถึงผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง ถ้าใครได้อยู่กับผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง ที่ดี บอกได้เลยว่า “องค์กรนั้นประสบผลสำเร็จในเรื่องงานไปเกินครึ่ง” เพราะจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดอาการมีความสุข + ความสนุกต่อการทำงาน อยากคิด อยากทำงาน เพราะตนเองเกิดความสุขต่อการปฏิบัติงานและจะมีชีวิตที่ร่าเริงเพราะมีความสุขต่อการทำงาน เรียกว่า "จิตเกิดสุข"

                แต่ถ้าองค์กรไหน มีผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง ไม่ดี ชอบว่า ชอบกระแน่กระแหน ชอบใส่ความ ชอบนินทาผู้อื่น ชอบคิดแต่ประโยชน์ส่วนตน ก็บอกได้เลยว่า “องค์กรนั้นเตรียมแพ้ไปแล้วครึ่งหนึ่งเช่นกัน” เพราะจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดอาการไม่มีความสุข + ไม่สนุกกับการทำงาน เพราะทำงานไปก็โดนผู้บังคับบัญชาว่า เพราะไม่ถูกใจ (เนื่องจากเอาความรู้สึกของตนเองเป็นที่ตั้ง เรียกว่า ไม่มีเหตุผล) ทำดีมาก ๆ หรือทำงานมาก ๆ ก็โดนเพื่อน ๆ กระแน่ะกระแหน  นินทาไปต่าง ๆ นานา คนปฏิบัติก็เกิดการไม่เป็นสุขกับการทำงาน เรียกว่า "จิตไม่เกิดสุข"

                บางคนหันไปพึ่งทางนั่งสมาธิ + วิปัสสนา ซึ่งผู้เขียนก็เห็นว่า “เป็นสิ่งที่ดี เพราะผู้เขียนก็ได้ลงมือปฏิบัติดูบ้างแล้ว ทำให้จิตของตัวเราโล่งขึ้น ลดความกดดัน มีสติขึ้นมาก เพราะทำให้ใจเรานิ่ง สงบ ไม่คิดเรื่องอื่น ไม่ฟุ้งซ่านเพราะเราเอาจิตมาอยู่ที่ตัวของเรา รู้ตัวเราเองว่าเรากำลังทำอะไรอยู่”...แต่ก็มีบางคนบอกว่า...สำหรับเด็ก ๆ ที่อายุประมาณ 30 – 35 ปี ถ้านั่งสมาธิ + วิปัสสนาแล้วน่าจะผิดปกติทางด้านจิต เพราะเด็กในวัยนี้ส่วนใหญ่เขาจะไม่ปฏิบัติกัน...ผู้เขียนได้ยินแล้ว ก็นั่งคิดต่อว่า...ก็คนที่ท่านพูดถึงนั้น เขาทำพฤติกรรมโดยการนั่งสมาธิ + นั่งวิปัสสนาได้ ผิดกับคนบางคนที่นั่งทำสมาธิ นั่งวิปัสสนากับเขาไม่ได้ พอนั่งก็คงจะร้อนรุ่มไปหมด เพราะจิตใจไม่นิ่ง...ผู้เขียนคิดต่อว่า ก็ถ้าไม่ลองฝึกปฏิบัติแล้วมันจะไปทำได้อย่างไร เพราะของแบบนี้มันต้องลองหัดทำ เหมือนกับเรื่องการข่มใจตัวเอง...การเอาชนะใจตัวเองนั่นเอง ความจริงแล้วถ้าทำได้ก็จะเป็นผลดีต่อจิตใจของตัวเอง ไม่คิดฟุ้งซ่าน ไม่เพ้อเจ้อ ใจจะสงบ นิ่ง ไม่วอกแวก…สามารถนำมาบูรณาการใช้กับชีวิตและการทำงานของเราในแต่ละวันได้เป็นอย่างดีทีเดียว ซึ่งผู้เขียนสามารถบอกได้เลยว่า ถ้าตัวเราเองสามารถนั่งสมาธิ ตั้งสติได้ การทำงานนั้นสนุกมาก ๆ แม้แต่จะเกิดปัญหาใด ๆ ก็สามารถแก้ไขได้อย่างง่ายดาย เพราะเรามีสติในการคิด...ทำให้ผู้เขียนเห็นถึงความแตกต่างของตนเองกับผู้อื่นในเรื่องของการทำงาน ซึ่งคนอื่นไม่ทราบหรอกว่าเป็นเพราะผู้เขียนฝึกให้จิตนิ่ง นั่งสมาธิ เมื่อมีสติผู้เขียนจึงสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวในการทำงานได้...การนั่งสมาธิ นั่งวิปัสสนาแบบนี้ ผู้เขียนก็ยังเคยเห็นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตอนเช้าประมาณ 08.00 น. (เมื่อคราวที่แพทย์นัดไปตรวจความดัน + เคอเรสเตอรอล) ก่อนที่พยาบาลจะปฏิบัติงานกันได้นั่งสมาธิ ประมาณ 10 – 15 นาที เพื่อทำใจให้สงบและเตรียมพร้อมรับต่อการทำงานในวันนั้น...ผู้เขียนยังเคยนั่งตามที่เจ้าหน้าที่บอกเช่นกัน...ก็รู้สึกดี...

                แทนที่คน ๆ นั้น เขาจะคิดยาว ๆ แต่เขารีบด่วนสรุปว่า “คนอายุ 30 – 35 ปีที่นั่งวิปัสสนาแล้วจะเป็นเหมือนโรคจิตไม่ปกติ มีอะไรในใจ"...และพฤติกรรมของคนผู้นี้ก็ไม่เคยทำด้วย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เขาสามารถนั่งสมาธิ + นั่งวิปัสสนาได้ แล้วเขาผิดปกติทางด้านจิต เพราะคนที่เขาปฏิบัติ เขาทำได้ เขาข่มจิตของเขาได้มากกว่า... ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ ถ้าตัวเราลองหัดฝึกปฏิบัติ ผู้เขียนมีความคิดว่า สามารถทำได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับที่ตัวเราปฏิบัติมากกว่า และก็ไม่ควรไปว่าใครเขาว่า...นั่งวิปัสสนาแล้วไปเกี่ยวกับจิตไม่ปกติ...เพราะคุณยังไม่เคยคบหรือรู้จักเขาดีพอเลย คุณก็ด่วนสรุปว่าเขาเป็นคนไม่ปกติแล้ว...ถ้าสักวันหนึ่ง คุณได้คบกับเขา แล้วเขาไม่เป็นแบบที่คุณคิด เขากลับเป็นคนดีมีเหตุผล น่าคบหาสมาคมด้วย ดีกว่าคุณเห็นอีกคนที่คุณคิดว่าใช่และเป็นคนดีในตอนแรกเสียอีก...คุณเองนั่นแหล่ะ จะต้องนึกเสียใจว่า “รู้แบบนี้ ตัวเราไม่น่ารีบด่วนสรุปไปว่าเขาก่อนเลย”...

 

นี่เป็นความคิดของคนที่เป็น ดร.และจบจากเมืองนอกเสียด้วยนะเนี่ย!!!...เป็นกรณีที่ทำให้เห็นว่า คนเรียนจบสูงสุดของปริญญาก็ใช่ว่าจะคิดอย่างถูกต้อง...เป็นการคิดแบบเอาตนเองมาเป็นมาตรฐาน...เพราะตนเองไม่ได้ปฏิบัติ จึงไม่รู้ แล้วรีบด่วนสรุป...รวมทั้งทำให้เห็นว่า...คนที่มีการการันตีติดตัวเช่นนี้ จะพูด จะคิด จะทำอะไร ควรระวังตัวไว้เป็นอย่างยิ่ง...เพราะมีคนเห็นพฤติกรรมของคุณอยู่...ยิ่งถ้าเป็นผู้บริหารด้วยละก็ ยิ่งต้องควรระวัง...

 

 

หมายเลขบันทึก: 478948เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2012 21:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม 2013 15:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)
  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ ดร.ธวัชชัย Ico24
  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ คุณแสงแห่งความดี Ico24

ขอบคุณสำหรับ ข้อคิดที่สะท้อนออกมาได้อย่างเห็นภาพคะ

..การด่วนสรุป เพราะเราคิดไปเองว่าคนนั้นเป็นอย่างนั้น อย่างนี้

ดังนั้นสิ่งทีมีค่า คือ การได้คุยกันในบรรยากาศสบายๆ

วันนี้ก็ได้คุยกับผู้ร่วมงาน ท่านหนึ่ง ซึ่งตัวเองเคยฟังมาแต่ด้านลบ ก็พลอดมีอคติไปด้วย

แต่เอาเข้าจริง เขาก็เป็นคนทำงานเอาใจใส่ ดีมากคนหนึ่ง

การคุยแล้วพิสูจน์ด้วยตนเอง

ทำให้ ได้เพื่อนร่วมงานที่ (เรารู้สึก) ดี เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน

สวัสดีครับ ถ้าอย่างนั้นผมคงเป็นคนหนึ่งที่ไม่ปกติในความคิดของ ดร.คนนั้น... แต่กลับเป็นคนปกติในหมู่กลุ่มที่ปฏิบัติด้วยกัน และมอง คนประเภทอย่างเช่น ดร.นั่น เป็นคนผิดปกติ. อ้าว..ผมกลายเป็นคนด่วนสรุปไปซะเองแล้ว :) แต่จะว่าไป ส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ) ที่มีการศึกษาสูงๆ มักจะมีอัตตาตัวตนสูง มักเชื่อเหตุผล(ของตัวเอง) ใช้เหตุผล(ของตัวเอง) มาตัดสินเรื่องต่างๆ แล้วก็เชื่อเช่นนั้นจริงๆ จนบางทีทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็มี.... แต่ก็ช่างเถอะครับ เราเห็นเขาเป็นอย่างงั้น เขาก้เป็นครูสอนเราได้ เตือนสติเราได้ ทำให้เรารับรู้ว่ามีเรื่องแบบนี้ด้วยและเราจะระวังตัว ไม่เป็นแบบนั้นเหมือนเขา ขอบคุณนะครับ ได้มาอ่าน เป็นการเตือนสติที่ดีมากครับ

  • ขอบคุณค่ะ อาจารย์ ป.Ico48
  • การที่เราได้พูดคุยกันมากกว่า จะทำให้เราสัมผัสตัวตนจริง ๆ ของเขาได้ พูดคุยกันก็ยังไม่พอ ต้องคบหาสมาคมแบบจริงจัง จึงทำให้รู้จักตัวตนเขาจริง ๆ ค่ะว่าคน ๆ นั้นเป็นคนเช่นไร
  • บางครั้งคนที่เราไม่เคยพูดคุย คบหาด้วย แต่ถูกอีกฝ่ายพูดเสียดสีเขาให้เราฟังก็ดูจะไม่เป็นธรรมกับเขาคนนั้นเสียจริง ๆ ด้วยค่ะ
  • การที่ได้เข้ามาทำงานกับคนในหมู่มากนี่ ทำให้ตัวเราเห็นพฤติกรรมของคนที่แตกต่างกันมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน...
  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจด้วยค่ะ
  • สวัสดีค่ะ คุณดินดอน Ico48
  • 555...เข้าใจพูดนะคะ...ถูกต้องค่ะ ที่คุณพูดคนที่มีการศึกษาสูง (บางคน) มักจะมีอัตตาตัวเองสูง อาจคงไม่ใช่เหตุผล เป็นเพราะความรู้สึกของตนเองมากกว่ากระมังค่ะ เพราะถ้าคนใช้เหตุผล เขาต้องบอกได้ว่ามีเหตุอะไรและผลที่จะได้คืออะไร แต่นี่ เป็นความรู้สึกของตัวเองมากกว่า...เพราะเขาบอกว่า "เขารู้สึกว่า..."
  • แต่บางครั้ง คนที่เป็นครูบาอาจารย์ และมีวุฒิการศึกษาสูง ๆ ยิ่งต้องระวังให้มากขึ้น จะพูด จะทำอะไรออกมา เพราะมีคนสังเกตการกระทำ คำพูดของคุณอยู่ (ไม่ได้จ้องจับผิดนะคะ) เพราะถือว่าคุณเป็นหนึ่งเหนือกว่าคนอื่นแล้ว ควรทำตนให้คนที่เห็นเคารพและศรัทธา ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นภาพลบติดตาของคนที่ได้พบเห็นค่ะ...
  • การที่มีคนแบบนี้ไงค่ะ พอสอนเด็กแล้วก็จะทำให้พิมพ์ที่ได้บิดเบี้ยวไปด้วยไงค่ะ ยกเว้นศิษย์คนนั้นมีความเป็นตัวตนของตนเองจริง ๆ จึงจะไม่ทำตามในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง...
  • ที่เขียนเพราะต้องการให้เป็นข้อคิดกับคนในหมู่มากในสังคม เพราะทุกวันนี้ดูเหมือนมันวุ่นวายกันมากขึ้นค่ะ...

ด่วนสรุป มัก หลุด หลุด ประเด็นครับท่าน

  • ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ คุณ Ico24 + น้อง Ico24
  • สวัสดีค่ะ อาจารย์ Ico48
  • ถึงบอกไงค่ะ ว่าไม่ควรรีบด่วนสรุป...ควรคิด วิเคราะห์ให้ดีก่อน จริงไหมค่ะ...จึงอย่ารีบด่วนสรุปประเด็น เพราะจะทำให้หลุดประเด็นไปค่ะ คริ ๆ ๆ

อ่านบทความอาจารย์แล้ว สะท้อนให้เห็นสังคมเราทุกวันนี้เลยคับ เก่งวิพากษ์วิจารย์คนอื่น ชักพาคนอื่นคิดตาม ไม่ค่อยได้สำรวจความคิดตัวเอง เด็ก ๆๆๆ ทุกวันนี้ ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่ผู้ใหญ่เป็น ....ทำไงดีหละ เด็ก ๆๆๆๆ ที่มีความคิดบริสุทธิ์อยู่มากจะรู้จักฟังให้มาก พิเคราะห์หาเหตุหาผล จะถูกจะผิดก็ไม่ผลีผลาม ใคร่ครวญด้วยความเป็นจริง อาจารย์ช่วยแนะบ้างนะคับ

    • ค่ะ คุณ kt
    • เป็นแบบที่คุณพูดจริง ๆ ค่ะ ลืมนึกไปกระมังค่ะว่า วิพากษ์ วิจารณ์ คนอื่นได้ แต่ลืมกลับมาดูที่ตนเอง คิดว่าตนเองคงจะ สมบูรณ์แบบ ยิ่งคนเราที่เป็นครูที่สอนคนแล้ว ยิ่งต้องระวังให้มาก ๆ ก็ว่าได้ อย่าลืมตัวว่าตัวเองสมบูรณ์แบบแล้ว เพราะในความสมบูรณ์แบบ ก็ยังมีความที่ไม่สมบูรณ์หลงเหลืออยู่ เพราะถ้าพิมพ์ดี ๆ ออกไปแล้วจะได้ลูกพิมพ์ที่ดี ๆ ตามไปด้วย แต่ถ้าพิมพ์มีรอยร้าว รอยตำหนิแล้ว บอกได้เลย ได้ลูกพิมพ์ออกไปไม่ดีแน่ ๆ เลยค่ะ
    • เป็นห่วงสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ๆ เช่นกัน นี่เป็นปัญหาสังคมเลยนะคะ เพราะหมายถึงว่า ถ้าเด็กรุ่นใหม่ คิดแบบมีเหตุมีผลละก็ ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นคนที่รีบด่วนสรุปแบบที่เขียนละก็ น่าสงสารเมืองไทยจริง ๆ ค่ะ เพราะจะให้ความไม่เป็นธรรมกับคนที่เขาไม่สามารถตอบโต้หรือโต้แย้งได้ค่ะ
    • ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเจอบ้าง กับที่เมื่อคนเรามีการศึกษาสูงขึ้นแล้วก็คิดว่าความคิดหรือความรู้สึกของตนเป็นใหญ่และถูกต้องคนเดียว ลืมนึกถึงเรื่องหลักการ หรือเหตุผล

ขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ พี่นีนาถ...Ico24

ค่ะด่วนสรุป ผิดพลาดได้ง่าย  แปลกนะคิดได้ไงว่าผู้อายุน้อย นั่งวิปัสสนา จิตไม่ปกติ ยิ่งอายุน้อยปฏิบัติได้ยิ่งดีๆต่อการดำรงชีวิตมากๆ  ค่ะคนเราความคิดต่าง แต่มีความเชื่อ ความคิดผิดๆ แล้วทำให้ผู้อื่นคิดผิดไปด้วยนี้ซิ หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากด้วยนะคะ

น้ำมันหอมๆมาฝากทดลองทำแล้วนำไปทำอาหารแทนน้ำมันอื่นได้ค่ะ

  • สวัสดีค่ะ พี่ดา Ico48
  • คงเป็นความคิดของคนรุ่นใหม่กระมังค่ะ ที่เขามุ่งแต่เรียนเป็นหลัก แต่ไม่ได้ปฏิบัติแบบที่คนอื่น ๆ เขาได้ปฏิบัติ ก็เลยเหมารวมสรุปว่า ความรู้สึกของตนเองนั้นถูกต้อง
  • เห็นห่างหายไปอย่างนี้
  • อย่ารีบด่วนสรุปว่าไม่คิดถึงกัน
  • สรุปเพียงแต่ว่า...........คิดถึง ผอ.บุษย์เสมอค่ะ

 

  • คิดถึงเช่นกันค่ะ ครูอิง Ico48
  • ระยะนี้ เห็นพวกเราที่เคย ๆ คุยกัน ห่างหายไปกันหลายคนเลยนะคะ
  • บุษเองเข้ามาใน G2K. ยังเหงา ๆ อยู่เลย เห็นพวกเราหายไปกันหลายคนเลยละจ๊ะ แต่ก็เข้าใจ คงมีภาระงานกันนะคะ
  • แต่อย่าลืม!!!...แวะเข้ามาทักทายกันบ้างนะคะ...
  • ยังคิดถึงอยู่เสมอเช่นกันค่ะ...สำหรับเรื่องนี้ จะไม่รีบด่วนสรุปจ้า...ว่าไม่คิดถึงกัน แต่จะสรุปว่า "ยังคิดถึงกันเสมอ ๆ จ้า"...คริ ๆ ๆ...

สวัสดีค่ะ

     ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ..จะติดตามในบันทึกต่อไปค่ะ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท