แนวปฏิบัติในการคำนวณหาเปอร์เซนต์การเลื่อนเงินเดือน


การเลื่อนเงินเดือน

 

 

ตามประกาศ ก.พ.อ. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓ ข้อ ๔ และข้อ ๙ ที่แสดงถึงเจตนารมณ์ให้ใช้คะแนนการประเมินรายบุคคลมาเป็นฐานการคำนวณเปอร์เซนต์การเลื่อนเงินเดือน

หากใช้คะแนนที่ได้จัดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ร่วมกับฐานการคำนวณการเลื่อนเงินของแต่ละคนมาใช้ในการพิจารณา สามารถวิเคราะห์โจทย์ปัญหาตามแนวคิดการวิจัยดำเนินงาน เรื่อง กำหนดการเชิงเส้น (Linear programming) ได้ ดังนี้

1. เป้าหมาย คือ ต้องการหาเปอร์เซ็นต์การเลื่อนเงินเดือนที่รวมสูงที่สุด เพื่อให้ทุกคนได้เลื่อนเงินเดือนมากที่สุดเท่าท่ีจะเป็นไปได้

เช่น หา a,b ซึ่งเป็นตัวคูณฐานการคำนวณเงินเดือน (เพื่อหาเงินที่จะได้เพิ่มขึ้นจากเงินเดือน) ที่ทำให้ a+b มีค่าที่เป็นบวกสูงที่สุด (นาย X มีฐานการคำนวณ 10,000 หาก a=0.10 นาย X จะได้เงินที่เพิ่มขึ้นจากเงินเดือนเดิมเดือนละ 1,000 บาท)

2. ข้อจำกัดแรก คือ ผลรวมของเงินเดือนที่แต่ละคนได้เพิ่มขึ้นตามฐานเงินเดือนและเปอร์เซนต์การเลื่อนเงินเดือน จะต้องไม่เกินกว่ากรอบวงเงินรวมที่หน่วยงานได้รับจัดสรร (M) ให้มาใช้ในการเพิ่มเงินเดือนรวม เช่น M=1,500 บาท เป็นต้น

ตามตัวอย่างแรก สมมติให้ นาย Y มีฐานคำนวณ 20,000 บาท นั่นคือ

(10,000)(a)+(20,000)(b) <= 1,500

3. ข้อจำกัดกลุ่มที่สอง คือ เปอร์เซ็นต์การเลื่อนเงินเดือนสูงที่สุดของแต่ละคน จะมากกว่าขั้นต่ำที่หน่วยงานกำหนด แต่ไม่เกินร้อยละหกของฐานการคำนวณตามที่ ก.พ.อ. กำหนด เช่น หน่วยงานต้องการให้ทุกคนได้เงินเพิ่มจากฐานการคำนวณ ไม่น้อยกว่า 1% แสดงว่า a,b ต้องมีค่าอยู่ระหว่าง 0.01 ถึง 0.06 นั่นคือ

0.01 <= a,b <= 0.06

 

4. ข้อจำกัดกลุ่มที่สาม คือ คะแนนการประเมินที่แตกต่างกัน ควรถูกใช้เพื่อกำหนดเปอร์เซ็นต์การเลื่อนเงินเดือนที่แตกต่างกันระหว่างแต่่ละคน เช่น นาย X และนาย Y มีคะแนนจากการประเมินเท่ากับ 100 และ 50 ตามลำดับ

หากกำหนดให้ a และ b มีค่าเท่ากันคงไม่เป็นธรรมเมื่ออิงกับคะแนนจากการประเมิน อัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่าง a ต่อ b คือ ต้องไม่น้อยกว่า 100 ต่อ 50 ซึ่งเท่ากับ 2 ที่แสดงถึง ถ้่านาย Y ได้เพิ่ม 1 บาท นาย X ควรจะได้ไม่น้อยกว่า 2 บาท (เนื่องจากคะแนนประเมินเป็น 2 เท่าของนาย Y) กล่าวคือ

(a)/(b) >= (100)/(50) หรือ (50)(a) >= (100)(b) นั่นคือ

 

(50)(a) - (100)(b) >= 0

ใช้วิธี Simplex method หาคำตอบที่เหมาะสมได้ทันที ซึ่งตอนนี้ Excel มี add-in ที่เรียกว่า solver อยู่ในเมนู "ข้อมูล" แต่ต้องขยันป้อนข้อจำกัดนิดนึงนะครับ

ทดลองกันดูนะครับ สงสัยก็อีเมล์มาถามได้ที่ [email protected] นะครับ

สำหรับคนที่เป็นเซียนด้่านการคำนวณจะทราบถึงวิธีอ่านค่าข้อมูลออกไปสร้างเมตริกซ์ข้อจำกัดและประมวลแล้วส่งคำตอบกลับมายังไฟล์ excel ว่าก็ทำได้อยู่เหมือนกันนะครับ

ทั้งหมดจะให้เปอร์เซ็นต์การเลื่อนเงินเดือนจากฐานคำนวณที่เป็นธรรม ตามคะแนนการประเมินที่แตกต่างกันและสามารถลดเวลาในการหาคำตอบเบื้องต้นได้อย่างแท้จริง

หมายเลขบันทึก: 478202เขียนเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2012 06:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 09:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท