กำกับ/เขียนบท : Asghar Farhadi นำแสดง : Peyman Maadi ... Nader Leila Hatami ... Simin Sareh Bayat ... Razieh ความยาว : 123 นาที ระดับความชอบ : 9.75/10 เป็นหนังสัญชาติอิหร่านที่กวาดรางวัลมาแล้วทุกเวที ในนิตยสารสีสันก็ชม จดใน Waiting List ไว้เนิ่นนานหลายเดือน น้องเอกเช้า ณ Exteen นักดูหนังก็มาชมให้ได้ยินกันอีกเสียง เมื่อได้ข่าวว่า House Rama RCA จะนำมาฉาย ไม่พลาดครับ หนังเนื้อเรื่องง่ายๆ แต่รายละเอียดเยอะ นาย Nader กับนาง Simin ไปยื่นขอหย่า แต่ตกลงกันไม่ได้ นาง Simin ต้องการเดินทางออกนอกประเทศ โดยจะให้สามีและลูกสาวไปด้วย แต่สามีไม่ยอมไปเพราะต้องดูแลพ่อที่เป็นอัลไซเมอร์ ลูกสาวกำลังเรียนปอหกตัดสินใจอยู่กับพ่อ ด้วยหวังว่าพ่อกับแม่จะไม่แยกทางกัน คุณแม่ย้ายออกจากบ้าน หลังจากขอหย่าไม่สำเร็จ ครอบครัวนี้เป็นชนชั้นกลาง ฐานะดี มีรถขับทั้งสามีภรรยา เมื่อคุณแม่ย้ายออกไป ได้ว่าจ้างแม่บ้านมาช่วยดูแลบ้านและคุณปู่ที่เป็นอัลไซเมอร์ แม่บ้านท้องลูกคนที่สองอยู่ ลูกสาวคนแรกก็มาทำงานบ้านกับแม่ด้วย วันแรกในการทำงานเธอก็เจอศึกหนัก คุณปู่ปัสสาวะรดกางเกง เธอต้องเปลี่ยนกางเกงให้ แต่มันเสี่ยงต่อบาป เธอเลยต้องโทรศัพท์ถามสายด่วนความดีว่าบาปไหม? พอชี้แจงถึงความจำเป็น สายด่วนก็สรุปว่าไม่บาป ชอบประเด็นโทรศัพท์สอบถามว่าบาปไหมนี้มากเลยครับ ไม่รู้มีจริงไหม? แสดงให้เห็นความเคร่งครัดในบุญบาปของชาวอิหร่านมาก สอบถามกันก่อนจะกระทำอะไรลงไป มีอีกหลายฉากที่ยืนยันว่าคนอิหร่านกลัวต่อการทำบาปมาก ไม่โกหก เพราะหากให้สาบานต่อคัมภีร์อัลกุรอ่านแล้ว ไม่กล้าโกหกทันที แม้จะดูงมงายสำหรับประเทศที่บอกว่าพัฒนาแล้ว สำหรับศาสนาที่บอกว่าให้ใช้ปัญญาแทนการนับถือพระเจ้า แต่หากเรางมงายแล้วไม่พูดโกหก น่าจะดีกว่าผิดศีลข้อสี่กันหน้าตาเฉยนะครับ ขอให้เชื่อในบุญบาปนะครับ เพราะการเห็นผิด จะทำให้ไปเกิดเป็นเดรัจฉาน ยากนักจะกลับมาหลุดพ้น เห็นถูกไว้ก่อนดีที่สุด เคยอ่านเจอว่าชาวบาหลียังนับถือภูติผีเทวดาที่สถิตย์ในต้นไม้ใหญ่ ทำให้ไม่กล้าตัดต้นไม้ ดูงมงามแต่ผมว่าดีต่อโลกนะครับ ดีกว่าไม่เชื่อแล้วก็ตัดต้นไม้กันครึกโครมโดยไม่สนใจผลกระทบเลย อยู่อย่างนี้โลกเราแย่แน่นอน ใครตัดต้นไม้ถือว่าทำลายโลกครับ รายละเอียดอื่นก็คล้ายๆ กับบ้านเรา เช่น มีการข่มขู่คู่กรณี ทำให้สุดท้ายต้องขอประนีประนอมยอมความกัน หนังแสดงนิสัยอย่างหนึ่งของนาย Nader คือดื้อมาก จนทำให้เรื่องที่น่าจะจบในหลายครั้งก็ไม่จบ สอนเราได้เป็นอย่างดี ยอมๆ แสร้งโง่ ปล่อยวางบ้าง เรื่องร้ายๆ จะได้ผ่านพ้นไปครับ เคยชอบสิ่งที่บอกในหนังเรื่อง In A Better World ซึ่งสอนตามคำสอนในศาสนาคริสต์ที่ว่า "หากใครตบหน้าเราข้างซ้าย ให้ยื่นหน้าข้างขวาให้เขาตบด้วย" อย่างเป็นรูปธรรม ศาสนาไหนๆ ล้วนสอนให้เป็นคนดี เพียงแต่เราเคร่งครัดขนาดไหน แค่เรารักษาศีลห้าได้ครบ ก็ปิดประตูอบายภูมิแล้วครับ อย่าประมาทกับชีวิตเลยครับ ชีวิตเราใช่จะยืนยาวนัก ดนตรี บรรยากาศ ไม่คุ้นเคย แต่ก็เข้ากันดีมาก เป็นหนังที่เล่นกับเรื่องราวเล็กๆ ใกล้ตัว แต่สื่อออกมาได้น่าติดตาม อึดอัด ลุ้นตลอดเรื่องเลยว่าจะจบอย่างไร แล้วฉากจบก็ทำได้ยอดเยี่ยมมาก แทบจะยืนขึ้นปรบมือเชียวครับ เห็นด้วยกับหลายเสียงที่ว่าหนังเรื่องนี้จะคว้ารางวัลออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศ อย่าลืมไปชมกันนะครับ มีความสุขทุกคนครับ ปล. Children of Heaven หนังอิหร่านอีกเรื่องที่เคยดู เป็นหนังที่ดีมากเช่นกัน |
สวัสดียามเย็นค่ะ
พอทราบเป็นหนังอิหร่าน ทำให้นึกถึงหนังฉากเด็กชายน้อยกะรองเท้าคู่เก่ง
และบรรยากาศระหว่างเดินไปโรงเรียนผ่านตึกปูนเปลือยคล้ายบ้านดิน ผุดพรายในทรงจำ
ยังจดจำตราบทุกวันนี้กับหนังชีวิต บทเรียบง่ายแต่กระชากใจ ชอบมากค่ะ children of heaven
การเกรงกลัวและละอายต่อการทำบาป นึกถึง อิริโอตัปปะ ในทางพุทธ สุขสันต์และขอบคุณค่ะ