เริ่มจากศูนย์ จนเป็นศูนย์ และจบที่ศูนย์


   จะว่าไปแล้วชีวิตของคนเราการได้มาเกิดนั้นจะว่าไปแล้วมันก็มาจากการไม่มีสิ่งใดเลยที่มากับเราแม้แต่สังขารร่างกายก็ไม่ได้มาแต่แรกก็มาปฏิสนธิเริ่มเป็นรูปเป็นร่างกันในร่างกายแม่แล้วเราก็เกิดออกมาเป็นคนที่มีร่างกายให้เราได้ใช้งานมีพัฒนาการในด่านต่างๆให้เติบโตจากเด็กจนเป็นผู้ใหญ่ให้เราได้ใช้ร่างกายสติปัญญาความคิดทางโลกในการทำงานการและสิ่งต่างๆเมื่อเราเข้าสู่วัยชรามันก็เสื่อมโทรมพุพังไปตามการ และในวาระสุดท้ายนั้นก็คือความตายตามปกติวิสัยของมนุษย์

   ดั่งเช่นเดียวกันจากวันแรกแห่งการได้ก้าวเข้ามาทำงานสงเคราะห์ดูแลสมาชิกผู้ใช้ยาเสพติดวันแรกนั้นไม่มีความรู้สิ่งใดเลยว่ามันเป็นอย่างไรต้องทำอย่างไรแต่ก็มีความรู้อยู่บ้างในเรื่องยาเสพติดตามที่เราๆได้เคยร่ำเรียนกันมาและก็เคยทำกิจกรรมบ้างในตอนเรียนหนังสือเคยทำงานบ้างตอนยังเป็นฆราวาสแต่ไม่รู้สิ่งใดกับงานนี้เลยจะเรียกได้เลยว่า "เริ่มจากศูนย์"

    ศูนย์ที่หมายถึง ไม่มี,ว่างเปล่า ทดลองทำไปทำมาเขา(สำนักงานคุมประพฤติ)ก็มอบคำว่าศูนย์บำบัดยาเสพติดในระบบวัดให้ มันเป็นยังไงวะทำอะไรยังไม่เป็นเลย เอาทดลองดูตรงไหนไม่ดีก็ปรับใหม่สร้างกระบวนการใหม่ทำ พระพุทธศาสนามาเป็นแกนหลักใช้มรรคแปดเป็นกรงล้อหมุนเดินไปใช้ศีลเป็นกฏจราจรบังคับใช้อิทธิบาทสี่เป็นตัวตรวจทานนำกรรมมาเป็นตัวนำทางหรือในปัจจุบันเรียกจีพีเอส

   แล้วเอาความเป็นพุทธศาสนาปรับจูนแทรกความรู้ในทางชีวิตโลกเติมเข้าไปให้มันเต็มเพราะอย่างน้อยสิ่งที่เรารู้เลยก็คือว่าได้สมาชิกมาเพื่อสร้างชีวิตกลับไปสู่สังคมที่เป็นจริงไม่ใช่มาอยู่ในแวดล้อมแห่งการปันแต่งหรือบวชเป็นพระ

   ทำไปทำมาผลงานออกเว้ย "จนเป็นศูนย์" ศูนย์ที่หมายถึง ศูนย์รวมสิ่งต่างๆ,จุดศูนย์กลางในสิ่งนั้นๆ ก็ผลงานมันดีเลยกลายเป็นว่างานสงเคราะห์ต่างๆก็วิ่งมาหาจากหน่วยงานต่างจากคนทั่วไปชื่อเสียงการสงเคราะห์สมาชิกใช้ยาเสพติดมันไม่ใช่ส่งแค่งานยาเสพติดมันส่งไปในหลายๆทางหากเราจะใช้ปัญญาเบาๆและเรามาคิดดู

   และก็เป็นศูนย์กลางการได้เรียนรู้ชีวิตคนในแง่ต่างๆทั้งดีทั้งร้ายทั้งมายินดีในการมีจิตใจเมตตาสงเคราะห์ของหลวงปู่ทั้งมารังเกียจในคนติดยากล่าวกันไปต่างๆ เป็นจุดเริ่มการนำวิถีชีวิตชาวพุทธไปปรับสอนคนติดยาเสพติดที่ขยายไปอีกหลายๆวัดในยโสธรหากวันนั้นเราไม่อดทนลงมือทำยืนหยัดมาได้ แล้วหยุดลงไปนานแล้วก็คงไม่มีเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติหน้าไหนไปเสนอทำอีกหลายวัดแต่ก็ได้รู้อีกละว่าจุดศูนย์ของเขาอยู่แค่ผลงานตามขั้นตามซี

   ตัวเราเองก็ไม่สนใจอะไรหรอกรู้แต่เพียงว่าได้กระทำในวันนี้ไว้แล้ววันหนึ่งความต่างมันจะปรากฏให้เห็นถึงความแตกต่างในสิ่งที่เราได้ทำในวันวานกลับไม่ลงมือกระทำสิ่งใดเลยเหมือนคติประจำตัว ทำ = ธรรม แปลว่าลงมือกระทำแล้วก็จะเป็นธรรมคือคุณงามความดี

   ทำไปทำมาจากศูนย์ มันเริ่มกลายเป็นศูนย์แบบพอถูๆไถๆไปได้ทำไปทำมามาแรงกระแทกจากรอบข้างเข้ามามันก็ทำไห้ต้นไม้มันเอียงได้ยิ่งโดนซ้ำไปมากๆมันก็อาจหักได้ แรงกระแทกก็มาจากกลุ่มที่เราชอบเรียกว่า "ซุมบ่ได้เวียก" (พวกไม่ได้งาน) วันๆไม่ลงมือทำอะไรหรอกมีแต่ปาก ไอ้เราทำแล้วทำเล่า สั่งอะไรเป็นลุยแม่ทัพได้รับคำสั่งบุกก็ต้องบุกให้ถอยก็ถอย สุดท้ายมันก็จะกลับมาอยู่ที่ศูนย์คือไม่มีอะไรเลยและความว่างเปล่า

   มันก็เป็นธรรมดาของทุกๆอย่าง มีเกิดขึ้น คงอยู่แล้วมันก็หายไป แฮ่ๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ได้รู้คือคนเรานั้นจิตใจมันแสนยากที่จะรู้ถึงความเป็นไปเป็นมาบางทีก็แค่ริษยา บางที่ก็แค่กิเลสเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่นว่า ไม่กล้ามาปฏิบัติธรรมถือศีลภาวนาที่วัดกลัวเด็กยาเสพติด พอไม่มีก็ไม่เห็นมา หรือบางคนมาบวชแล้วแต่ก็ยังห่วงข้าวของยึดติดของกู ของกู พ่อกู ท่านพ่อกู มันบ้ากันไปแล้ว(อาจหยาบคายหน่อยมันสุภาพมันไม่ได้อารมณ์)

   สุดท้ายนี้หากมันจะ "จบลงที่ศูนย์" ขออำนาจบุญกุศลที่ชาวสมาชิกศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดและผู้ร่วมกระทำงานทุกท่านทุกคน ที่ได้ร่วมกันสร้างกุศลผลบุญแห่งการกระทำที่ได้ทำไปแล้วด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดีจงส่งผลให้ให้สมาชิกที่เคยผ่านศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดวัดหนองไคร้พบหนทางในการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้นและประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน รวมถึงอโหสิกรรมต่อทุกสิ่งที่พยาบาทต่อศูนย์และสมาชิกทุกคนให้อโหสิกรรมต่อกันด้วย

พ.ทินนาโภ

๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

๐.๓๗ น. หยดน้ำตาไหลรินสู่ห่วงใจ

หมายเลขบันทึก: 477697เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2012 00:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 02:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มันก็เป็นเช่นนั้นเอง...

 

และสุดท้ายมันก็คือ ความว่างเปล่า ใช่หรือเปล่าค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท