ข้าพเจ้า จากบ้านนา ไปเป็นสาวฉันทนา สี่-ห้าปี ก่อนไปฝังตัวใช้ชีวิตในหลากหลายถิ่นฐาน ที่เรียกกันว่า “พุทธสถาน” ยาวนานกว่าสิบปี ช่วงสิบปีแรก เลือกใช้ชีวิตในถิ่น “กึ่งบ้านกึ่งเมือง” แต่ระยะแปดปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเลือกเข้าไปเรียนรู้ในฐานงาน การค้าบุญนิยม ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ
ฐานงานบริการปัจจัยสี่ ที่ตั้งในเมืองใหญ่ ถูกปรับให้เป็นตึกรามสูงใหญ่ตามพอสมควร ของใช้ เริ่มปรับจากไม้ กะลาหรือไม้ไผ่ ไปเป็น พลาสติก สแตนเลส ฯลฯ (แม้แต่ราวตากผ้า ก็ต้องสั่งทำพิเศษ) จนเริ่มติดนิสัยในการ ใช้ปัจจัยที่ห้า คือ เงินมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อวันหนึ่ง ข้าพเจ้าต้องกลับไปใช้ชีวิตที่ท้องทุ่ง ด้วยความจำเป็นในการดูแลบุพการีในบั้นปลายชีวิตของท่าน และไม่อาจอาจตัดสินใจเพียงลำพังได้ เพราะสายใยผูกพันธ์แห่งสายเลือดนั้น การเลือก...ต้องเผื่อญาติพี่น้องรอบข้าง ที่ยังต้องการ เสาหลักเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ที่แต่ละคนปรารถนาแวะเวียนไปเยี่ยมหา ได้โดยสะดวกทุกคนทุกฝ่าย ข้าพเจ้าจึงต้องลาจากงานประจำในเมือง สู่ถิ่นกำเนิด คือท้องทุ่ง ถิ่นที่รำลือกันมาว่า เป็น “เมือง...ตำน้ำกิน”
เมื่อปีก่อนๆความเป็นอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ของใช้เช่น “ราวตากผ้า” ยังต้องใช้แบบราวเหล็ก ใช้ลวดกันอยู่ ปีสองปีนี้ ปลีกตัวออกไปอยู่บ้านเดียว กลางทุ่ง ใกล้ทางผ่าน เพื่อทำการค้าขายเล็กๆ ความเป็นอยู่เริ่มมีการผสมผสาน การหุงต้ม มีการใช้ทั้งฟืน ถ่าน และแก๊ส การใช้ชีวิตในหมู่บ้าน ยังมีการใช้เครื่องซักผ้า ภารกิจที่ต้องเร่งรีบ มักใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้กันเป็นปกติ เพื่อความสะดวก
วันนี้ บ้านน้อย เพิงหมาแหงนกลางทุ่ง ลมโกรก ลานกว้าง แดดกล้า เหมาะแก่ความเป็นอยู่ที่ใกล้ธรรมชาติที่สุด ข้าพเจ้าจึง “ปฏิบัติการพึ่งตน”ง่ายๆดังนี้
1. ขุดหลุมสี่หลุม ลึกประมาณหนึ่งฟุต ห่าง 1×1.50 เมตร
2. ตั้งเสาให้ง่ามตั้งคาน หันเข้าหากันในแนวกว้าง
3. พาดไม้ทำคานแนวกว้าง (ถ้าหลุมห่าง 1เมตร ควรใช้ไม้ทำคานยาว 1.20-1.50 เมตร)
4. พาดไม้พาดทำราว3-6 ราว ตามแนวยาว (ถ้าหลุมห่าง 1.50 เมตร ไม้พาดทำราว ถ้าทำพองาม ก็ให้ยาวเกินพอประมาณ ถ้าต้องการใช้พื้นที่มาก ก็ให้ยาวเลยคานได้มากตามเหมาะสม)
5. ผูกเชือก หรือลวดระหว่างเสาชั้นล่าง สำหรับตากผ้าถุง หรือผ้าชุดเล็กตามต้องการ
ยอดเยี่ยมเลยครับ ;)...
สวัสดีค่ะคุณตะวัน♣เบิกฟ้า
ดีจัง เป็นประโยน์มากค่ะ ความสุขเล็กๆ ลดโลกร้อน
ขอบคุณค่ะ
ช่างคิด และช่างทำ อยู่กับธรรมชาติอย่างมีสมดุล ฝากไอเดียที่แขวนรองเท้าเก๋ๆ (แต่ยังไม่ช่วยลดโลกร้อน) ประหยัดพื้นที่นะคะ
ขอบคุณมากค่ะอาจารย์ wasawat Deewarn
ขอบพระคุณสำหรับทุกกำลังใจที่แวะเวียนผ่านมาเยี่ยมค่ะ ^____^
สวัสดีค่ะพี่แสนฝน.ดีใจค่ะที่กลับมาเปิดบ้านทักทายกันได้แล้ว(คิดฮอดๆๆ)
...บ้านเดี่ยวกลางทุ่ง!(น่าลัดทุ่งไปหา) บรรยากาศไอดินกลิ่นฟางคงหอมกรุ่นยามฝนโปรยนะคะ.(กลิ่นตอฟางถูกเผา ",__," )
...มีโอกาสได้ดูแลบุพการีนับว่าเป็นผู้มีวาสนา ขออนุโมทนาบุญแห่งกตัญญูค่ะ.
สวัสดีค่ะคุณตะวันเบิกฟ้า
สวัสดีค่ะคุณตะวันเบิกฟ้า
อุ๊ยตายและ เก๋มากเลยอ่ะ คุณตะวัน ข้างหลังราวผ้า เห็นว่ามีฟางด้วย เตรียมไว้ทำไรหรือนั่น
แต่ระวังนะ เอาฟางมาไว้ตรงราวตากผ้า ลมปลิวมา ใส่เสื้อผ้า มันจะคันเอานะ น่าภูมิใจแทน
พ่อแม่ ได้ลูกที่กตัญญู คนที่รู้คุณบิดามารดา ว่ากันว่า ไม่ตกต่ำหรอก
สวัสดีค่ะ คุณยาย มนัสดา
ดีใจๆ มีคุณยายเป็นแนวร่วม ^___^
น่าจะมีคนทำขายแล้วมังคะ คุณยาย
ราวไม้ แต่อาจจะเป็นแบบหรู ไม่ต้องขุดหลุมตั้งเสาเหมือนเราอะนะ
ขอบคุณมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ Nopparat Pongsuk
• ฟางข้าวข้างๆราวตากผ้า ใช้คลุมดินค่ะ กำลังขยายเชื้อน้ำหมักจุลินทรีย์ เพื่อให้เขาปฏิบัติการ "สร้างดินให้มีชีวิตแบบยั่งยืน" อะค่ะ (เราเป็นผู้ช่วย^____^)
• ดินบริเวณนี้ เพิ่งถมใหม่ๆ เป็นดินกรวด น้องเขยกับหลาน เค้าปลูกผัก ต้องไปขุดหน้าดินที่อื่นมาทำแปลงกันค่ะ
• ฟางโดนฝนไปสองรอบ ไม่ปลิวแล้วค่ะ แต่ถ้าลมแรง เสื้อผ้าแห้งจะปลิวแทน ^____^
• ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับกำลังใจ และความห่วงใย
เป็นไอเดียที่เจ๋งจริงๆว่างๆจะลองทำใช้บ้าง ขอบคุณมากคะ
สวัสดีค่ะสาว น้อย น้ำพอง
คึดฮอดๆๆ คือกันนนเด้ ^____^
เมื่อเช้า ลัดทุ่งไปในหมู่บ้าน ผ่่านเนินแห่งฝัน เนินผักหวานน้อยๆ มีรั้วเมื่อไหร่จะลัดทุ่งมาหาพันธุ์ผักหวานป่าหละเน้อ
ขอบคุณมากๆ ที่แวะมาเป็นกำลังใจกันเน้อ
สวัสดีค่ะคุณสมลักณ์ พัฒนะเวช
• ตากได้ จุใจจริงๆค่ะ
• มองไปมองมา คล้ายค้างบักถั่วแปบ และฟักแฟงของแม่ ตอนเราเด็กๆเลยค่ะ ^____^
ขอบคุณมากนะคะ (รออ่านบันทึกและอนุทินอยู่นะคะ)
เรียบง่ายและกลมกลืนดีจังครับ
สวัสดีค่ะ
• ท่าน วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
• ท่าน ดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์
• พี่ นาง นงนาท สนธิสุวรรณ
• ท่าน ชาตรี แตงภู่
• คุณ อักขณิช
• คุณ ...ปริม ทัดบุปผา...
• คุณ Mr. SAKDA SUEABUNTHONG
ขอขอบพระคุณดอกไม้กำลังใจจากทุกท่่านค่ะ
เตี่ยหนูเคยใช้ไม้ไผ่ เป็นเสาทำราวตากผ้าค่ะ
ตากไปตากมาไม้ไผ่ แตกใบเฉยเลย
นับวันไม้จะหายากขึ้นทุกที โดยเฉพาะเมืองใหญ่ๆแต่
สำหรับบ้านนอกอย่างเราๆ นับเป็นความโชคดีคะ
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ คุณ กระติก
ไม้ในเมืองหายากจริงด้วยค่ะ
โชคดีของบ้านเรา
ที่ไม้ไผ่ยังมีให้ใช้อยู่
ขอบคุณมากค่ะ
ได้บรรยากาศ แบบไทยๆดีจังเลยนะคะ