ผศ.นพ.พัชรพล อุดมเกียรติ ภาควิชาศัลยศาสตร์ ออร์โธปิดิกส์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจว่าโรคข้อเสื่อมและโรคกระดูกพรุนเป็นโรคเดียวกัน จึงมักเข้าใจผิดว่าการกินแคลเซียมจะช่วยป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมได้ ทั้งที่จริงแล้วการกินแคลเซียมจะช่วยป้องกันหรือช่วยชะลอเฉพาะภาวะโรคกระดูกพรุน แต่ไม่ได้มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคข้อเสื่อม
วิธีการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรคข้อเสื่อมและโรคกระดูกพรุนจึงแตกต่างกัน การป้องกันโรคกระดูกพรุนทำได้โดยการทำให้กระดูกแข็งแรงตั้งแต่เด็กและวัยรุ่น (เริ่มตั้งแต่อายุน้อยกว่า 25-30 ปี) ด้วยการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง โดยเฉพาะนม ผักใบเขียว และปลาเล็กปลาน้อย หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะโรคกระดูกพรุน ได้แก่ การรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ในปริมาณมากๆ อาหารเค็มจัด สุรา กาแฟ และการรับประทานยาบางชนิดเป็นเวลานานๆ เช่น ยากล่อมประสาท ยาที่มีสารสเตียรอยด์ ยารักษาโรคไทรอยด์ ยาลดกรดที่มีอะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบ
ผศ.นพ.พัชรพล กล่าวต่อว่า โรคข้อเสื่อมจะเกิดจากสาเหตุใหญ่ๆ คือ เกิดจากอุบัติเหตุ ความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือเสื่อมตามอายุการใช้งาน รวมถึงผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมาก ผู้ที่มีพฤติกรรมการใช้ข้อเข่าหนักในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวกับที่ต้องแบกรับน้ำหนักมากๆ ผู้ที่ชอบนั่งยองๆ หรือนั่งพับเพียบนานๆ เป็นประจำ ป้องกันการเกิดภาวะข้อเสื่อมก่อนวัยอันควรต้องรักษาน้ำหนักตัวให้เป็นปกติ หลีกเลี่ยงการใช้งานข้อเข่าที่หนักเกินไป ไม่นั่งยองๆ เป็นเวลานาน หรือในกรณีคนกรุงเทพฯที่เจอปัญหารถติดนานๆ ให้พยายามเหยียดเข่าบ้าง ไม่ควรงอเข่าเป็นเวลานาน และหลีกเลี่ยงการขึ้นบันไดสูงๆ บ่อย ควรออกกำลังกายเป็นประจำให้ถูกวิธี เช่น ว่ายน้ำ เดินเร็ว วิ่งบนลู่วิ่ง หรือวิ่งบนสนามหญ้า หลีกเลี่ยงการออกกำลังที่มีการกระแทกแรงๆ เช่น สก๊อตจั๊มพ์ หรือวิ่งบนพื้นถนนแข็งๆ เพราะจะยิ่งทำให้ข้อทำงานหนักมากยิ่งขึ้นรวมถึงการโยนโบว์ลิ่ง ซึ่งต้องงอเข่า
มติชน วันที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2549
ขอขอบคุณอาจารย์ปารินุช...