วันที่ 31 ส.ค.49 ผมไปฟัง ศาสตราภิชาน กิตติรัตน์ ณ ระนอง พูดใน Lunch Talk ของสภามหาวิทยาลัยจุฬาฯ เรื่องเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและอนาคต ท่านพูด 2 เรื่อง
1. เศรษฐกิจไทย กำลังเคลื่อนเข้าสู่สภาวะ "เงินฝืดราคาเฟ้อ" คือของแพงด้วย และคนไม่มีเงินซื้อด้วย ที่เรียกว่า stagnation ท่านบอกว่าสภาพ "เงินฝืดราคาเฟ้อ" นี้จะค่อย ๆ เกิดโดยเราไม่รู้ตัว พอรู้สึกตัวก็เกิดปัญหาใหม่เสียแล้ว ตั้งตัวไม่ทัน และจะเป็นปัญหาทั่วไปหมด เกิดแก่คนทุกกลุ่มในบ้านเมือง
ท่านบอกว่าต้องแก้โดยมาตรการทางการเงิน โดยธนาคารชาติต้องกล้าเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
2. เรื่อง Corporate Social Responsibility (CSR) ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราภิชานของศศินทร์เพื่อเป็นผู้นำทางวิชาการด้าน CSRที่เป็น CSR "ของจริง" เพราะ CSR ที่ทำ ๆ กันอยู่มักเป็นแบบเน้นการกุศล (philantropy) หรือเน้นประชาสัมพันธ์องค์กร (PR) เป็น CSR ที่รูปแบบ ไม่ใช่ CSR ที่สาระ
ผมกระซิบกับ อ. หมอประเวศว่า ผมพบพันธมิตรแล้วและผมคิดว่าจะหาทางขับเคลื่อน CSR ในรูปแบบที่ธุรกิจไปหนุนความสามารถในการเรียนรู้เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขอย่างยั่งยืนของชุมชน หรือ KM ท้องถิ่นนั่นเอง
ศาสตราภิชานกิตติรัตน์ ณ ระนอง (ขวา) คุณนวพร เรืองสกุล (ซ้าย)
วิจารณ์ พานิช
31 ส.ค.49
ไม่มีความเห็น